หลายร้อยชีวิต บนซากปรักหักพัง เหตุโกดังพลุระเบิด

นราธิวาส 31 ก.ค.-เหตุการณ์โกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิดในตลาดมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายยังคงสนธิกำลังลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ล่าสุดมีผู้ประสบภัยเข้าแจ้งขอรับความช่วยเหลือจากเหตุการณ์ในครั้งนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมแล้วกว่า 300 คน


ชาวบ้านในชุมชนมูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หลายร้อยชีวิต ต้องเผชิญการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังและความมืดมิด จากผลกระทบโกดังเก็บพลุและดอกไม้ไฟระเบิดเมื่อวันที่ 29 ก.คที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความสูญเสียที่เกิดขึ้น ความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนยังคงหลั่งไหลสู่ชุมชนแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันนี้มีความชัดเจนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาจากทางรัฐบาลว่าจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้ครอบครัวผู้ประสบเหตุและเสียชีวิตอย่างไร แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทางเจ้าของโกดัง ซึ่งเป็นต้นเหตุของการระเบิดในครั้งนี้ แม้ว่าตำรวจจะออกหมายเรียกไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้


บรรยากาศในพื้นที่ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แม้วันนี้จะย่างเข้าสู่วันที่ 3 หลังเกิดเหตุแต่บรรยากาศยังเงียบเหงาและเป็นไปอย่างโศกเศร้า เพราะหลายครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ และอีกนับร้อยครอบครัวแทบกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะทรัพย์สินเสียหายไปพร้อมกับเปลวเพลิงและแรงระเบิด

วันนี้ผู้ประสบเหตุส่วนใหญ่กลับเข้ามาสำรวจความเสียหายภายในบ้านอีกครั้ง เพื่อประเมินว่ามีทรัพย์สินอะไรเสียหายบ้าง และจะต้องซ่อมแซมในส่วนไหนอย่างไร เพื่อรวบรวมข้อมูลแจ้งให้กับทางภาครัฐประเมินว่าเข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือข้อไหน

วันนี้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบเหตุในพื้นที่ด้วย พร้อมระบุว่า ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ พร้อมฝากถึงกระทรวงมหาดไทยกำชับผู้ที่เกี่ยวข้องให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกรณีการลักลอบเก็บสะสมประทัด พลุ และดอกไม้ไฟ ในพื้นที่ต่างๆ ไม่เฉพาะแค่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษเช่น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ต้องกำชับให้ตรวจตราเข้มในพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ เพื่อป้องกันการเกิดโศกนาฏกรรมเหมือนเช่นในครั้งนี้


ส่วนภาพรวมความเสียหายจนถึงเวลานี้ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ระบุว่า ขณะนี้มีประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้นรวม 365 คน ส่วนตัวเลขผู้สูญหายขณะนี้ไม่มีแล้ว เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตที่ตัวเลขคงที่แล้วอยู่ที่ 12 คน เบื้องต้นสำหรับผู้เสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรีแบ่งออกเป็นค่าจัดการศพ รายละ 50,000 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวละ 30,000 บาท

ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 121 คน ขณะนี้มีที่ยังคงอาการหนัก 1 คน อีก 9 คนปลอดภัยแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 101 คนกลับบ้านได้แล้ว เบื้องต้นจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 30,000 บาท และได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพผู้บาดเจ็บทั่วไป รายละ 15,000 บาท กรณีบ้านเรือนเสียหาย ค่าวัสดุในการก่อสร้าง/ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ตามความเสียหาย เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินหลังละ :230,000 บาท
: เสียหายมาก (30% – 70%) 70,000 บาท
: เสียหาย (น้อยกว่า 30%) 15,000 บาท
ค่าเครื่องอุปโภค และเครื่องใช้อื่น ๆ ที่จำเป็น (เฉพาะบ้านเรือนที่เสียหายทั้งหลัง และเสียหายมาก) ครัวเรือนละ 5,000 บาท

ส่วนความคืบหน้าเรื่องของคดีวันนี้ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเปิดเผยว่า หลังจากตำรวจได้ออกหมายเรียกเจ้าของโกดังมาสอบสวนตั้งแต่วานนี้ ล่าสุดติดต่อเข้ามาว่าจะเข้ามาพบกับตำรวจในวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้เจ้าของโกดังซึ่งก่อนหน้ามีข้อมูลว่าเดินทางไปท่องเที่ยวอยู่ต่างประเทศได้เดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทยแล้วหรือไม่ แต่ยอมรับว่าเจ้าของกิจการรายนี้เคยมีประวัติถูกจับเดินคดีในฐานครอบครองประทัด ดอกไม้เพลิงมาแล้วเมื่อปี พ.ศ.2559 หรือเมื่อราว 7 ปีก่อน ซึ่งทางตำรวจได้สั่งฟ้องและดำเนินคดีไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังมีการลักลอบกลับมากกระทำความผิดซ้ำอีก

เบื้องต้นตำรวจเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา คือ การทำให้ให้เกิดการระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก และข้อหาความผิดเรื่องการครอบครองจำพวกระเบิดเพลิงและพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เป็นพื้นที่เฉพาะในเรื่องของความมั่นคงในการจำหน่ายดอกไม้เพลิง ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่นั้นต้องรอการสอบสวนเพิ่มอีกครั้ง

ส่วนดอกไม้เพลิงที่อยู่ในโกดัง ทางชุดเก็บกู้ระเบิดที่คำนวณจากหลุมที่โดนระเบิด เบื้องต้นพบมากกว่า 1,000 กิโลกรัม ส่วนการตรวจสอบว่าดอกไม้เพลิงเข้ามาถูกต้องหรือไม่ตอนนี้ได้สั่งการไปแล้วว่าวัตถุพวกนี้ต้องมีที่มาที่ไป มีขบวนการระหว่างเส้นทาง โดยจะมีกฏหมายเข้ามาควบคุมอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่การผลิต ขนส่ง เก็บรักษา และการขาย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการในการรวจสอบ นอกจากนี้ยังตรวจสอบว่ามีขายที่ไหนบ้าง ลูกค้ามีใครบ้าง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเจ้าของจะต้องมีเอกสารมาชี้แจง เรื่องนำเข้าและการส่งออก ส่วนการก่อสร้างลักษณะโกดังเก็บประทัด ดอกไม้ไฟต้องมีการของอนุญาตลักษณะพิเศษ ตอนนี้สั่งการให้ตรวจสอบแล้วเช่นกัน ขณะนี้ทางตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบความผิดหรือมีความเกี่ยวข้องก็แจ้งข้อกล่าวหาต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

“ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กป้อม” สยบข่าวชิงเก้าอี้กลาโหม ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล

พรรคพลังประชารัฐ 8 ก.ย.-“บิ๊กป้อม” ประกาศไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล – ไม่นั่ง รมว.กลาโหม ยืนยันยินดีสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เมื่อเวลา 09:18 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวถึงการต่อรองและแย่งชิงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีตนเป็นหนึ่งในรายชื่อที่ทำให้สับสนวุ่นวาย ว่า ตนมีความตั้งใจที่จะสนับสนุนให้รัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรีได้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่ภายในระยะเวลา 4 เดือนก่อนยุบสภาโดยไม่ต้องกังวลต่อการต่อรองหรือเรียกร้องใดๆ พร้อมทั้งขอประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองที่จะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ ในรัฐบาล รวมถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมตามที่เป็นข่าว พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวว่า การตัดสินใจในครั้งนี้ เพื่อเปิดทางให้นายกรัฐมนตรีได้เร่งสรรหาบุคคลที่เหมาะสมที่จะแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และทะนุบำรุงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สามารถทำงานได้จริงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการต่อรองใดๆ โดยเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง “ผมยินดีที่จะสนับสนุนอยู่เบื้องหลังและพร้อมใช้ความรู้ ประสบการณ์และเครือข่ายระหว่างประเทศด้านความมั่นคงของผมที่มี ถ้าสามารถจะเป็นประโยชน์ได้ไม่ว่าในด้านใดก็ตาม และต้องการที่จะเห็นประเทศชาติของเราเดินหน้าสู่การแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยเร็ว” พล.อ.ประวิตร กล่าว .-316 -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ใน กทม.-ปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขัง น้ำรอการระบาย โดยเฉพาะบริเวณชุมชนเมือง เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย