รวบแล้ว 6 ใน 30 โจ๋ ไล่ยิง-ฟันเหยื่อสาหัส ก่อนเผาจยย.

นนทบุรี 23 ก.ค. – ตำรวจนนทบุรี รวบ 6 โจ๋แก๊งท่าทราย – ท่าอิฐ ร่วมกับพวกรวมกว่า 30 คน ไล่ฟัน-ยิง 2 เยาวชนชายอายุ 16 ปี บาดเจ็บสาหัส จนต้องแกล้งนอนตายข้างร่องน้ำ ซ้ำยังเผา จยย. วอดทั้งคัน เร่งสอบสวนขยายผลผู้ร่วมก่อเหตุอีกกว่า 20 คน


จากกรณีนายจำลอง อายุ 58 ปี แจ้งความว่าลูกชาย อายุ 16 ปี และเพื่อน ถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 15 คัน ไล่ทำร้ายร่างกาย ทั้งใช้มีดฟัน และใช้ปืนไล่ยิงเข้าใต้ราวนม 1 นัด บาดเจ็บสาหัส ก่อนเผารถจักรยานยนต์ที่ลูกชายและเพื่อนขับขี่ในคืนเกิดเหตุ ซึ่งรถคันกล่าวนายจำลองใช้ขับวินหาเลี้ยงชีพ จนเหลือแต่เศษเหล็ก ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณด้านหน้าฝ่ายติดตั้งและปฏิบัติการสื่อสารที่2 ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกรมชลประทาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เหตุเกิดวันที่ 16 ก.ค. เวลาประมาณ 03.00 น.

ล่าสุด วันนี้ พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คําบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี และชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด นำหมายศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ภาย ในซอยติวานนท์ 45 รวบบุคคลในบ้านซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่น อายุตั้งแต่ 13-16 ปี จำนวน 6 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุ พร้อมยึดอาวุธปืนลูกซองยาว ระเบิดปิงปอง และมีด โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพในเบื้องต้น


พันตำรวจโทศุภชัย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนกระทั่งสืบทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นแก๊งท่าทราย ร่วมกับแก๊งท่าอิฐ ไล่ทำร้ายผู้บาดเจ็บและยังปาระเบิดขวด ใส่รถจักรยานยนต์ จนไฟลุกไหม้เสียหายเหลือแต่ซาก ส่วนอาวุธปืนลูกซองและระเบิดปิงปองที่ยึดได้ ทั้งหมดรับสารภาพว่าทำขึ้นเอง ตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามแก๊งท่าอิฐ ซึ่งเป็นคนปาระเบิดขวด ใส่รถจักรยานยนต์ เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง พร้อมเครื่องกระสุน และวัตถุระเบิด ซึ่งคดีนี้ยังมีผู้ก่อเหตุอีกหลายคน ตำรวจจะเร่งสอบสวนขยายผลและตามจับกุมตัวมาให้ได้ทั้งหมด

ย้อนลำดับเหตุการณ์ แก๊งท่าทราย และแก๊งท่าอิฐ รวมกว่า 30 คน ไล่ทำร้ายร่างกายผู้อื่นแบบอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วง 01.00 น. ของวันที่ 16 ก.ค. ขณะกลุ่มผู้เสียหาย 7 คน ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 4 คัน ก่อนถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 30 คน ขี่รถจักรยานยนต์ปิดล้อม ทั้งที่ไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกันมาก่อน โดยมีการยิงปืนและปาระเบิดใส่ กลุ่มผู้เสียหายจึงต้องแยกย้ายกระจายกันหลบหนี โดย 1 ใน 7 คน คือนายปาม อายุ 17 ปี ถูกยิงบริเวณนิ้วเท้า เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกรมชลประทาน นายปามจึงโทรตามเพื่อที่มาด้วยกันตั้งแต่แรก คือ นายนนท์และนายบอล ให้นำบัตรประชาชนไปให้

หลังจากนายนนท์ และนายบอล ขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากโรงพยาบาลเพื่อกลับบ้าน หลังนำบัตรประชาชนให้นายปามเรียบร้อย ก็มาเจอกลุ่มผู้ก่อเหตุประมาณ 20 คน ดักรออยู่ที่หน้าป้อมยามทางออกกรมชลประทาน และตะโกนถามว่า “มึงเด็กบางพังป่าว” ก่อนคว้าปืนไล่ยิง ทั้งคู่จึงรีบขี่รถหลบออกมาจะหนีเข้าไปในโรงพยาบาลกรมชลประทาน แต่รถเสียหลักรถล้ม นายนนท์และนายบอล จึงแยกกันวิ่ง นายนนท์วิ่งหนีไปบริเวณพุ่มไม้ ซุ้มร้านค้า กลุ่มผู้ก่อเหตุมาเห็นจึงเรียกเพื่อนมารุมกระทืบ และใช้มีดฟันซ้ำตรงแขนและข้อศอก พร้อมพูดย้ำหลายครั้งว่า “มึงเด็กบางพังป่าว” ก่อนใช้ปืนยิง 1 นัด ซึ่งนายนนท์ได้ทำทีแกล้งตายข้างร่องน้ำ กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงหนีไป ไม่นานมีตำรวจสายตรวจมาที่เกิดเหตุ พยายามตามผู้ก่อเหตุแต่เกิดอุบัติเหตุรถล้ม ต้องมานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นกัน ส่วนนายบอลถูกฟันที่มือวิ่งเข้าไปหลบในโรงพยาบาล ขณะที่รถจักรยานยนต์ที่นายนนท์ใช้ก็ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุเผาจนเหลือแต่ซาก .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น