ชลบุรี 22 ก.ค.-หนุ่มใหญ่ อดีตกรรมการตัดสินฟุตบอลไทยลีก แทงคอสาวใหญ่เจ้าของเกสต์เฮาส์ดับ ก่อนแทงตัวเองเจ็บสาหัส ตำรวจคาดสาเหตุจากเรื่องชู้สาว
กล้องวงจรปิดจับภาพขณะนายสุนทร หรือเเบน อายุ 57 ปี เทรนเนอร์ออกกำลังกาย และอดีตกรรมการตัดสินฟุตบอลระดับไทยลีก ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างร้านกาแฟ ด้านบนเปิดเป็นเกสต์เฮาส์ย่านถนนเลียบชายหาดจอมเทียน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนเดินเข้าไปในร้าน และใช้อาวุธมีดแทงนางเสาวจี อายุ 51 ปี เจ้าของเกสต์เฮาส์ จนเสียชีวิต ส่วนกล้องวงจรปิดในร้าน จับภาพพนักงานร้านเดินเข้าไปเห็นเหตุการณ์ ร้องเสียงดังด้วยความตกใจและวิ่งหนีออกมา มีชาวบ้านและพลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเหตุ
ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองพัทยา พร้อมกู้ภัย เข้าตรวจสอบที่เกิด ที่พื้นชั้นล่างของเกสต์เฮาส์มีคราบเลือดนองพื้นจำนวนมาก พบนายสุนทร ผู้ก่อเหตุ อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง เลือดไหลนองร่าง ที่ลำคอมีแผลเหวอะหวะ ในมือถือมีดสปาต้ายาวประมาณ 40 ซม. โดยใช้สายรัดด้ามมีดมัดติดกับข้อมือไว้แน่น พร้อมปัดแกว่งมีดไปมา เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจเข้าชาร์จ ก่อนที่เจ้าตัวจะหมดสติล้มนอนกองกับพื้น หายใจรวยริน ทีมกู้ภัยต้องรีบปฐมพยาบาลแล้วนำตัวส่งโรงพยาบาล พบมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ช่องท้องจนไส้ทะลัก คอลำถูกปาดจนเกือบถึงหลอดลม ในที่เกิดเหตุยังพบร่างผู้เสียชีวิต คือ นางเสาวจี นอนจมกองเลือดอยู่ด้านหลังเคาท์เตอร์ สภาพนอนตะแคงข้าง สวมเสื้อสีชมพู นุ่งกระโปรงยีนสั้น มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดที่เข้าที่ลำคอ และร่องรอยถูกมีดฟันเข้าที่ศีรษะหลายแผล เสียชีวิตคาที่
ด้านวินจักรยานยนต์รับจ้างใกล้กับจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงคนกรีดดังลั่น ตอนแรกนึกว่ามีคนถูกหวย จึงรีบวิ่งมาดู พอเดินมาถึงพบว่าคนร้ายกำลังใช้มีดฟันคนตายอย่างบ้าคลั่ง ก่อนใช้มีดปาดคอและแทงคอตัวเองไม่ยั้ง จึงรีบตะโกนเรียกให้คนช่วย พยายามเข้าไปห้ามแต่คนร้ายใช้มีดปัดแกว่งไม่ให้เข้าใกล้ และพยายามคลานไปฟันคนตายซ้ำ จนกู้ภัยต้องไปดึงขาคนร้ายแล้วลากไปหน้าร้าน เพื่อควบคุมตัว
ด้านสามีผู้ตาย ยังอยู่ในอาการช็อก เผยจดทะเบียนสมรสกับภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย อยู่กินกันมานานกว่า 20 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ชาย 1 หญิง 1 ส่วนปมสาเหตุยังไม่ทราบว่ามาจากเรื่องอะไร
ขณะที่ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผู้กำกับการ สภ.เมืองพัทยา เผยเบื้องต้นคาดน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว หรือเรื่องรัก 3 เส้า โดยเมื่อเดือนมีนาคม ผู้ตายไปลงบันทึกประจำวัน ว่าถูกผู้ก่อเหตุโทรศัพท์มาข่มขู่ จนเกรงว่าจะได้อันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน จึงทำให้เชื่อว่าทั้งคู่อาจเคยมีปัญหาอะไรกันก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะเร่งสอบปากคำพยาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป.-สำนักข่าวไทย