ชุมพร 18 ก.ค. – คุมตัวมือปืนโหดยิง 4 ศพ และสุนัข 1 ตัว ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาเปิดปากสารภาพฆ่าเพราะผูกใจเจ็บที่ผู้ตายชอบลักลอบเข้ามาฟันต้นยางพารากว่า 200 ต้น ในสวนยาง ก่อนขโมยขี้ยางไปขายหลายครั้ง
พันตำรวจเอกจักรา เสาวคนธ์ ผู้กำกับการ สภ.นาสัก เปิดเผยก่อนพานายประพันธ์ ผู้ต้องหาใช้ปืนลูกซองยาว บุกยิงชาวเมียนมา 3 คน คนไทย 1 คน และสุนัข 1 ตัว ตายคาสวนยางพาราหมู่ที่ 19 ตำบลนาสัก อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ไปทำแผนว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือ เพราะแค้นที่นายประยงค์ สมนึก อายุ 61 ปี คนไทยที่ถูกยิงตาย เพราะคับแค้นใจที่ถูกนายประยงค์ใช้มีดกรีดหน้ายางไปกว่า 200 ต้น จนหน้ายางเสียหาย ส่วนชาวเมียนมาที่ฆ่า เป็นพวกที่ลักขี้ยางไปขายหลายครั้ง ทำให้ตัวเองขาดรายได้จากพืชอาสินตามที่พึงมี
ส่วนวันก่อนก่อเหตุได้ไปหาซื้อกระสุนปืนลูกซอง 10 นัด จากร้านแห่งหนึ่งใกล้ตลาดเขาปีบบ้านยางงาม อำเภอสวี จังหวัดชุมพร แล้วแวะซื้อน้ำมันดีเซล 40 บาท ใส่ขวดน้ำขนาด 1 ลิตร จากนั้นได้เดินทางมาซุ่มเฝ้าอยู่ในสวนยางของตน จนประสบเหมาะ จึงเดินไปที่บ้านพักคนงาน ใช้ปืนที่พกมาจ่อยิงชาวเมียนมาที่นอนบนแคร่ 1 นัด แล้วไปเปิดประตูยิงชาวเมียนมาอีก 1 คน ที่นอนหลับอยู่ในบ้าน ขณะเดียวกันเห็นนายประยงค์ จอดรถอยู่เชิงเขากำลังต่อท่อประปาอยู่ จึงเดินลัดสวนไปยืนห่างนายประยงค์ 10 เมตร แล้วใช้ปืนยิงใส่ไป 2 นัด ขณะนั้นเห็นแรงงานเมียนมาอีก 1 คนขี่รถจักรยานยนต์จะเข้าไปในจุดที่ตัวเองยิงเมียนมา 2 คนตาย จึงรีบวิ่งไปดักรอ และยิงใส่ไป 1 นัด ก่อนนำน้ำมันดีเซลราดและจุดไฟเผา แต่ยังไม่สาแก่ใจ ได้เดินไปหาครอบครัวชาวมอญ แต่ไม่เจอตัวจึงยิงหมาระบายแค้นไป 1 นัด แล้วเดินลงจากเขาหนีไปที่สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นแม้ให้การก่อนและขณะก่อเหตุอย่างละเอียด แต่ยืนยันไม่ได้ลักรถยนต์ของนายประยงค์ไป
ส่วนเรื่องอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุ ผู้กำกับการ สภ.นาสัก ยอมรับว่า ยังหาไม่พบ เนื่องจากนายประพันธ์ ผู้ต้องหา ให้การวกวน โดยทั้งบอกว่า ทิ้งไว้ในพื้นที่ก่อเหตุ (ชุมพร) แต่บางครั้งบอกว่า ทิ้งระหว่างหนีไปในพื้นที่สุราษฎร์ธานี
ขณะที่ประเด็นสารเสพติด พบว่า ผู้ต้องหามีอาการหลอนทางประสาท ชอบทำตัวเป็นนักเลงอันธพาล พลตำรวจตรีจารุต ศรุตยาพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร ที่เดินทางมาร่วมสอบปากคำนายประพันธ์ เปิดเผยว่า ตำรวจได้ส่งผู้ต้องหาไปตรวจสารเสพติดในร่างกายที่โรงพยาบาลชุมพรเพิ่ม ซึ่งผลตรวจออกมาเป็นสีม่วง ตรงตามที่ผู้ต้องหาสารภาพว่า เสพกัญชามายาวนาน ประกอบกับวันที่จับตัวได้ในพื้นที่สุราษฎร์ธานี พบว่า ผู้ต้องหาได้พกอุปกรณ์เสพกัญชาติดตัวอยู่ด้วย
ทั้งนี้ภายหลังสอบปากคำ ตำรวจคุมตัวนายประพันธ์ไปทำแผน โดยตามกำหนดต้องไปทำแผนจุดซื้อกระสุนปืนลูกซองเป็นจุดแรก ตามมาด้วยจุดที่ 2 เป็นจุดร้านค้าที่ซื้อน้ำมันดีเซล ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ปรากฏว่านายประพันธ์ปฏิเสธที่จะลงมาทำแผน ขอชี้จุดอยู่แค่ในรถตู้ตำรวจเพราะเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ส่วนจุดอื่นๆ นายประพันธ์ยอมลงไปทำแผน เนื่องจากตำรวจห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปอย่างเด็ดขาด เพราะมีชาวบ้านและญาติผู้ตายมารอดูการทำแผน
สำหรับคดีนี้ นายชนะ สมนึก น้องชายนายประยงค์ ยอมรับรู้สึกสบายใจแล้วที่ตำรวจตามจับคนร้ายมาได้ เพราะหากยังหลบหนี ไม่แน่ว่าอาจวกกลับมาก่อเหตุเพราะผู้ต้องหาผูกใจเจ็บและอาฆาตไว้หลายคน พร้อมยืนยันคำให้การของผู้ต้องหาว่าพี่ชายไปกรีดต้นยางเสียหาย และแรงงานไปลักขี้ยางขาย ไม่เป็นความจริง ที่นายประพันธ์บอกแบบนั้นเชื่อว่าเสพยา จนหลอน เพราะความจริงคนลงมือกรีดยาง และเอาขี้ยางไปขาย คือนายตาลเพื่อนรักนายประพันธ์ ที่กินเที่ยวเสพยาด้วยกัน แต่ตอนหลังขัดใจกันทำให้นายตาลมากรีดและตัดต้นยางนายประพันธ์ แต่สุดท้ายนายตาลตายนายประพันธ์ ก็มาโบ้ยว่านายประยงค์เป็นคนมาก่อเหตุ โดยเคยมายิงขู่หน้าบ้านแล้ว 1 ครั้ง เพราะความหลอนยา.-สำนักข่าวไทย