นครราชสีมา 17 ก.ค. – แรงงานสาวไทยถูกน้ำป่าดินถล่มเสียชีวิตที่เกาหลีใต้ ลูกสาว 3 คน กลายเป็นเด็กกำพร้าแม่ ครอบครัวทำเรื่องให้สถานทูตไทยในเกาหลีช่วยฌาปนกิจศพ และนำอัฐิกลับไทย
พายุถล่มเกาหลีใต้ที่เมืองมุลคยองชี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หนึ่งในนั้นเป็นแรงงานสาวไทยที่ไปทำงานที่นั่น ล่าสุดทางญาติได้ประสานให้มีการเผาร่างและส่งอัฐิกลับมาที่บ้านเกิดนครราชสีมา
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา บ้านเกิดของ น.ส.พชรมน รัตน์กระโทก อายุ 33 ปี ผู้เสียชีวิตที่ไปทำงานเป็นคนสวนที่เมืองมุคย็องชี พร้อมกับสามีคนไทย นานกว่า 4 ปีแล้ว เธอถูกน้ำป่าพัดเสียชีวิต กู้ภัยนำร่างขึ้นมาได้ และสามียืนยันตัวตนศพเรียบร้อยแล้ว
น้องสาวผู้ตายบอกว่า น่าจะต้องทำการเผาพี่สาวที่ประเทศเกาหลีใต้ แล้วนำเถ้ากระดูกกลับมาบ้าน ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เพราะเหตุการณ์นี้มีผู้สูญหายจำนวนมาก ขณะที่พี่สาวและพี่เขยไม่ได้เดินทางไปทำงานตามระบบ แต่อาศัยวีซ่านักท่องเที่ยวเข้าไปทำงาน ดังนั้น เมื่อมีการแจ้งความผู้เสียชีวิตแล้ว ทางตำรวจจะต้องทำเรื่องไปยังสถานทูต เพื่อให้พิจารณาขั้นตอนการดำเนินการตามระเบียบต่อไป
ด้านนางสมพงษ์ รัตน์กระโทก มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนได้ยินข่าวลูกสาวเสียชีวิต ตัวเองแทบช็อก ใจจะขาด ทำใจไม่ได้ เพราะการสูญเสียครั้งนี้รวดเร็วเกินตั้งตัว ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าวันนี้จะมาถึงเร็วขนาดนี้ ลูกสาวถือเป็นเสาหลักของครอบครัว เป็นคนดี กตัญญูรู้คุณ ทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว ไปอยู่เกาหลีนานกว่า 4 ปี จนไถ่ถอนที่ดินของแม่ที่ไปจำนองเอาไว้ 17 ไร่ กลับคืนได้ และสร้างต่อเติมบ้านเพิ่มเป็น 3 หลัง เพื่อให้ครอบครัวทั้งแม่ ลูกสาวที่จำใจต้องทิ้งไปอยู่ต่างแดนอีก 3 คน ได้อยู่สบาย ตั้งใจว่าทำงานเก็บอีก 2 ปี ก็จะกลับมาตั้งตัวที่บ้านเกิดอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิต หากเป็นไปได้อยากให้ตัวเองเป็นตัวแทนลูกดีกว่า เพราะอยากให้ลูกสาวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากับครอบครัวอีกครั้ง สงสารหลานสาว 3 คน ตอนนี้กลายเป็นกำพร้าแม่ไปแล้ว
ล่าสุดวันนี้ แม่ของ น.ส.พชรมน เดินทางไปที่ว่าการอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ทำหนังสือมอบอำนาจให้ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นผู้มีอำนาจเต็มในการดำเนินการฌาปนกิจศพ พร้อมออกใบมรณบัตร และดำเนินการจัดส่งอัฐิกลับประเทศไทย
น้องสะใภ้ผู้ตาย บอกว่า เบื้องต้นทางครอบครัวต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด เฉพาะค่าจัดงานศพที่เกาหลีก็น่าจะมีค่าใช้จ่ายหลักแสนบาท ยังไม่รวมค่าอื่นๆ แต่ได้รับการประสานจากทางนายจ้างว่าจะช่วยเหลือดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่ แต่ก็เห็นใจนายจ้างที่ก็ต้องสูญเสียทรัพย์สินและธุรกิจไปจากเหตุการณ์เดียวกันนี้เกือบทั้งหมด. – สำนักข่าวไทย