พัทยา 13 ก.ค. – ทนายเผย “โอลาฟ” ยังไม่ให้การกับตำรวจในชั้นสอบสวน-รอดูท่าที ด้านหนึ่งในผู้ร่วมแก๊งอุ้มหั่นศพ แฉพฤติกรรมแก๊งทมิฬ เตรียมแผนทิ้งศพลงทะเล แต่ตำรวจสืบรู้ เลยเปลี่ยนแผนหลบหนี
เมื่อคืนที่ผ่านมา นายแมตทิว ล่ามและผู้ช่วยทนายของ นายโอลาฟ อายุ 52 ปี ชาวเยอรมัน หนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญคดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจสัญชาติเดียวกัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายโอลาฟ ยังไม่ได้ให้การใดๆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนนายชาฮ์รูค ชาวปากีสถาน ที่ถูกจับกุมตัวได้ ที่ จ.กาญจนบุรี กำลังถูกนำตัวเดินทางมาสอบสวน และจากการพูดคุยคาดว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครตั้งใจจะฆ่านายฮันส์ ปีเตอร์ แต่อยากบีบให้นายฮันส์ จ่ายเงิน จึงคิดว่าน่าจะหัวใจวายจากโรคประจำตัวตอนนั้น ส่วนเงินก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเงินค่าอะไร และจำนวนเท่าไหร่
ขณะเดียวกัน นายโอลาฟ ปฏิเสธในชั้นสอบสวน และจะรอดูว่าเมื่อนายชาฮ์รูค เดินทางมาถึง จะแสดงความลับในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะชาวปากีสถานรายนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะเป็นผู้เช่าบ้านพูลวิลล่าทั้งหมด อีกทั้ง นายโอลาฟ ให้การว่าไม่เคยรู้จัก นายชาฮ์รูค มาก่อนด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปยึดเรือสปีดโบ๊ท ขนาด 18 ฟุต ของนายโอลาฟ มาตรวจสอบ หลังนำไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อนสัญชาติเดียวกัน ที่ซอยพระตำหนัก 5 พื้นที่เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.66 ซึ่งเป็นวันที่พบศพผู้ตาย ทำให้เจ้าของบ้านเกิดกลัว จึงรีบแจ้งเบาะแสมายังตำรวจ ก่อนจะตรวจยึดเรือลำดังกล่าวในที่สุด ซึ่งจากแนวทางสืบสวนทราบว่า ช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ค.66 นายโอลาฟ ได้ร้องขอให้เพื่อนสัญชาติเดียวกัน ลากเรือไปส่งที่ท่าเรือภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านนาจอมเทียน แต่เรือไม่มีเอกสารทะเบียนและใบท้ายเรือ จึงไม่สามารถลงทะเลได้ นายโอลาฟ จึงขอให้เพื่อนลากเรือกลับมาฝากไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว
ขณะที่ กล้องวงจรปิดของร้านอุปกรณ์ตกปลาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางละมุง สามารถจับภาพ นายโอลาฟ กับ นายชาฮ์รูค เข้าไปซื้ออุปกรณ์ตกปลา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า เตรียมไปลงเรือและอาจจะนำร่างของนายฮันส์ ปีเตอร์ ไปทิ้งทะเลเพื่อทำลายหลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบสวนจนได้เบาะแสมาถึงบ้าน หลังจากนำตู้แช่ซุกซ่อนศพมาเก็บไว้ คนร้ายจึงต้องเปลี่ยนแผนหลบหนีความผิด.-สำนักข่าวไทย