มหาสารคาม 29 มิ.ย. – เกษตรกรแห่นำควายเพศเมียเข้าโครงการฝากเลี้ยง เพื่อรับการผสมพันธุ์จากพ่อพันธุ์ควายเผือกยักษ์ “ก้องสยาม” ที่ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม บางส่วนผสมพันธุ์แบบไปกลับ สร้างรายได้ให้เจ้าของเป็นกอบเป็นกำ
เกษตรกรจากจังหวัดขอนแก่น 2 ราย นำควายเพศเมียสีดำ ที่กำลังเป็นสัด เข้ารับการผสมพันธุ์กับพ่อพันธุ์ควายเผือกยักษ์ ชื่อ “ก้องสยาม” อายุ 5 ปีเศษ สูงถึง 172 เซนติเมตร น้ำหนัก 1.4 ตัน ที่เบญจมาศฟาร์มควายงาม บ้านโพน ต.โพนทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ของนางยลฤดี ศิริจันโท อายุ 33 ปี ซึ่งคิดราคาตัวละ 5,000 บาท แต่ถ้าไม่ติด ให้ผสมซ้ำได้รวม 3 ครั้ง มีเกษตรกรพาแม่ควายมาผสมจริงกับก้องสยาม เดือนละ 10 – 15 ตัว
ขณะที่น้ำเชื้อรีดทุกเดือน เดือนละ 3 – 4 ครั้ง แต่ละครั้งรีดได้กว่า 400 หลอด เป็นทางเลือกให้เกษตรกรทางไกลนำไปผสมเทียม จำหน่ายโดสละ 500 บาท ซึ่งก็มีคำสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ช่องทางที่ทำเงินให้เป็นกอบเป็นกำมากที่สุด คือ โครงการฝากท้อง หรือรับฝากผสม คิดตัวละ 25,000 บาท โดยทางฟาร์มจะเลี้ยงดูตลอด 60 วัน ถ้าได้รับการผสมพันธุ์และท้องแล้ว จะโทรศัพท์แจ้งเจ้าของมารับควายกลับบ้าน ฟาร์มรับดูแลได้ชุดละ 20 ตัว ส่วนใหญ่จะเต็ม นั่นหมายถึงแต่ละชุดทำเงินได้ถึง 500,000 บาท จากสถิติผลงานของก้องสยามที่ผ่านมา พบว่าคลอดเป็นควายเผือกถึง 75%
นางยลฤดี เล่าว่า พบก้องสยามครั้งแรกที่ขอนแก่น เมื่อ 2 ปีก่อน รู้สึกชอบ อยากได้มาพัฒนาสายพันธุ์ควายให้มีโครงสร้างใหญ่ขึ้น ตอนนั้นราคา 1.5 ล้านบาท ยังไม่มีเงินซื้อ เลยบอกกับก้องสยามว่า “รอก่อนนะ อย่าเพิ่งไปกับใคร ขอแม่เก็บตังค์ก่อน” ในที่สุดก็ได้เป็นเจ้าของก้องสยามปลายเดือนมกราคมปีนี้ แม้จะต้องเพิ่มเงินอีกเท่าตัว รวมเป็นเงินถึง 3 ล้านบาท เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตอนไปโชว์ตัวที่หนองคาย มีคนขอซื้อ 5 ล้านบาท แต่ไม่ขาย เพราะเพิ่งได้มา และมองว่ามีเสียงตอบรับอย่างดีจากลูกค้า ซึ่งจะทำเงินได้อีกมาก ตลอด 5 เดือน ก็ใกล้คืนทุนแล้ว
สำหรับโครงการฝากท้อง ยลฤดี บอกว่า เกษตรกรหลายคนดูไม่ออกว่าควายตัวเองกำลังเป็นสัด พร้อมผสมพันธุ์หรือไม่ โครงการนี้จึงเกิดขึ้น โดยมีก้องสยามคอยตรวจสอบให้ทุกตัว ตัวไหนมีกลิ่น หรือเป็นสัด พร้อมผสมพันธุ์แล้ว ก้องสยามก็จะเดินตามตัวนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะอยู่โซนอีสาน แต่ก็มีนอกพื้นที่บ้าง เช่น ตอนนี้ก็มีควายจากอุทัยธานีมาเข้าโครงการด้วย. – สำนักข่าวไทย
