ตรัง 2 มิ.ย. – ไม่ต้องง้อมะนาวแพง ชาวบ้านที่ตรัง ใช้มะไฟป่าแทนได้ รสชาติหวานอมเปรี้ยว นิยมกินผลสด ทำยำ ส้มตำก็ได้ เปลือกสุกใช้แกงเลียง แกงส้มก็อร่อย
ที่บ้านเขาหลัก หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง มีต้นมะไฟกา หรือมะไฟป่า ขึ้นเองตามธรรมชาติ ริมเทือกเขาบรรทัด กำลังสุกเต็มต้นตั้งแต่โคนถึงปลายกิ่ง มีสีแดงเพลิงสดใส สวยงาม สร้างสีสันให้ผืนป่า
มะไฟกา เริ่มสุกเต็มที่ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 1 ปี จะมีมะไฟกาให้กินแค่ 1 ครั้ง รสชาติหวานอมเปรี้ยว ชาวบ้านนิยมนำไปกินผลสด ทำยำ เปลือกสุกใช้แกงเลียง ทำส้มตำและแกงส้มได้ หรือใช้แทนมะนาวได้
ในอดีตมะไฟกาไม่เป็นที่นิยมของชาวบ้านมากนัก เนื่องจากมีรสเปรี้ยวนำ ทำให้เป็นไม้ป่าไร้ค่าอยู่นานหลายปี แต่ด้วยสีสันแดงสดใส เป็นพวงห้อยย้อยลงมา ทำให้เจ้าของรีสอร์ตและโรงแรมชื่นชอบ ประทับใจ สนใจสั่งซื้อต้นพันธุ์ นำไปปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งสวน สร้างสีสัน
ผู้นำชุมชนจึงเกิดไอเดียส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกมะไฟกา บ้านละ 1 ต้น และเพาะต้นกล้ามะไฟกาขายในราคาต้นละ 100 บาท ปรากฏว่าผลตอบรับดีเกินคาด ชาวบ้านมีรายได้เสริมจากการขายต้นมะไฟกาคนละไม่ต่ำกว่า 2,000-3,000 บาท ส่วนลูกสุกขายกิโลละ 60 บาท บางรายมีแม่ค้ามารับซื้อมะไฟกาถึงสวน
มะไฟกาเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืนนับร้อยปี ทรงพุ่มคล้ายกับต้นลางสาด หรือ ลองกอง ขึ้นเองตามป่าธรรมชาติที่มีความร้อนชื้น มีคุณสมบัติทางยา ช่วยระบบขับถ่าย บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ เพราะมีวิตามินเอและวิตามินซีสูง ช่วยให้ให้เลือดลมไหลเวียนดี แก้คลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือ สำหรับที่บ้านเขาหลัก มีต้นมะไฟกาที่ขึ้นเองมากกว่า 50 ต้น โดยมีชาวบ้านปลูกเพิ่มตามบ้านเรือนและริมถนนทางเข้าหมู่บ้านอีกกว่า 100 ต้น คาดในอีก 4-5 ปีข้างหน้า บ้านเขาหลักจะมีสีแดงสดใสทั้งหมู่บ้านช่วงฤดูกาลที่ลูกมะไฟกา. – สำนักข่าวไทย