หนึ่งในพี่เลี้ยงยอมรับจับเด็กขังห้องมืดจริง

สระบุรี 30 พ.ค. – หนึ่งในพี่เลี้ยงสารภาพทารุณเด็กในสถานสงเคราะห์เด็กแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี จริง ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดพี่เลี้ยงคนอื่นๆ เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำคนเดียว


ความคืบหน้ากรณีหญิงรายหนึ่งเปิดเผยเรื่องราวสุดโหดในสถานสงเคราะห์เด็กแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี ลงโทษเด็ก ทั้งมัดมือ มัดเท้า แถมจับขังในห้องมืด เข้าขั้นทารุณกรรม ขอให้สื่อช่วยตรวจสอบและตีแผ่เรื่องนี้

ล่าสุดหนึ่งในพี่เลี้ยงยอมรับสารภาพว่ากระทำจริง ขณะที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดพี่เลี้ยงคนอื่นๆ เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำคนเดียว


ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพพฤติกรรมทารุณกรรมที่เกิดขึ้นกับเด็กในสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี เป็นภาพเด็กถูกลงโทษมัดมือ มัดเท้า มัดปาก นั่งอยู่ในห้องน้ำ กับภาพเด็กถูกทำโทษด้วยการให้นอนในห้องน้ำ พร้อมข้อความว่า “ได้รับรู้เรื่องนี้มา ไม่นิ่งนอนใจที่จะหาทางตีแผ่สู่สังคม เด็กกว่า 280 ชีวิต ต้องเผชิญกับความโหดร้ายจากสังคมภายนอกมาแล้ว ยังต้องมาเจอความโหดร้ายจากผู้ดูแล ทำไมมาตรการการทำผิดต้องมีห้องมืด ฝากสื่อด้วยนะคะ ยินดีให้ข้อมูล ฝากแชร์เพื่อเป็นสะพานบุญให้เด็กหลายร้อยชีวิตด้วยนะคะ”

ล่าสุดเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สระบุรี พร้อมตำรวจ สภ.พระพุทธบาท ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมเรียกประชุมแนวทางสอบสวน

ต่อมาเดินทางไปยังตึกทานตะวัน ตั้งอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กหญิง จ.สระบุรี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นสถานที่ที่เด็กถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีทีมสหวิชาชีพนำเด็กที่ถูกพี่เลี้ยงทำร้ายร่างกายในบ้านพักเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง ภายในห้องประชุมของสำนักงานสถานสงเคราะห์ โดยมี น.ส.สุนีย์ ศรีสง่าตระกูลเลิศ ผู้ตรวจราชการ พม. ร่วมสอบปากคำเด็กที่ถูกทำร้าย โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ


วันนี้ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สระบุรี ประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนเด็กทั้ง 9 คน โดยมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ อัยการ ตำรวจ ร่วมสอบ พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้อง พร้อมเก็บพยานหลักฐานจากวงจรปิด ส่วนผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนไปแล้วเมื่อวานนี้ ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง และเสียใจที่มีแนวความคิดแบบนั้น ซึ่งตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อออกหมายจับ ต้องดูว่าความผิดอยู่ในขั้นไหน ส่วนข้อกล่าวหาทางเจ้าหน้าที่ยังได้ตั้งไว้

เบื้องต้นจะต้องตรวจสอบดูว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก หรือไม่ น่าจะผิดในมาตรา 309 ผู้ก่อเหตุต้องถูกดำเนินคดี และยอมรับสารภาพกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ส่วนเด็กทั้ง 9 คน ขณะนี้พักอยู่บ้านพักเด็กและสตรี ในพื้นที่ จ.สระบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพคอยดูแลเยียวยาด้านจิตใจ

สำหรับสถานสงเคราะห์ที่เกิดเหตุ เป็นหน่วยงานของรัฐ มีเด็กอายุตั้งแต่ 6 ขวบ ไปจนถึง 18 ปี อาศัยอยู่รวม 280 คน จากการสังเกตการณ์ของแหล่งข่าวพบว่าถ้าเป็นเด็กเล็กจะยิ่งถูกกระทำหนักกว่าเด็กโต เบื้องต้นมีการอ้างว่าครูไม่ได้ทำ แต่รุ่นพี่เป็นคนทำ จึงสงสัยว่าหากครูไม่รู้เห็น เด็กจะกล้าทำแบบนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย