แฉครูหนุ่มทำโทษเด็กเกินกว่าเหตุ ใช้เงินบริจาคกินเที่ยว วอนตรวจสอบ

เชียงใหม่ 22 พ.ค. – ครูนำเด็กชายที่ถูกครูในโรงเรียนที่เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ทำโทษอย่างรุนแรง เข้าพบพนักงานสอบสวน หลังครูสาวออกมาแฉเด็กถูกทำร้าย และมีการใช้เงินกองทุนบริจาคไปเที่ยวทะเลและร้านคาราโอเกะ ขณะที่ ผอ.โรงเรียน โต้ใช้เงินส่วนตัว พร้อมกำชับครูให้ลงโทษเหมาะสม


ความคืบหน้ากรณีครูสาว รักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โพสต์คลิปวงจรปิด เป็นภาพครูชายทำโทษนักเรียนชายที่พักหอพักกินนอนในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.เชียงดาว ในคลิปมีการทำร้ายร่างกายเด็ก ป.3 อายุเพียง 10 ขวบ เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566 ก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ครูผู้ดูแลหอพักคนเดียวกันนี้ ยังลงโทษเด็กนักเรียนชายอายุ 11 ปี ที่คิดว่าไปพังประตูห้องน้ำ แต่สุดท้ายเป็นการทำร้ายผิดคน เด็กคนนี้หวาดกลัวหนัก จนวิ่งหนีเข้าป่า และยังพบว่ามีผู้บริหารบางคนเบิกเงินที่เป็นบริจาคสำหรับเด็กด้อยโอกาส นำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีการเบิกเงินอ้างว่าไปราชการที่จังหวัดภูเก็ต มีทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเหมารถ ค่าน้ำมันรถ รวมเป็นเงินกว่า 37,100 บาท แต่ความจริงกลับเป็นการเดินทางไปส่งผู้บริหารระดับเขตคนหนึ่ง โดยที่ไม่มีหนังสือไปราชการตามระเบียบ และยังทราบด้วยว่ามีการเบิกเงินจากกองทุนเดินทางไปที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อไปซื้อโซลาร์เซลล์ แต่กลับพบว่านำเงินบางส่วนไปเที่ยวคาราโอเกะ โดยมีครูคนหนึ่งที่เดินทางไปด้วยหลุดพูดตอนมึนเมาว่า “เสียดายจังที่ครูไม่ได้ไปด้วย ทั้งจับ จก ล้วง” และ อีก 1 คน ที่พูดว่า “จองโรงแรมไม่ได้นอน เพราะอยู่ยันตี 5” รวมถึงยังบอกเล่าถึงการเช็กบิลว่า ใช้เงินไป 15,000 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินจากบัญชีกองทุนสนับสนุนของโรงเรียน หรือเงินบริจาค

ช่วงสายวันนี้ ผู้บริหารและครูโรงเรียนดังกล่าว นำเด็กชาย ป.3 จำนวน 2 คน ที่ถูกครูลงโทษอย่างรุนแรง ทั้งถีบและทุบตี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ เชียงดาว เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง หลังครูสาวแฉว่ามีครูทำร้ายเด็ก และมีผู้บริหารและครูบางคนนำเงินกองทุนเด็กด้อยโอกาสไปใช้เที่ยวทะเลที่ภูเก็ต และเที่ยวคาราโอเกะที่เชียงราย


ผู้อำนวยการโรงเรียน บอกว่า มีการโทษเด็กจริง โดยได้ทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและกำชับครูให้ลงโทษนักเรียนอย่างเหมาะสมแล้ว ส่วนประเด็นการนำเงินกองทุนที่มีผู้บริจาค ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ทั้งการนำไปเที่ยวทะเลที่ภูเก็ตและเที่ยวคาราโอเกะที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ยืนยันเป็นเงินส่วนตัวของคณะครู ส่วนเงินบริจาคนำไปซื้ออุปกรณ์ไฟโซลาร์เซลล์เท่านั้น และได้ชี้แจงกับผู้บังคับบัญชาแล้ว พร้อมให้ตรวจสอบไม่มีการทุจริตในโรงเรียน ส่วนครูที่ลงโทษเด็ก ยอมรับทำโทษเด็กรุนแรงจริง ต้องการสั่งสอนให้เป็นคนดี ขอโทษผู้ปกครองและสังคม

ครูสาวที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ แม้จะเป็นวันเปิดเทอมแล้วตัวเองเสียใจ คงไม่ได้กลับไปสอนนักเรียนที่เชียงดาวอีกแล้ว วันนี้คงต้องขาดงาน และหลบซ่อนตัว เพราะกลับเข้าพื้นที่ไม่ได้ กลัวเรื่องความปลอดภัย เพราะคู่กรณีเป็นทั้งข้าราชการระดับสูง บางคนมีพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง ตนเองและครอบครัวเห็นว่าจะไม่ปลอดภัย และวันนี้ตนเองพร้อมกับเจ้าหน้าที่ พม. จะนำหลักฐานเข้าร้องต่อ ป.ป.ช.ภาค 5 ที่อำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่าตอนนี้ไม่มีข้อมูล ยังไม่ได้รับรายงานข้อมูลจากพื้นที่เข้ามา ทราบเพียงว่าตอนนี้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่เขต 3 ต้นสังกัดพื้นที่ที่เกิดเหตุ กำลังเข้าไปติดตามเรื่องดังกล่าวอยู่


ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ตอนนี้ได้ให้ตำรวจ สภ.เชียงดาว ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร