เชียงราย 21 พ.ค.-ตำรวจซ้อนแผนรวบยกแก๊ง ขบวนการอ้างเป็นหน้าห้องรอง ผบ.ตร. ทั้งขู่ทั้งติดสินบนผู้กำกับการ สภ.เชียงแสน ให้ปล่อย 4 คนจีนวีไอพี ผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมือง
พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และ พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผู้กำกับการ สภ.เชียงแสน พร้อมชุดสืบสวน จับกุมตัวผู้ต้องหา 4 คน คือ นายสุนฉ่าย อายุ 34 ปี นายพีระพล อายุ 34 ปี น.ส.ณัฐธิดา อายุ 54 ปี และนายรัชต์ธพงศ์ อายุ 50 ปี พร้อมของกลางเงินสด 350,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง รถยนต์ 1 คัน วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง นำตัวดำเนินคดีใน 3 ข้อหา ได้แก่
1. ร่วมกันติดสินบนเจ้าพนักงานฯ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144
2. แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงาน โดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงาน
3. มีและใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก 18 พ.ค. ชุดสืบสวนภาค 5 และสืบสวน สภ.เชียงแสน จับกุมชาวไทย 1 คน และชาวจีน 4 คน ได้ที่บริเวณริมแม่น้ำโขง สามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก ต.เวียง อ.เชียงแสน ลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ก่อนนำตัวเข้าไปดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ก็มีสายโทรศัพท์จาก น.ส.ณัฐธิดา และมีการให้คุยกับคนที่อ้างตัวเป็น “รองโต้ง” หน้าห้อง “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” รอง ผบ.ตร. ซึ่งได้สั่งให้ผู้กำกับการ สภ.เชียงแสน ปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวจีนทั้ง 4 คน เพราะเป็นวีไอพี แต่ผู้กำกับสงสัย จึงติดต่อไปยังผู้การสืบสวนภาค 5 จนบุคคลดังกล่าวโทรมาอีกครั้ง บอกว่าเดี๋ยวเอาเงินไปให้เพื่อให้ปล่อยตัว
ผกก.สภ.เชียงแสน จึงวางแผนจับกุมแก๊งนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นการแอบอ้างชื่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง โดยนัดหมายให้ น.ส.ณัฐธิดา มาพบที่ สภ.เชียงแสน โดย น.ส.ณัฐธิดา มาพบเจ้าหน้าที่ ส่วนพวกอีก 3 คนรออยู่ในรถ น.ส.ณัฐธิดา บอกว่าขอให้ช่วยเหลือผู้ต้องหาชาวจีน 4 คน ที่ถูกจับเมื่อวันที่ 18 พ.ค. โดยเสนอจ่ายเงินสด 350,000 บาท จากนั้นนายรัชต์ธพงศ์ ซึ่งอ้างว่าเป็น พ.ต.ท.ศราวุฒิ เมฆพัฒน์ รอง ผกก.สืบสวนสอบสวน กก.3 ได้ตามเข้ามาพบกับตำรวจ ตำรวจได้สอบถามยศ ตำแหน่ง และค้นหาในระบบกลับไม่พบ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับรอง ผบ.ตร. ตามที่กล่าวอ้าง
เจ้าหน้าที่เรียกทั้ง 4 คนเข้าห้องสอบสวน อ้างว่าเดินทางมาจาก กทม. เพื่อมาติดต่อและขอให้ช่วยเหลือคนต่างด้าวชาวจีน 4 คน ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 18 พ.ค. เจ้าหน้าที่จึงจับกุมทั้งหมด พร้อมตรวจค้นในรถยนต์ พบเงินสด 400,000 บาท อยู่ในซองสีน้ำตาล วางอยู่ภายในรถ วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง เสื้อกั๊กติดสัญลักษณ์ตำรวจ 2 ตัว หมวกแก๊ปสัญลักษณ์ตำรวจ สีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง และเงินสดอีก 50,000 บาท อยู่ในตัวของนายพีระพล .-สำนักข่าวไทย