เชียงใหม่ 4 พ.ค.-ฌาปนกิจ “น้องอ้อม” เซลส์สาวที่ถูกลวงสังหาร เที่ยงนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เพื่อนร่วมไว้อาลัย สามีหลั่งน้ำตา ขอลงโทษประหารผู้ต้องหา
บรรยากาศงานฌาปนกิจน้องอ้อม เซลส์สาวที่ถูกนายณัฐพล ผันผดุงทรัพย์ ลวงไปสังหาร เมื่อวันที่29 เมษายนที่ผ่านมา โดยวันนี้มีบรรดาญาติและเพื่อนน้องอ้อมได้เดินทางมาร่วมงานที่วัดป่าบง ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า สำหรับกำหนดการหลังเจ้าภาพถวายเพลแด่พระสงฆ์ ในเวลา 11.00น. จากนั้นในเวลา 12.15 น. จะเคลื่อนศพน้องอ้อม ไปยังสุสานป่าช้า บ้านป่าบง
ด้านนายอำนาจ สามีน้องอ้อม กล่าวทั้งน้ำตาว่าวันนี้จะได้ส่งภรรยาไปอยู่บนสวรรค์แล้ว อยากบอกให้น้องอ้อมไปสบายไม่ต้องห่วงอะไร โดยเฉพาะลูกสาวตนจะดูแลให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องทางคดีก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย และตนไม่มีอะไรจะพูดกับผู้ต้องหา คนที่สังหารน้องอ้อม แต่ตั้งข้อสังเกตว่าคำรับสารภาพ ที่บอกว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าคือคำโกหก เพราะมีการวางแผนมาอย่างดี ซึ่งคนตายพูดไม่ได้ ก็ขอความเป็นธรรมให้น้องอ้อมด้วย และแม้ว่าผู้ต้องหาจะถูกจับกุมและตั้งข้อหาสูงสุดแล้ว แต่ตนก็อยากให้ลงโทษไปจนถึงขั้นประหารชีวิตเลย เพราะหากจำคุกตลอดชีวิตแต่ต่อมาได้รับการลดโทษออกมานอกคุก ก็เป็นภัยต่อสังคมอีก และเห็นจากข่าวนายณัฐพล ก็ดูไม่ได้สำนึกผิดอะไร แถมยังมีสีหน้าที่ไม่สลดเลย ทั้งนี้ส่วนตัวติดใจเรื่องโทรศัพท์ของน้องอ้อม ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเอาไปทิ้ง ตนอยากได้โทรศัพท์ของน้องอ้อมคืน อย่างน้อยก็เก็บไว้เป็นที่ระลึก และก็อยากรู้ด้วยว่านายณัฐพล ได้คุยอะไรกับน้องอ้อมก่อนก่อเหตุ
สุดท้ายนี้อยากขอบคุณทุกกำลังใจที่ช่วยตามหาน้องอ้อมในวันที่หายตัว และส่งกำลังใจมาให้ตนและครอบครัวด้วย พร้อมทั้งขอฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องเกี่ยวกับคนหาย ได้พิจารณาถึงความเสี่ยงที่จะมีต่อบุคคลที่หายไปด้วย เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที เพราะเหตุการณ์ของน้องอ้อมที่หายตัวไปนี้มีพฤติการณ์ที่ผิดปกติบ่งบอกถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น จึงอยากให้กรณีของน้องอ้อมเป็นตัวอย่างที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการช่วยตามหาคนหายที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 24 ชั่วโมงด้วย
ขณะที่น้องน้ำปาย เพื่อนสนิทของน้องอ้อม บอกว่าตนเป็นเพื่อนอ้อมทำงานเซลส์ด้วยกันมา 3 ปีแล้วและแทบจะตัวติดกัน ปีหนึ่งมี 365 วัน ก็คุยกัน 360 วันแล้ว สนิทกันถึงขั้นรู้ password เกือบทุกอย่างทำให้วันที่อ้อมหายตัวไป ตนจึงไปติดต่อที่ศูนย์โทรศัพท์เพื่อติดตามจีพีเอสและเมื่อคนร้ายรับสายจึงพูดถ่วงเวลาไว้ เพื่อให้ตำรวจสามารถตามไปถึงที่ได้ทัน แต่สุดท้ายก็ไม่ทัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดูแลประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อให้ดีกว่านี้ หากแก้กฎหมายตามคนหายได้ทันที อ้อมอาจมีชีวิตรอดก็ได้ ส่วนผู้ต้องหาขอให้ลงโทษให้หนักจนถึงขั้นประหารชีวิต เพราะมีประวัติทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องเพศมากว่า 6 คดีแล้ว หากออกมาก็เป็นภัยต่อสังคมอีก
ทั้งนี้ทราบมาว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้มีการหลอกล่อเซลส์ที่หางดงเพื่อหวังก่อเหตุเช่นกัน แต่ดีที่เซลส์ไม่หลงกล ส่วนกรณีอ้อม ไม่มีใครคาดคิดว่าคนร้ายจะใช้อุบายว่าขับรถเลยทำให้อ้อมต้องเดินเท้าไปหาที่ร้านกาแฟจนเกิดเหตุสลดในเวลาต่อมา ขนาดทุกคนช่วยกันตามหาอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
ทั้งนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าเซลส์คืองานบริการ ที่ต้องดูแลลูกค้าอย่างดี แต่จากนี้จะมีการหารือในการหามาตรการป้องกัน เช่น ต่อไปจะไม่ให้มีการออกไปหาลูกค้าที่นอกศูนย์แล้ว จึงขอให้ลูกค้าเข้าใจด้วย สำหรับสิ่งที่อยากจะบอกเพื่อนอ้อม คือถ้าชาติหน้ามีจริงก็ขอให้ได้เจอกันอีก.-สำนักข่าวไทย