ร้อยเอ็ด, เชียงใหม่ 24 เม.ย. – พายุฤดูร้อนพัดถล่มเมืองร้อยเอ็ด ทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมือง ขณะที่ จ.เชียงใหม่ พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงนานนับชั่วโมง ส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับสายไฟฟ้าแรงสูง ไฟดับ 3 อำเภอ
เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วานนี้ (23 เม.ย.66) เกิดพายุฝน ลมกระโชกแรง และพายุลูกเห็บ พัดถล่มในตัวเมืองร้อยเอ็ดอย่างหนัก ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงหัก 2 ต้น ไฟฟ้าดับทั้งเมืองร้อยเอ็ด ลมพายุยังพัดหลังคาโครงเหล็กของร้านสนุกเกอร์แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ปลิวตกลงมาบนถนน และทับรถยนต์เสียหายหลายคัน นอกจากนั้นยังพัดต้นไม้ริมถนนสายร้อยเอ็ดไปสนามบินร้อยเอ็ด และจากตัวเมืองไป อ.อาจสามารถ หักโค่นขวางถนนไม่สามารถสัญจรได้ หลังเกิดเหตุ หน่วยกู้ภัยและ อปพร. ต้องระดมกำลังกระจายกันตัดต้นไม้ออกจาถนน เพื่อให้สามารถสัญจรได้
นอกจากนี้ ยังเกิดฟ้าผ่าลงมาหลายจุด ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด และไฟฟ้าลัดวงจร จนไฟฟ้าดับทั้งตัวเมืองร้อยเอ็ด รวมถึง อ.ธวัชบุรี และ อ.เชียงขวัญ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาแก้ไขนานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็สามารถแก้ได้เพียงบางส่วน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก
ขณะที่ จ.เชียงใหม่ พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่หลายอำเภอ ทั้ง อ.เมือง อ.หางดง และ อ.สันทราย ทำให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่น และมีต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนประชาชน หลังคาบ้านถูกกระแสลมพัดปลิวหาย เสาอากาศวิทยุกรมการปกครอง ที่ว่าการอำเภอสันทราย โค่นล้ม และมีต้นไม้ใหญ่โค่นทับสายไฟฟ้าแรงสูงกำลังส่ง 115 กิโลโวลต์ ก่อนถึงโรงพยาบาลสันทราย ทำให้สถานีไฟฟ้า อ.แม่ริม อ.สันทราย และ อ.ดอยสะเก็ด ไฟดับ เนื่องจากใช้สายส่งร่วมกัน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งตัดต้นไม้ออกจากสายส่ง เพื่อคืนสภาพให้กับสถานีไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง และยังมีไฟฟ้าขัดข้องหลายพื้นที่
วันเดียวกัน บนดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม มีพายุฝนและลูกเห็บพัดถล่มอย่างหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้โครงสร้างที่พักรีสอร์ตหลายแห่งบนดอยม่อนแจ่มได้รับความเสียหาย ส่วนใหญ่เป็นแบบเต็นท์ เพราะลูกเห็บทะลุหลังคาเข้าไปกองอยู่ในเต็นท์ นอกจากนั้นยังมีนกเขาถูกลูกเห็บตกลงมาตายหลายตัว ส่วนต้นอะโวคาโดที่กำลังออกผลร่วงหล่นเสียหายจำนวนมาก ต้นไม้ใหญ่ล้มทับสายไฟฟ้าแรงสูง ส่งผลให้ไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่ริม ต้องเร่งเปลี่ยนเสาไฟฟ้าใหม่ และติดตั้งอุปกรณ์สายไฟฟ้า ขณะที่ชาวบ้านเร่งตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนน และตามลานบ้าน โดยชาวบ้านบอกว่า พายุถล่มครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปี. – สำนักข่าวไทย