รวบช่างตัดผมยิงเพื่อนบ้านดับ โมโหเบิ้ลเครื่อง จยย. ใส่

เพชรบุรี 17 เม.ย.–ช่างตัดผมโมโหเพื่อนบ้าน เบิ้ลรถมอเตอร์ไซค์ใส่ ทะเลาะกันก่อนคว้าปืน 9 มม.กระหน่ำยิง ดับหน้าร้าน ล่าสุดถูกรวบตัวแล้ว พบประวัติอื้อ อยู่ระหว่างตรวจสอบทะเบียนอาวุธปืน


ตำรวจ สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เข้าตรวจสอบสภาพศพ นายนที อายุ 39 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอก ท้อง และสีข้างขวา ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 5 ปลอก เสียชีวิตบริเวณลานดิน ริมถนนเพชรเกษมขาลงใต้ ตรงข้ามจุดตรวจสามแยกท่าศาลา บริเวณซอยหัวเขา ม.8 ต.ท่าเสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายอนุสรณ์ หรือ น็อต อายุ 29 ปี เจ้าของร้านตัดผม ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ ห่างประมาณ 10 เมตร หลังก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไป พร้อมอาวุธปืน โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านลาด ติดตามไปที่บ้านทันที และพบว่าได้เปลี่ยนใช้รถกระบะสีขาว ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปตามถนนเพชรเกษม ขาเข้ากรุงเทพ และกลับรถที่ จ.สมุทรสาคร หลังไล่ล่านานเกือบ 4 ชั่วโมง ในที่สุดสามารถจับกุมตัวได้ ที่ จ.สมุทรสงคราม โดยพลตำรวจตรี ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี สั่งการ ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัด และตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านลาด พร้อมประสานตำรวจทางหลวง และพื้นที่ใกล้เคียง ก่อนนำตัวไปชี้จุดที่ผู้ต้องหาอ้างว่านำอาวุธปืนไปโยนทิ้งน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร

ปรากฏว่า ผู้ต้องหา ไม่ได้เอาปืนไปทิ้งแต่เอาไปไว้ที่บ้านแฟนสาวตอนไปเปลี่ยนรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวค้นที่บ้านแฟนสาว เจอปืนจริง ขณะสอบปากคำ แฟนสาววัย 31 ปี ของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตาย เคยมีปากเสียงกับนายอนุสรณ์ เรื่องเบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์ใส่กันมาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุ แฟนสาวผู้ตาย ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งผู้ตาย เพื่อไปเอารถจักรยานยนต์ที่ร้านคาร์แคร์ในพื้นที่ อ.บ้านลาด ขณะผ่านหน้าร้านตัดผม นายอนุสรณ์ อยู่หน้าร้านได้เบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์ใส่อีก แต่ตนและผู้ตายไม่ได้สนใจ เมื่อมาถึงร้านล้างรถแล้ว ผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ นำหน้าตนออกไปก่อน เพื่อกลับเข้าบ้าน ต้องผ่านหน้าร้านทำผมขณะจอดรถติดสัญญาณไฟจราจร ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด พบแฟนหนุ่มถูกยิงเสียชีวิต และเห็นนายอนุสรณ์ ขี่รถจักรยานยนต์ ถืออาวุธปืนสวนทาง หลบหนีไปก่อนมาถูกจับกุม


ตรวจสอบประวัติเบื้องต้น พบว่านายอนุสรณ์ มีประวัติก่ออาชญากรรม คดีลักทรัพย์ พยายามฆ่าผู้อื่น และมีปัญหากับผู้ตายมาก่อน สำหรับการตรวจสอบอาวุธปืนเบื้องต้น จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้านทราบว่าไม่เคยออกใบรับรองคุณสมบัติให้ครอบครองอาวุธปืนแต่อย่างใด ทั้งนี้ ทางฝ่ายปกครองพื้นที่บ้านลาด อยู่ระหว่างการตรวจสอบทะเบียนอาวุธปืน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก