fbpx

พายุคลื่นลมแรงทะเลนครศรีฯ เรือประมงเล็กล่มหลายสิบลำ ดับแล้ว 1 ราย

นครศรีธรรมราช 16 เม.ย.เกิดเหตุเรือประมงเล็กล่มหลายสิบลำ ล่าสุดพบเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราชระดมเจ้าหน้าที่เร่งค้นหา พร้อมประสานขอเรือตรวจการ และเฮลิคอปเตอร์ ช่วยค้นหา


คืบหน้าเหตุการณ์พายุคลื่นลมแรงในทะเล อ.ปากพนัง , สิชล , ท่าศาลา และ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทำให้เรือเล็กที่ออกจากฝั่งไปทำการประมงในทะเลอับปางไปหลายลำ และมีผู้เสียชีวิต 1 คน ล่าสุด นายอภินันท์ เผือกผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่อำนวยการช่วยเหลือค้นหาผู้ที่เรืออับปาง และยังติดอยู่ในทะเล ที่ ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง พร้อมตั้งศูนย์ผู้บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า และมอบหมายให้ นายสมพงษ์ มากมณี รองผู้ว่าฯไปบัญชาการเหตุการณ์ ที่ อ.สิชล พร้อมด้วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ตำรวจน้ำศรชล ,ประมง,กู้ชีพ กู้ภัยฯ และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ โดยข้อมูลเรือประมงที่ออกจากฝั่ง พื้นที่ อ.ปากพนัง 23 ลำ ลูกเรือ 53 คน เรือล่ม 8 ลำ ขึ้นฝั่งแล้ว 12 ลำ ติดต่อไม่ได้ 3 ลำ ช่วยชีวิตปลอดภัย 45 คน ยังติดต่อไม่ได้ 7 คน และเสียชีวิต 1 คน คือ นายอนุสรณ์ มณีวงศ์ อายุ 30 ปี ชาว ต.แหลมตะลุมพุก ส่วนที่ อ.ท่าศาลา มีเรือออกจากฝั่ง 5 ลำ ขึ้นฝั่งแล้ว 4 ลำ ติดต่อไม่ได้ 1 ลำ อ.สิชล เรือออกจากฝั่ง 1 ลำ ลูกเรือ 4 คน ช่วยเหลือได้แล้ว 3 คน อยู่ระหว่างค้นหา 1 คน และ อ.เมือง เรือออกจากฝั่ง 8 ลำ ขึ้นฝั่งแล้ว 8 ลำ อยู่ระหว่างค้นหา 1 คน

ผู้ว่าฯ ยังได้ประสานขอรับความช่วยเหลือจาก ผบ.ทัพเรือภาค 2 ขอสนับสนุนเรือตรวจการ 2 ลำ เพื่อปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหาย และประสานกิงบิน 7 สุราษฎร์ธานี สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เพื่อปฏิบัติการค้นหาทางอากาศในการระบุเป้าหมายและสนับสนุนชูชีพ และได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ดำเนินการออกประกาศห้ามเรือเล็กออกจากฝั่ง ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 17 เม.ย.66 ให้นายอำเภอปากพนัง ทั้ง 4 อำเภอ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์บูรณาการ หน่วยงานทุกหน่วยในพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และรายงานผลการปฏิบัติหรือขอรับการสนับสนุนช่วยเหลือมายังจังหวัดทันทีกรณีเกินความสามารถ


ขณะที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการด่วนเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยคลื่นลมแรงในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมสั่งการผู้ว่าฯ จังหวัดภาคใต้ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ประเมินสถานการณ์ หากมีความรุนแรงต้องสั่งเรือทุกชนิดงดออกจากฝั่ง และช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยทันที

นอกจากนี้ได้รับรายงานเมื่อช่วงสาย เกิดเหตุเรือเฟอร์รี่ของบริษัท ราชาเฟอร์รี่ ตะแคงจมครึ่งลำ บริเวณท่าเทียบเรือ ตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นเรืออาร์ 10 รับผู้โดยสารมาจากอ.เกาะสมุยและเข้าจอดเทียบท่าส่งผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว ต่อมาเกิดคลื่นลมแรง ซัดตัวเรือกระแทกกับท่าเทียบเรือจนทำให้เรือตะแคงและน้ำไหลเข้าในตัวเรือ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้เรือได้จมลงจนถึงพื้นดินแล้ว ที่ระดับความลึกประมาณ 4 เมตร ล่าสุดมีการออกคำสั่งห้ามใช้เรือลำดังกล่าวแล้ว พร้อมกำชับให้ดูแลการกู้เรือดังกล่าว เพื่อป้องกันคราบน้ำมันไหลออกมายังผิวน้ำด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในวันฉัตรมงคล

รัฐบาลจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2567

ผู้บริหาร-พนักงาน กฟน. ร่วมพิธีรดน้ำศพ “นายกำธร” ยืนยันไม่ทอดทิ้ง

ผู้บริหารและพนักงาน กฟน. ร่วมพิธีรดน้ำศพ “นายกำธร” เสียชีวิตจากการเดินข้ามถนนตกท่อร้อยสายไฟฟ้า บริเวณเกาะกลางถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 49 พร้อมมอบเงินสด 50,000 บาท น้องชายผู้เสียชีวิต ผู้ว่าการ กฟน. เผยขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ยืนยัน กฟน. ไม่ทอดทิ้ง

เหล่าทัพพร้อมใจยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในพระราชพิธีฉัตรมงคล

กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ยิงสลุตหลวง 21 นัด เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีฉัตรมงคล

เพลิงไหม้โกดังโรงงานกระดาษรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร

เพลิงไหม้โกดังโรงงานกระดาษใน ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรงในตัวอาคาร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ เสียหายแล้วประมาณ 10 ไร่