“แพทองธาร” ซูมปราศรัยเวที จ.น่าน ชูแก้ปัญหาที่ดินทำกิน

น่าน 8 เม.ย. – “แพทองธาร” ซูมปราศรัยเวที จ.น่าน ชูแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ยันศึกษาข้อมูลก่อนออกนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ด้าน “ณัฐวุฒิ” ขอประชาชนอย่าตกใจ หลัง กกต. เรียกแจง ระบุพรรคเพื่อไทยไม่เคยมองประชาชนเป็นยาจก แต่มองเป็นเจ้าของประเทศ


พรรคเพื่อไทยปราศรัยคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตน่าน อําเภอเมือง จังหวัดน่าน นำทีมโดยนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย, นพ.ชลน่าน​ ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้สมัคร ส.ส.​น่าน เขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 1, นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย, นายพานทองแท้ ชินวัตร พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.​น่าน นายทรงยศ รามสูต เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 6 และนายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ เขตเลือกตั้งที่ 3 เบอร์ 1 ท่ามกลางเสียงเชียร์จากพี่น้องจังหวัดน่าน

นางสาวแพทองธาร ทักทายชาวน่านผ่านทางระบบ zoom ขอแรงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ที่พร้อมจะแก้ไขปัญหาคาราคาซังอย่างเรื่องที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยมีนโยบายพิสูจน์สิทธิที่ดิน และนำที่ดินรัฐที่ไม่ได้ใช้งานมาจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกิน 50 ล้านไร่


นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ศึกษาหาข้อมูลออกมาเป็นนโยบายที่จะเป็นทางออกให้พี่น้องประชาชนเอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเติมเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นทุกคน ให้คนไทยกลับมาอยู่ดีกินดีอีกครั้ง อีกแค่อึดใจเดียวในวันที่ 14 พ.ค. ขอแรงจากชาวน่านเลือกพรรคเพื่อไทยเบอร์ 29 และเลือ ส.ส.เขตน่าน ทั้ง 3 เขต ให้แลนด์สไลด์ทั่วน่าน ทั้งคนทั้งพรรค

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์ 1 กล่าวว่า วันนี้มีคนไปพูดต่างๆ มากมายว่าพรรคเพื่อไทยจะยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบ้าง ยกเลิกเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุบ้าง พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า ทั้งเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุและบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่พี่น้องได้อยู่นั้น พรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิก มีแต่จะเข้าไปดูและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยประกาศไว้แล้วว่าจะต้องยกระดับชีวิตรายได้ของพี่น้องให้มากขึ้น

จากสถิติรายได้ของคนน่านเฉลี่ยมีรายได้เฉลี่ย 6,000 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งเป็นรายได้ที่ไม่พอกับรายจ่าย หากพรรคเพื่อไทยมาเราจะเติมเงินให้ ครอบครัวไหนรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท เราจะเติมให้ถึง 20,000 บาท และใครที่อายุ 16 ปีขึ้นไป เราจะมีกระเป๋าเงินดิจิทัลแจกอีกคนละ 10,000 บาท เพื่อให้ใช้จ่ายซื้ออาหาร ของกินของใช้ เครื่องมือการเกษตรทำงาน อย่างนี้แล้วพี่น้องยังอยากได้แค่ 200-300 บาทอีกหรือไม่


นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหลือเวลาอีกไม่เกิน 35 วัน จะถึงวันเลือกตั้ง สมัยก่อนเวลาเลือกตั้งคิดแค่ว่าใครก็ได้เหมือนๆ กัน แต่หลังจากมีพรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทย ที่มีนโยบายออกมาแก้ปัญหาพี่น้อง ทำให้พี่น้องรู้ว่าเราเลือกอนาคตเราได้ เราเลือกชีวิตที่ดีขึ้นได้ เปลี่ยนแปลงได้ เมื่อเลือก ส.ส. หรือพรรคการเมืองที่มีคุณภาพ มีนโยบายที่ดี

“8 ปีที่ผ่านมา ชีวิตพี่น้องได้แค่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้ 300-400 บาท พอถึงฤดูหาเสียงก็มาเพิ่มเงินให้พี่น้องเป็น 700-800 บาท แต่พรรคเพื่อไทยเห็นพี่น้องลำบากมานาน ครอบครัวไหนรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท เราเติมเงินให้พี่น้องให้ถึง 20,000 บาท และเราจะเติมเงินดิจิทัลให้พี่น้อง ใครอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท ใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ดังนั้น 14 พฤษภาคมนี้ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคเท่านั้น ถ้าเลือกเพื่อไทยใบเดียวก็ได้ประยุทธ์อยู่ต่อไป แต่ถ้าเลือกสองใบได้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

ด้านนายณัฐวุฒิ ปราศรัยเพื่อไทยต้องแลนด์สไลด์ ถ้าแบ่งใจให้พรรคอื่น อาจได้ พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร กลับมา การเลือกตั้งครั้งนี้จึงขอเลือกเพื่อไทยจังหวัดน่านทั้ง 3 เขต ให้สมศักดิ์ศรีหัวหน้าพรรค จะได้ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ ส่งลูกหลานคนเมืองน่านทำหน้าที่ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ในส่วนนโยบายเติมเงินในกระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาท ที่ทาง กกต. เรียกพรรคเพื่อไทยไปชี้แจงนั้น มีคนกังวลว่าอาจถูกยุบพรรค นายณัฐวุฒิ ย้ำว่าพี่น้องอย่าตกใจไป เพราะเจ้าหน้าที่ กกต. ก็ลำบากใจเต็มที แต่นโยบายนี้ “มาจริง มาชัด มาเต็ม” แน่นอน แต่ย้ำว่าต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ในกรอบรัศมี 4 กิโลเมตร ถ้าพื้นที่ห่างไกล รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะปรับขยับขยายให้ นี่จะเป็นครั้งแรกที่คนไทยทั้งประเทศมีคนละหมื่น

“พรรคเพื่อไทยไม่เคยมองประชาชนเป็นยาจก พรรคเพื่อไทยมองประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย และเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ เราจะเดินทางไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าด้วยรัฐบาลที่ประสิทธิภาพที่สูงกว่า” นายณัฐวุฒิ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]