กาญจนบุรี 9 เม.ย.-ชาวบ้านเดินป่าริมเขื่อนวชิราลงกรณ เจอเสือโคร่งยาว 4 ศอก ล่าวัวชาวบ้านเป็นอาหาร คาดหนีไฟป่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เตือนอย่าเข้าไปในจุดที่พบเสือเด็ดขาด อาจเกิดอันตรายได้
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ กระต่าย ทองผาภูมิประศม โพสต์ภาพซากวัวที่ถูกเสือกินเป็นอาหารเหลือเพียงแค่ครึ่งตัว พร้อมกับระบุข้อความว่า “แจ้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านโบอ่องทราบ เนื่องจากเมื่อวาน (6 เม.ย.)ได้มีชาวบ้านพบเห็นเสือออกหากินบริเวณห้วยมะนาว(ใกล้หมู่บ้าน) และได้กินวัวของชาวบ้านไปนั้น วันนี้(7 เม.ย.)เสือได้ย้อนกลับมาอีก เตือนชาวบ้านหากไม่มีธุระจำเป็นควร “งด” ออกจากบ้านในเวลากลางคืนหรือบริเวณที่พบเจอเสือ” โดยมีผู้แสดงความเป็นห่วงจำนวนมาก แต่ก็มีที่พูดถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่า พร้อมฝากถึงชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน ช่วยกันดูแลรักษาสัตว์ป่าอนุรักษ์ และเป็นหูเป็นตาให้กับสัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยง โดยธรรมชาติของเสือแล้วมนุษย์ไม่ใช่เป้าหมาย และไม่ใช่เหยื่อของเสือ”
ผู้สื่อข่าว inbox ไปถามทางเจ้าของโพสต์ ทราบว่าบ่ายวันที่ 6 เม.ย. ชาวบ้านหมู่ 2 บ้านโบอ่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เข้าป่า เมื่อถึงบริเวณป่าริมห้วยมะนาว ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ เขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พบเสือโคร่งลำตัวยาวประมาณ 4 ศอก กำลังกัดกินซากวัว ด้วยความตกใจรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด จากนั้นได้แจ้งกำนันตำบลปิล๊อกและเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาแหลม
7 เม.ย. เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และกำนันตำบลปิล๊อก ลงเรือไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าที่คอวัวมีบาดแผลจากการถูกเขี้ยวเสือกัดเข้าที่หลอดลม ส่วนบริเวณลำตัวช่างหางและขาด้านหลังถูกเสือกัดกินเป็นอาหาร มีบาดแผลขยายวงกว้างมากขึ้น
ล่าสุด วันนี้ (8 เม.ย.) นายอภิสิทธิ สมบัติมาศ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เผยว่าจากการลงพื้นที่ พบว่าจุดที่วัวถูกเสือล่ากินเป็นอาหารอยู่บริเวณพิกัดป่าห้วยมะนาว ห่างจากชุมชนบ้านโบอ่อง หมู่ที่ 2 ต.ปิล๊อก ประมาณ 3-4 กิโลเมตร ซากวัวที่เหลืออยู่ คาดว่าเสือตัวดังกล่าวจะหวนกลับมากินเป็นอาหารอีกอย่างแน่นอน ดังนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้ติดตั้งกล้องดักถ่ายเอาไว้เพื่อดูความเคลื่อนไหวของเสือตัวดังกล่าว
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตามแนวตะเข็บชายแดนไทยเมียนมา เกิดไฟป่าเป็นบริเวณกว้าง เสือที่อาศัยอยู่ในผืนป่าไม่สามารถอยู่ดำรงชีพได้ จึงหนีออกมาอาศัยอยู่ที่ป่าห้วยมะนาว ก่อนเกิดเหตุ คาดว่าวัวน่าจะลงมากินน้ำที่ห้วย จึงถูกเสือที่กำลังหิวโหยล่าไปกินเป็นอาหาร
ดังนั้นจึงขอฝากเตือนประชาชนว่า หากไม่จำเป็นอย่างก็อย่าเข้าไปในป่าจุดที่พบเสือโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายได้.-สำนักข่าวไทย