เชียงใหม่ 7 เม.ย.- ค่าฝุ่นพิษเชียงใหม่ ยังพุ่งสูงเกินมาตรฐานทุกพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯ ออกประกาศเตือน แนะงดออกจากบ้าน พร้อมขอภาครัฐจัดระบบ Work From Home ขณะที่ประชาชนยังต้องดูแลตัวเองสวมแมสก์ หวังภาครัฐแก้ปัญหาจริงจัง
พ่อแม่เด็กหญิงวัย 5 ขวบ อัดคลิปลูกสาวที่อยู่บนรถและเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง แม้จะเข้าห้างสรรพสินค้าไปแล้วก็ยังมีอาการอยู่ โดยเชื่อว่าได้รับผลกระทบมาจากค่าฝุ่นพิษที่สูงขึ้นแน่นอน
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามในประกาศมาตรการลดฝุ่นพิษ โดยขอให้ภาครัฐทุกแห่งจัดระบบ Work From Home ในส่วนที่ไม่ส่งผลกระทบต่อภารกิจที่ต้องดูแลประชาชน และเอกชนพิจารณาให้พนักงานทำงานที่บ้านเป็นเวลา 1 วัน พร้อมขอให้ชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง งดออกจากบ้านและสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ส่วนศูนย์ดูแลเด็กเล็กต้องมีห้องปลอดฝุ่น หากไม่มีขอให้พิจารณาปิด
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เผยถึงหลักเกณฑ์พิจารณาออกประกาศฉบับนี้ ว่า ได้ประเมินสถานการณ์มาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อเห็นว่าไม่ดีขึ้นและในช่วง 2 วันนี้ ค่าฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตรในทุกอำเภอ ทำให้จังหวัดและทีมแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ต้องตัดสินใจออกประกาศดังกล่าว เพื่อเตือนประชาชนและให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวกับฝุ่นพิษ ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์และออกประกาศเตือนแบบวันต่อวัน
ขณะที่โรงเรียนและศูนย์ดูแลเด็กเล็กบางแห่งไม่ได้ปิดตามประกาศเพราะมีเครื่องฟอกอากาศอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นช่วงซัมเมอร์ ผู้ปกครองไว้ใจให้เด็กมาอยู่ที่โรงเรียน เพราะเป็นสถานที่ปลอดภัยในการหายใจมากกว่า พร้อมขอให้ภาครัฐสนับสนุนโรงเรียนที่ต้องดูแลเด็กๆ ให้มีเครื่องฟอกอย่างทั่วถึงด้วย สอดคล้องกับผู้ปกครองบางราย ที่พาบุตรหลานมาอยู่ในห้องปลอดฝุ่นเพราะบางบ้านไม่มีเครื่องฟอกอากาศ อย่างที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ จัดห้องปลอดฝุ่นไว้ รองรับเด็กๆ ในช่วงปิดเทอม
แต่บางรายที่เป็นกลุ่มเปราะบาง อย่างผู้ป่วยติดเตียง วัย 88 ปี ที่มีคุณยาย วัย 85 ปี เป็นโรคหอบหืด คอยดูแล บอกว่า ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนได้ ต้องดูแลกันเองอยู่ที่บ้าน ซึ่งไม่มีแม้กระทั่งที่วัดอากาศ ใช้แต่สายตาดูเอาว่าวันไหนฝุ่นมากฝุ่นน้อยก็คอยเอาแมสก์มาใส่ พร้อมบอกถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่ได้รับ คือ แสบตา หายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะคุณตา ไอหนักมากและกินข้าวแทบไม่ได้เพราะอาเจียนออกมา
ขณะที่ชาวเชียงใหม่ที่แม้จะไม่ได้เป็นกลุ่มเปราะบาง แต่ก็ต้องออกมาใช้ชีวิตทำมาหากิน โดยเฉพาะคนขับรถสามล้อและแม่ค้าพ่อค้าที่เปิดร้านข้างทาง สูดควันพิษเข้าไปทุกวัน ต่างบอกว่าได้รับผลกระทบอย่างมาก นอกจากสุขภาพที่แย่แล้ว ขายของก็แย่ตามไปด้วย อย่างคุณลุงขับสามล้อก็บอกว่าแทบไม่มีลูกค้ารายได้หายไปเท่าตัว
ชาวเชียงใหม่ ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไร ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากฝุ่นพิษที่สูดเข้าไป มากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งทุกคนต่างต้องดูแลตัวเองในเบื้องต้นทั้งการสวมแมสก์ เอ็น 95 และงดออกจากบ้านให้ได้มากที่สุด แต่ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับลมหายใจของชาวเชียงใหม่มากกว่าการออกประกาศขอความร่วมมือ หรือรอฟ้าฝนให้ตกลงมาเพียงอย่างเดียว .-สำนักข่าวไทย