ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ออก 8 มาตรการ แก้ฝุ่นพิษ มีผลทันที

เชียงใหม่ 7 เม.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ออกคำสั่งด่วน 8 มาตรการ บรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาหมอกควัน-ฝุ่นพิษ ให้หน่วยงานรัฐจัดระบบ WFH พร้อมขอความร่วมมือบริษัทเอกชน อนุญาตให้ทำงานที่บ้าน

สืบเนื่องจากปัญหาหมอกควัน มลภาวะทางอากาศ ที่กำลังรุมเร้า จ.เชียงใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายภาคส่วน ทั้งการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน, สุขภาพ และแหล่งท่องเที่ยว เช่น พื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน ในระยะ 500 เมตร ส่งผลกระทบกับเรือรับจ้าง บริเวณเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ที่รับส่งนักท่องเที่ยวจากท่าเรือ ไปยังแหล่งท่องเที่ยว และที่พักลอยน้ำเหนือเขื่อนแม่งัด

ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกคำสั่งประกาศ 8 ข้อ ในการดูแลสุขภาพประชาชน เป็นภาวะเร่งด่วน เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (6 เม.ย.66) จากสถานการณ์หมอกควันที่สูงขึ้น อยู่ระหว่าง 112–398 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แนวโน้มสูงขึ้น

1. ให้หน่วยงานรัฐทุกแห่ง จัดระบบทำงานที่บ้าน (WFH) ในส่วนภารกิจที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน
2. ขอความร่วมมือสถานบริการ ร้านอาหาร พิจารณาให้บริการห้องปรับอากาศ เพื่อลดผลกระทบจากหมอกควัน และฝุ่นขนาดเล็ก
3. ขอความร่วมมือบริษัท ห้างร้าน สถานประกอบการ อนุญาตให้พนักงานทำงานที่บ้าน เพื่อลดการออกนอกเคหสถาน
4. หากมีความจำเป็นออกนอกบ้าน ขอให้ประชาชนสวมหน้กากอนามัยทุกครั้ง
5. ขอให้กลุ่มเปราะบาง (เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว) ลดหรืองดออกจากบ้าน
6. ให้หน่วยงานรัฐ พิจารณาเปิดบริการห้องปลอดฝุ่นให้บริการประชาชน
7. ให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ไม่มีห้องปลอดฝุ่น พิจารณาหยุดเรียน
8. ให้หน่วยงานภาครัฐที่มีสวนสาธารณะในความดูแล พิจารณาปิดพื้นที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง

โดยคำสั่งมีผลในวันที่ 7 เมษายน 2566

ส่วนสถานการณ์ไฟป่าดอยตุง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมตรวจสอบพื้นที่เขตหมู่บ้านผาบือ-บ้านลาบา ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย หลังเกิดไฟป่า ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ได้ในวันที่ 6 เม.ย. พบว่า มีป่าไม้ถูกไฟเผาได้รับความเสียหาย เบื้องต้นประมาณ 500 ไร่ และอยู่ระหว่างสำรวจด้วยมุมสูง หรือจีพีเอส เพื่อคำนวณความเสียหายให้ชัดเจน จากนี้เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ร่วมกันทำแนวกันไฟป้องกันไม่ให้ลุกลามไปยังชุมชนและสถานที่สำคัญ

นายอรรถพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไฟป่าครั้งนี้ เกิดจากสภาพของป่าที่เป็นกอไผ่และมีต้นสนขนาดใหญ่ ต้นไผ่ ที่ตายตามธรรมชาติจะมีขุยเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เมื่อเกิดไฟไหม้ทำให้เกิดการปลิวกระจาย จนลุกลามอย่างรวดเร็ว จำนวน 3 จุดใหญ่ หลังจากเจ้าหน้าที่ ดับไฟและทำแนวกันไฟไว้ได้แล้ว จะนำเฮลิคอปเตอร์เข้าโปรยน้ำ เพื่อดับไฟให้สนิท เพราะยังมีต้นไม้ เศษไม้ ขอนไม้ ตอไม้ ที่ยังมีเชื้อไฟหลงเหลืออยู่ และเฝ้าระวังอีกอย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไฟป่าดับสนิท .-สำนักข่าวไทย