เชียงใหม่ 30 มี.ค. – รวบ 4 คนไทยพร้อมนายทุนจีน ถือครองที่ดินหมู่บ้านจัดสรร รูปแบบนอมินี-นิติกรรมอำพราง จ้างคนไทยถือหุ้นแทน พบเสียภาษีปีละ 3 หมื่นบาท แต่เป็นเจ้าของโครงการมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
ตำรวจเชียงใหม่ จับกุม 4 คนไทย 1 คนจีน นายทุนที่เป็นกรรมการและหุ้นส่วน หมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลต้นเปา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นนอมินีการถือครองที่ดินหมู้บ้านจัดสรร รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าว มีการตั้งชื่อเป็นภาษาจีนด้วย ส่วนใหญ่มีทั้งคนจีนและคนไทยซื้อพักอาศัย เกือบ 200 หลัง ราคาหลังละ 5-10 ล้านบาท
เบื้องต้น คนไทย 4 คน ถูกแจ้งข้อหา เป็นผู้ช่วยเหลือหรือสนับสนุนให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติกฎหมาย ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่ไม่อนุญาติให้คนต่างด้าว ส่วนคนจีนถูกดำเนินคดีข้อหา เป็นคนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาติ และอยู่ระหว่างออกหมายจับชาวจีนอีก 2 คน ที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ และคนไทยอีก 1 คน
ส่วนพฤติการณ์ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาแถลงจับกุมที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด ก่อนเผยว่า มีการออกหมายจับทั้งหมด 8 หมาย เป็นนิติบุคคล 1 หมาย คนไทยที่เป็นนอมินี 4 หมาย และชาวจีนอีก 3 คน โดยนิติกรรมอำพราง จะมีนายทุนชาวจีน เข้ามาซื้อโครงการหมู่บ้านจัดสรร โดยชาวจีนถือหุ้นมากถึงร้อยละ 75 ส่วนเจ้าของถือหุ้นร้อยละ 25 แต่นายทุนจีนให้คนไทยเป็นนอมินีถือหุ้น และเป็นกรรมการแทนตนเอง
นอกจากนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยังบอกอีกว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นนอมินี มีรายได้เสียภาษีแค่ 3 หมื่นบาท แต่กลับเป็นเจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งการทำเป็นนิติกรรมอำพราง เข้าข่ายการฟอกเงิน หากปล่อยไว้จะทำให้คนไทยไม่มีที่ยืนในสังคมและยังมีหมู่บ้านอีก 4 แห่งที่ดำเนินการในลักษณะนี้ อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการจับกุม .-สำนักข่าวไทย