27 มี.ค. – “ดาบตำรวจ” ที่ถูกแจ้งความว่ามอมเหล้านักศึกษาสาว ก่อนพาเข้าโรงแรมขืนใจและถ่ายคลิป เข้าพบพนักงานสอบสวน ด้านผู้กำกับ สภ.คลองห้า เผยแจ้งข้อหาข่มขืนแล้ว เตรียมเสนอผู้บังคับบัญชาตั้งกรรมการสอบสวน
หลังเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) นักศึกษาสาว อายุ 21 ปี เข้าขอความช่วยเหลือกับนายอาชาน โอภาสธนากูร ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่าถูกดาบตำรวจ อักษรย่อ น. เจ้าของผับดังย่านคลอง 6 จ.ปทุมธานี หลอกมอมเหล้าก่อนพาเข้าโรงแรมขืนใจ แต่แฟนตามมาเคาะห้องกลับออกอุบายหลอกไม่ให้เจอกัน ขู่ถ่ายคลิปบังคับพาเข้าโรงแรมที่ 2 ขืนใจซ้ำ กระทั่งช่วงตี 5 พยายามจะข่มขืนผู้เสียหายอีกครั้ง แต่ผู้เสียหายไม่ยอม จากนั้นขอมือถือดาบตำรวจเพื่อโทรหาเพื่อนให้มารับ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายไม่กล้าเข้าแจ้งความเพราะเป็นตำรวจ มีธุรกิจสถานบันเทิงใหญ่โต เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่
จากนั้นช่วงเย็น ทางเพจสายไหมต้องรอดพานักศึกษาคนดังกล่าวเข้าแจ้งความเอาผิดตำรวจนายนี้ กับ พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม ผู้กำกับการ สภ.คลองห้า หลังแจ้งความ พนักงานสอบสวนพาผู้เสียหายตรวจสอบที่เกิดเหตุ 3 จุด
จุดแรก โรงแรมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพาข่มขืน, จุดที่ 2 หน้าร้านเหล้าย่านคลองหกที่เพื่อนของผู้เสียหายลงไปจองโต๊ะ และตำรวจที่ถูกกล่าวหาขับรถออกไปกับผู้เสียหาย และจุดที่ 3 บ้านเพื่อนย่านคลองสี่ ธัญบุรี ที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาพาผู้เสียหายไปส่ง
ล่าสุดวันนี้ (27 มี.ค.) ผู้กำกับการ สภ.คลองห้า บอกว่าได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ และเรียกตัวตำรวจที่ถูกกล่าวหามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมแจ้งข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาของตนโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ”
จากการพูดคุยเบื้องต้นผู้ถูกกล่าวยังคงให้การแบ่งรับแบ่งสู้ ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงยังไม่ได้พูดคุยอะไรมากนัก ทั้งนี้ ให้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเพื่อความชัดเจนในทุกประเด็นก่อน โดยดาบตำรวจมีสีหน้าเป็นกังวลเล็กน้อย ส่วนโทษทางวินัยร้ายแรงขนาดไหนขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานของผู้เสียหายด้วย ต้องเสนอเรื่องไปให้ผู้บังคับการพิจารณาในการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ส่วนความเสียหายต่อโรงพักนั้นคงไม่มี เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว
ผู้สื่อข่าวไปคุยกับชาวบ้านย่านคลองหกที่ตั้งข้อสังเกตว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ มีนักศึกษาเกือบหมื่นคน จึงมีร้านอาหาร ร้านเหล้า ผับ บาร์ ที่อยู่ในโซนนิ่งและนอกโซนนิ่ง ทั้งถูกต้องและไม่ถูกต้องเกิดขึ้นมากมาย ส่งผลให้เกิดปัญหาขึ้นบ่อยครั้ง พร้อมฝากถึงฝ่ายปกครองจังหวัดปทุมธานี สนใจปัญหาต่างๆ เหล่านี้ให้มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย