เพรชบุรี 23 มี.ค. – ตำรวจวิสามัญหนุ่มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงในหมู่บ้าน ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 3 คน หลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาปิดล้อมเจรจาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 15 ชั่วโมง ด้าน ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เผยปมก่อเหตุจากปัญหาทะเลาะวิวาทกับคู่กรณี
เหตุชายคลั่งใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 15 ชั่วโมง สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจทำตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากให้ครอบครัวและเพื่อนสนิทเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว แต่ไม่เป็นผล ไม่รับข้อเสนอ คนร้ายยิงสวนกลับเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมและเข้ากดดันบริเวณรอบบ้าน เพื่อความปลอดภัยของเด็กและชาวบ้านบริเวณดังกล่าว กระทั่งสุดท้ายจำเป็นต้องยุติสถานการณ์ หลังปรับแผนปฏิบัติการถึง 4 ครั้ง ส่งชุดปฏิบัติการเข้าควบคุม แต่คนร้ายยิงต่อสู้กลับมา โดนโล่กำบังของตำรวจชุดอินทน์ 7, ชุดปฏิบัติการพิเศษนเรศวร 261 และคอมมานโด จำนวน 6 นัด จนมีสภาพยุบ ถ้าตำรวจไม่มีโล่คงได้รับบาดเจ็บ หากปล่อยให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้ คนก่อเหตุจะยิ่งคลุ้มคลั่ง จึงตัดสินใจวิสามัญในที่สุด ไม่อยากให้มีความสูญเสียเกิดขึ้น
สำหรับห้องที่คนร้ายหลบซ่อนอยู่ชั้น 2 มีเหล็กดัด ปิดไฟและปิดม่านตลอด ไม่สามารถใช้โดรนตรวจจับภาพหรือมองเห็นได้ ตอนเข้าไปคนร้ายยิงปืนอย่างต่อเนื่อง ยิงแบบ double tap เนื่องจากมีประวัติฝึกยิงปืน มีกระสุนจำนวนมาก คนร้ายชอบซ้อมยิงปืนตามสนามยิงปืนและยิงได้เร็ว นอกจากนั้นมีการนำเฟอร์นิเจอร์มาทำเป็นที่กำบังด้วย
เบื้องต้นจากการตรวจสอบในบ้าน พบปืน 1 กระบอก เป็นปืนกล็อก 19 หรือปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ซึ่งอยู่ระหว่างการค้นหาว่ามีอาวุธปืนมากกว่านี้หรือไม่
จากการตรวจสอบประวัติคนก่อเหตุมีความชำนาญในการใช้ปืน ชอบฝึกยิงปืนที่สนามฝึกยิงปืน ขณะก่อเหตุจะยิงปืนรัวหลายนัดตอบโต้กลับมา ส่วนผู้เสียชีวิต 3 ราย โดนยิงรวมกันมากกว่า 30 นัด
ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้ยิงแค่เพื่อนบ้านที่มีความขัดแย้งกันเรื่องทำร้ายร่างกาย แต่ยิงคนอื่นอีกด้วย แต่อาจมีความเครียดเนื่องจากต้องไปขึ้นศาล แต่จากการตรวจสอบประวัติการรักษาไม่พบประวัติป่วยทางจิต
สำหรับเหตุการณ์ที่ยืดเยื้อ เนื่องจากคนก่อเหตุยิงตอบโต้ตำรวจ จึงต้องมีการนำชาวบ้านออกมาให้หมดก่อน จึงจะสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ ก่อนที่จะมีการวิสามัญ
ขณะที่นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ระบุเหตุการณ์นี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เป็นบทเรียน จะพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก จะเร่งเยียวยาและช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุส่งข้อความบอกเพื่อนทางโทรศัพท์ ยืนยันว่าจะไม่เจรจา จะต่อสู้ตอบโต้กับตำรวจอย่างแน่นอน
ส่วนการเข้าตรวจสอบในบ้าน พบปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และแม็กกาซีนบรรจุกระสุน 2 ชุด นอกจากนี้ได้รับข้อมูลจากญาติมักสั่งซื้อกระสุนทางออนไลน์มาเก็บไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนที่แน่ชัด นอกจากนี้พบว่าบริเวณพื้นบ้าน คนก่อเหตุเทราดน้ำมันพืชไปทั่วบ้าน สันนิษฐานป้องกันการเข้าจู่โจมของตำรวจ
จากการตรวจประวัติ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ทำงานได้แค่ 6 เดือน เมื่อปี 2563 ทางหน่วยงานไม่ต่อสัญญา จากนั้นจึงไปสมัครทหารเกณฑ์ ประจำการประมาณปีเศษ ยืนยันว่าปมก่อเหตุเกิดจากเคยมีปัญหากับคู่กรณี เป็นนักศึกษาทั้ง 2 คน ที่เช่าบ้านอยู่ตรงข้าม เมื่อเดือน พ.ย. 65 มีปัญหาทะเลาะวิวาทจนต้องขึ้นศาลมาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) มีนัดขึ้นศาลเป็นครั้งที่ 3 โดยมีทนายและครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย เดินทางไปรอที่ศาลแล้ว แต่ไม่พบว่าทั้งคู่มาตามนัด กระทั่งมารู้ข่าวเหตุการณ์กราดยิง
จากนี้อยู่ระหว่างรอพิสูจน์หลักฐานตำรวจเข้าชันสูตรศพผู้ก่อเหตุ และตรวจสอบที่เกิดเหตุในช่วงเช้าวันนี้ (23 มี.ค.)
ส่วนศพผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุ รวม 4 ศพ ถูกส่งไปเก็บที่วัดถ้ำแก้ว ก่อนจะส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี.-สำนักข่าวไทย