20 มี.ค. – ย้อนไทม์ไลน์วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 หายไปจากโรงงานในจังหวัดปราจีนบุรี เกือบครึ่งเดือน ล่าสุดพบอยู่ในโรงงานหลอมเหล็ก
วัตถุกัมมัตรังสีซีเซียม-137 ที่ว่านี้ หายไปจากบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ หรือ NPS ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม 304 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ แต่เป็นข่าวใหญ่เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เนื่องจากนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี นัดสื่อแถลงข่าว โดยมีทั้งผู้แทนจากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ บริษัท NPS และสาธารณสุขจังหวัด ร่วมแถลงยอมรับว่าซีเซียม-137 หายไปจากบริษัท NPS ที่ประกอบธุรกิจประเภทไฟฟ้า ก๊าซ ไอน้ำ และระบบการปรับอากาศ ซึ่งบริษัทบริการด้านการจ่ายไฟฟ้าติดตั้งวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 จำนวน 14 ชิ้น และบริษัททราบเบื้องต้นว่าหายไปในช่วงเย็นวันที่ 10 มีนาคม
ขณะที่ ปภ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่าวัตถุซีเซียมหายไปในวันรุ่งขึ้น (11 มี.ค.) เกรงว่าอาจถูกนำออกไปและอาจไปอยู่ในร้านรับซื้อของเก่า เบื้องต้นได้แนะนำบริษัทไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ พร้อมออกติดตามแต่ยังไม่พบ หากคนได้ไปและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นำไปหลอมหรือเผาอาจเป็นอันตราย อีกทั้งอายุของวัตถุดังกล่าวมีอายุอีก 300 ปี หากไม่มีใครไปทำอะไรก็จะเสื่อมสลายไปตามอายุ
ด้านเลขาสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ ฝากสื่อกระจายข่าว หากใครเอาไปไม่ว่าจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ให้นำมาคืน โดยไม่ต้องพะวงว่าจะถูกจับกุม พร้อมกับประกาศให้รางวัลกับคนที่นำมาคืน หรือแจ้งเบาะแสเป็นเงิน 50,000 บาท ต่อมาได้ออกเอกสารเพิ่มเงินรางวัลให้กับผู้แจ้งเบาะแสเป็น 100,000 บาท
จากนั้น 13 มีนาคม มีการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการตรวจพิสูจน์และค้นหาวัสดุกัมมันตรังสีที่สูญหาย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธาน และในวันดังกล่าวนี้ที่ทุกฝ่ายได้ข้อสรุปจากการรวบรวมข้อมูลว่า วัสดุกัมมันตรังสีสูญหายไปประมาณวันที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยบริษัทได้สอบถามพนักงานขับรถที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทราบว่า ได้ยินเสียงดังมากเหมือนมีโลหะตกลงพื้น แต่ไม่คิดว่าเป็นวัตถุอันตรายจะหายไป
วัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ติดตั้งอยู่บนถังไซโลเก็บขี้เถ้า มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 16-17 เมตร มีลักษณะเป็นแท่งทรงกระบอก มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ความยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม และมีป้ายติดรายละเอียดแสดงข้อมูลของวัสดุกัมมันตรังสี รวมถึงมีสัญลักษณ์ทางรังสีขนาดเล็กติดอยู่ แต่เนื่องจากผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 28 ปี จะมีสนิมเกาะอยู่เป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันมีการแนะนำให้ประชาชนสังเกตและเฝ้าระวัง เนื่องจากวัตถุซีเซียม-137 ที่สูญหาย เป็นวัตถุที่มีตะกั่วปกป้องอยู่ชั้นในและห่อหุ้มด้วยเหล็ก โดยวัสดุกัมมันตรังสีจะอยู่ในชั้นในสุด หากยังอยู่ในสภาพเดิมจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม แต่หากถอดประกอบหรือชำแหละเครื่องกำบังที่ห่อหุ้มจนทำให้วัตถุกัมมันตรังสีมีลักษณะเปลือยเปล่า จะมีรัศมีการแผ่รังสีออกจากวัสดุกัมมันตรังสีประมาณ 1-2 เมตร หากสัมผัสโดยตรงจะทำให้ผู้สัมผัสเกิดผื่นแดง หรือเป็นแผลไหม้บริเวณที่สัมผัส
และตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม ที่มีการตั้งโต๊ะแถลง ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นตามร้านรับซื้อของเก่า เศษโลหะ และโรงงานหลอมเหล็กทั้งในพื้นที่ปราจีนบุรี จนถึงพื้นที่ใกล้เคียงอย่างฉะเชิงเทรา โดยการตรวจสอบใช้เครื่องมือวัดทางรังสี และโดรนบินสำรวจ แต่ไร้วี่แวว กระทั่งเมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) มีข่าวว่าพบอยู่ในในโรงงานหลอมเหล็ก และผู้ว่าฯ นัดแถลงรายละเอียดเมื่อ 11.00 น. วันนี้ (20 มี.ค.) – สำนักข่าวไทย