นครราชสีมา 15 มี.ค. – ปปง. และตำรวจ บก.ปปป. เข้าค้นบ้านพักรอง สสจ.โคราช และผู้เกี่ยวข้องรวม 4 จุดตั้งแต่เช้ามืด เหตุทุจริตจัดอบรมสัมมนาทิพย์ ไม่มีผู้อบรมจริงแถมมีรายชื่อคนตายร่วมอบรม
เช้านี้ (15 มี.ค.) เวลา 07.00 น. นายปิยะ ศรีวิกะ ผู้อำนวยการกองคดี 2 สำนักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายสันติ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ในหมู่บ้านใน ตำบลสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 จุดที่เข้าตรวจค้นครั้งนี้ โดยอีก 3 จุด ประกอบด้วย บ้านพักนายสันติ ตำบลสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา ยึด 13 รายการ เช่น เครื่องประดับ พระ นาฬิกา และรถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน, บ้านพักนายสามารถ ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอเมืองนครราชสีมา ตรวจยึด เงินสด นาฬิกา แหวน เครื่องประดับหลายรายการ และบ้านพักนางนันทนา ในตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมาตรวจยึด กระเป๋าแบรนด์เนม และแว่นตา พร้อมรถแทรคเตอร์ และเอกสาร
สืบเนื่องจากข้อมูลการตรวจสอบโครงการจัดอบรมควบคุมป้องกันโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา พบว่า ในช่วงตั้งแต่ปี 2562 ได้มีโครงการจัดอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตำบล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา แต่ไม่มีการจัดอบรมจริง เป็นลักษณะของการจัดอบรมสัมมนาทิพย์ มีแต่เอกสารโครงการที่เขียนระบุการจัดอบรมเพื่อเบิกเงินงบประมาณค่าสถานที่อบรม และค่าอาหาร โดยมีรายชื่อชาวบ้านในแต่ละพื้นที่เข้าร่วมอบรม แต่กลับพบด้วยว่า ผู้มีรายชื่อเข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสาร และไม่ได้เข้าร่วมโครงการ และบางพื้นที่พบรายชื่อผู้เสียชีวิตอยู่ในชื่อผู้ร่วมอบรมด้วย ส่วนสถานที่ที่ใช้จัดอบรมส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นสถานที่ราชการ แต่หน่วยงานเจ้าของสถานที่ยืนยันไม่มีการจัดโครงการ และไม่พบว่ามีหนังสือขอใช้สถานที่ในการอบรมแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นหาหลักฐาน เส้นทางการเงิน เพื่อดำเนินการอายัดทรัพย์สินในเบื้องต้น
โดยรายละเอียดของทรัพย์สินที่ยึดอายัดในปฏิบัติการครั้งนี้ เลขาธิการ ปปง. และเลขาธิการ ป.ป.ท. จะร่วมกับจังหวัด และตำรวจจาก บก.ปปป. แถลงในบ่ายวันนี้ ซึ่งนอกจากคดีทุจริตจัดอบรมเท็จ และยังตรวจพบว่าบุคคลดังกล่าวมีธุรกรรมทางการเงินต้องสงสัย ว่ามีเงินหมุนเวียนจากโครงการทุจริตอื่นๆ รวมหลายสิบล้านบาท. -สำนักข่าวไทย