เชียงใหม่ 14 มี.ค. – ฝนตกทำให้ชาวเชียงใหม่เริ่มหายใจได้เต็มปอดและเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้ามากขึ้น หลังเผชิญฝุ่น PM2.5 มีค่าสูงกว่ามาตรฐานนานหลายสัปดาห์และติดอันดับ 1 ของโลกมาหลายวัน ขณะผู้ว่าฯ ยืนยันสถานการณ์จากนี้จะดีขึ้นตามลำดับ พร้อมบอกต้นตอของฝุ่นพิษส่วนใหญ่ลอยมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ยันเชียงใหม่มีการเผาน้อย ส่วนจุดความร้อนที่พบสามารถดับได้ภายใน 1 วัน
แม้ที่ จ.เชียงใหม่ จะมีฝนตกลงมาและวันนี้จากการจัดอันดับเมืองมลพิษทั่วโลกจากเว็บไซต์ไอคิวแอร์ เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา เชียงใหม่ จะตกไปอยู่อันดับที่ 12 ของโลกแล้วก็ตาม แต่กรมควบคุมมลพิษรายงานคุณภาพอากาศค่าฝุ่นพิษ PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ที่เชียงใหม่วันนี้ยังอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และเกินมาตรฐานที่บริเวณ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อยู่ที่ 55 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เช่นเดียวกับศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานค่าฝุ่นรายชั่วโมง ในเวลา 14.00 น. พื้นที่พบค่า PM2.5 สูงที่ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ อยู่ที่ 93 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ขณะที่นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ แถลงยืนยันสถานการณ์ฝุ่นพิษ หรือ PM2.5 ขณะนี้ดีขึ้นแล้วและจะดีขึ้นตามลำดับ สงกรานต์ทุกคนต้องได้มาเที่ยว ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนพร้อมรับมือปัญหาฝุ่นพิษเชียงใหม่ สามารถควบคุมการเผาบนพื้นที่ 21,000 ตารางกิโลเมตร ได้ดี ตามเป้าหมาย จุดความร้อนที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่สามารถดับได้ภายในวันเดียว จากสถิติการเผาไม่เคยติดอันดับ 1 ของประเทศ คนเชียงใหม่ให้ความร่วมมือดี ส่วน 3 จังหวัด แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง ร่วมมือดี แต่ถึงจะควบคุมปัจจัยภายในได้ แต่ปัจจัยภายนอกไม่สามารถควบคุมได้ เพราะควันพิษส่วนใหญ่ มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ต่อให้เชียงใหม่คุมได้ 100% ควันที่อื่นจะลอยมาที่เชียงใหม่อยู่ดีเพราะภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ ซึ่งฝุ่นควันข้ามประเทศได้เจรจาแล้ว แต่คาดหวังผลยังไม่ได้ ส่วนการจัดอันดับมลพิษที่เชียงใหม่ติดอันดับ 1 ของโลกนั้น เป็นเพราะถูกวัดจากความเป็นเมืองที่มีแค่ 3 ที่ คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ทำให้เชียงใหม่ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลก ทั้งที่จังหวัดอื่นอาจมีค่าฝุ่นพิษสูงกว่า ส่วนสถิติผู้ป่วยมะเร็งปอดในเชียงใหม่นั้น ได้เน้นการป้องกัน โดยเดินหน้าเข้าหากลุ่มเสี่ยง แจกแมสก์ ทั้ง 25 อำเภอทั่วเชียงใหม่แล้ว
ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ยืนยันการทำรูปประชาสัมพันธ์ว่าเชียงดาวไร้ฝุ่นจนถูกวิจารณ์นั้น ได้เอารูปออกจากเพจแล้ว แต่ในฐานะผู้ว่าฯ เมื่อสถานการณ์ฝุ่นพิษดีขึ้น ต้องประกาศให้ทั่วโลกรู้ เพื่อให้การท่องเที่ยวไม่หยุดชะงัก พร้อมทิ้งท้ายว่าหากเปลี่ยนผู้ว่าฯ เชียงใหม่ แล้วแก้ปัญหาฝุ่นพิษได้ตนก็ยอมลาออกจากตำแหน่ง. -สำนักข่าวไทย