สองแม่ลูกถูกปาดคอเสียชีวิตแล้ว ตำรวจเร่งสอบคนในบ้าน

สระบุรี 6 มี.ค. – เหตุปาดคอสองแม่ลูกที่สระบุรี หลังจากลูกเสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ. ล่าสุด แม่เสียชีวิตแล้ว ตำรวจเร่งสอบปากคำคนในครอบครัว ด้านยาย คาดแม่ก่อเหตุปาดคอลูก เพราะระยะหลังป่วยหลายโรค อาจเครียด


หลังเกิดเหตุสลดที่บ้านปูนชั้นเดียว หมู่ 3 ตำบลธารเกษม อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท เข้าตรวจสอบพบมีผู้ถูกอาวุธมีดปาดคอ 2 คน เป็นแม่ลูกกัน คือ เด็กชายอายุ 9 ปี นอนหายใจรวยริน อยู่หน้าประตูบ้าน ส่วนผู้เป็นแม่คือนางอารียา อายุ 40 ปี ถูกปาดคอด้วยมีดนอนหายใจรวยรินอยู่กลางถนนหน้าบ้าน พบมีดทำครัวยาว 6 นิ้ว ตกอยู่ ญาติรีบนำตัวทั้ง 2 แม่ลูก ส่งโรงพยาบาลพระพุทธบาท แต่เด็กชายเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ส่วนนางอารียา เมื่อถึงโรงพยาบาลลพบุรี มีอาการสาหัสมาก แพทย์ช่วยชีวิตไม่ได้

จากการสอบปากคำ นายอุดร สามีของนางอารียา บอกว่า คืนเกิดเหตุ นอนคนละห้องกับภรรยา ส่วนลูกนอนอยู่กับภรรยา มารู้สึกตัวสะดุ้งตื่น ช่วงตี 4 ตอนที่ลูกชายวิ่งเข้าไปหาที่ห้อง จึงถามลูกว่าเป็นอะไร คิดว่าอาเจียน จึงอุ้มลูกออกมา พบว่ามีเลือดไหลออกมาเต็มคอ พยายามเอามืออุดไว้ เพื่อไม่ให้เลือดไหล จากนั้นได้ยินเสียงภรรยาร้องให้ช่วย ส่วนสาเหตุยังไม่รู้ และไม่คิดว่าภรรยาจะทำร้ายลูก เพราะว่าภรรยารักลูกมาก ส่วนตัวภรรยาเป็นคนไม่ค่อยพูด ระยะหลังป่วยเป็นโรคแขนขาอ่อนแรง ซึ่งตอนเริ่มป่วยเคยบ่นว่า ถ้าล้มป่วยติดเตียง ตนเองจะทำงานคนเดียวไหวไหม และถ้าตนเองไม่อยู่ สามีจะเลี้ยงลูกได้ไหม ซึ่งพูดมาได้ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยไม่ได้ไปทำงาน


นายลำดวน ปู่ของเด็กที่เสียชีวิต ซึ่งบ้านอยู่ติดกัน เล่าว่า ไม่รู้สาเหตุเกิดจากอะไร รู้เพียงว่าลูกสะใภ้ไม่ค่อยสบาย ที่ผ่านมาลูกชายตนกับลูกสะใภ้ก็รักกันดี ส่วนภายในบ้านก็ไม่มีการรื้อค้นทรัพย์สินใด ๆ เช่นเดียวกับนางลัดดา ผู้เป็นย่าของเด็กที่เสียชีวิตบอกว่า ปกติพ่อแม่ของเด็กรักกันมาก สามีเป็นคนเอาใจเมีย และไม่มีการทะเลาะกันมาก่อน

พลตำรวจวิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ ให้น้ำหนักผู้ก่อเหตุเป็นคนในครอบครัว ซึ่งผู้เป็นแม่เคยบ่นกับสามีว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะมีโรคประจำตัว แขนขาอ่อนแรง ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าผู้เป็นแม่อาจใช้มีดปาดคอตัวเองก่อน และมาปาดคอลูกชายวัย 9 ขวบ แต่ยังไม่ตัดประเด็นใด ๆ ทิ้ง ต้องรอผลการชันสูตร ผล DNA ที่ตรวจจากรอยนิ้วมือที่มีด และผลทางนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจลายนิ้วมือที่มีดที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้เป็นแม่น่าจะเกิดความเครียดจากโรครุมเร้า ขณะนี้เร่งสอบสวน เรียกสามี ญาติ และเพื่อนบ้าน มาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น ส่วนผลตรวจร่างกายสามี เบื้องต้นไม่พบบาดแผลตามร่างกาย

นางจันทร์ แม่ของนางอารียา เล่าว่า ไม่มีลางบอกเหตุอะไร ลูกสาวไม่เคยบ่นอะไรให้ฟังเลย คาดว่าอาจจะมีบ้างลิ้นกับฟันกระทบกันกับสามี แต่ก็ไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เขาแต่งงานกันมาร่วม 10 ปี มีลูกชายคนหนึ่ง วัย 9 ขวบ ส่วนนิสัยลูกเขย แต่ก่อนเอาเรื่องเหมือนกัน แต่ปัจจุบันเขารัก และง้อเมียมาก ส่วนหลานชายก็ชอบเล่นบอลเก่ง ลูกสาวตนเองทำงานบริษัทเป็นแม่บ้าน เป็นคนขยันทำงานเป็นที่รักของเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน ระยะหลัง 2 เดือนมานี้ ลูกสาวเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และโรคภูมิแพ้ จนก่อนเกิดเหตุ 2- 3 วัน ไม่ได้ไปทำงาน คาดว่าอาจเครียดจนก่อเหตุ ตนเองเสียใจมากถ้าตายแทนได้ขอตายแทนลูกกับหลาน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้

หุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot สแกนตึกถล่มหนุนภารกิจกู้ภัย

มจพ. นำหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot เข้าพื้นที่สแกนตรวจสอบโครงสร้างตึกถล่ม ประเมินความปลอดภัย ก่อนให้กู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ด้านครอบครัวยังเฝ้ารออย่างมีความหวัง