อุดรธานี 25 ก.พ. – หญิงสาวถูกสามีทำร้าย กระโดดลงจากรถพร้อมลูก ขอความช่วยเหลือ บริเวณถนนเลียบคลองหนองเสือ-หนองแค อ.หนองแค จ.สระบุรี ปรับความเข้าใจกับสามี และกลับถึงบ้านที่ จ.อุดรธานีแล้ว
จากการณีมีผู้ใช้ TikTok ชื่อ PT 0727 ลงคลิปและระบุข้อความว่า “ใครพอรู้จักญาติน้อง ให้ญาติติดต่อที่ สภ.หนองแค หน่อยค่ะ น้องไม่มีโทรศัพท์หาย ระหว่างเกิดเหตุน้องถูกแฟนทำร้ายร่างกาย กระโดดลงจากรถมาขอความช่วยเหลือ” มีผู้เข้ามาชมและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
หลังเกิดเหตุผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พูดคุยกับเจ้าของโพสต์ คือ ว่าที่ร้อยตรีหญิงณัฐชญา เจ้าของ TikTok และสามี เล่าให้ ฟังว่า ช่วงกลางดึกวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะตน สามี พร้อมพ่อ ขับรถเก๋งกลับจากตลาด ย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อกลับบ้าน อ.หนองแค เมื่อขับรถมาถึงช่วงวัดกุ่มหัก พบรถกระบะแบบตู้ทึบจอดข้างทางบนถนนเลียบคลองหนองเสือ-หนองแค ต.กุ่มหัก อ.หนองแค พบหญิงสาว กับเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 6 ขวบ เรียกให้ตนจอดรถขอความช่วยเหลือ จึงบอกสามีให้ชะลอจอดรถ แต่ไม่กล้าลงจากรถ เนื่องจากมืด เกรงจะไม่ปลอดภัย จึงลดกระจกถามกับหญิงสาวว่าเป็นอะไร ท่ามกลางเสียงเด็กหญิงส่งเสียงร้อง หญิงคนดังกล่าวบอกว่าถูกแฟนทำร้ายร่างกายขอให้ช่วยเหลือ จึงใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน และเปิดประตูรถเพื่อให้หญิงสาวกับลูกขึ้นมาบนรถ ขณะนั้นมีชายคนที่อ้างว่าเป็นแฟนพยายามไม่ให้หญิงสาวขึ้นรถของตน พ่อของตนที่อยู่ในรถจึงออกมาโบกรถบรรทุกพ่วงที่ขับผ่านมาให้จอดปิดรถกระบะตู้ทึบของชายคนดังกล่าว เพื่อไม่ให้ขับติดตามรถเก๋งของตน
เมื่อขึ้นรถมาแล้วหญิงสาวบอกว่าเป็นคน จ.อุดรธานี มาทำงานอยู่กับแฟนได้ 1 ปี แล้วถูกแฟนทำร้ายร่างกาย และขอให้ช่วยพาส่ง สภ.หนองแค จากนั้นเดินทางกลับบ้าน มาทราบภายหลังว่าหญิงสาวกับลูกออกไปจาก สภ.หนองแคแล้ว
แม่ลูกกลับบ้านที่ จ.อุดรธานี หลัง ตร.ไกล่เกลี่ยให้สามีมารับ
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังหญิงสาว อายุ 32 ปี ที่ปรากฏในคลิป ได้รับคำตอบว่าไม่สะดวกให้เข้าไปบันทึกภาพและสัมภาษณ์ที่บ้าน แต่อนุญาตให้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ได้ เนื่องจากไม่อยากให้เป็นเรื่องราววุ่นวาย และยังติดงานอยู่ต่างอำเภอ
หญิงสาวเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงรุนแรงกับสามีภายในรถ จากปัญหาครอบครัว สามีจึงทำร้ายร่างกายด้วยการใช้มือทุบ บาดเจ็บ แต่ ไม่ได้ทำร้ายลูกสาว และสามีไม่ได้ไล่ลงจากรถ แต่ตัดสินใจพาลูกสาวลงรถมาเอง แต่โชคดีมีพลเมืองดีมาช่วยพาไปส่งโรงพัก โดยระหว่างที่อยู่โรงพักมีตำรวจโทรศัพท์ไปไกล่เกลี่ยกับสามี กระทั่งสามีกลับมารับอีกครั้งตอนเช้ามืด มาถึงบ้านเมื่อคืนวานนี้ (24 ก.พ.) 3 ทุ่ม ยอมรับตเองก็อารมณ์ร้อน สามีก็อารมณ์ร้อน ลิ้นกับฟันอาจจะมีทะเลาะกันบ้าง จึงไม่ขอพูดอะไรอีก และไม่ต้องการเอาเรื่องสามี สามีรับปากแล้วว่าจะเข้ามาขอขมาแม่ และขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย