สังหารโหด 4 ศพ คาดปมยาเสพติด

นราธิวาส 22 ก.พ. – สังหารโหด 4 ศพ พบ 3 ศพ ยัดท้ายกระโปรงรถ จมบึงน้ำในพื้นที่ จ.นราธิวาส ขณะที่อีกศพพบริมแม่น้ำโก-ลก ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี คาดปมยาเสพติด


ตำรวจนราธิวาสต้องวุ่นกันตั้งแต่เช้า หลังพบร่างผู้ไร้วิญญาณ 3 ศพ ที่คนร้ายนำมาอำพรางใส่ไว้ท้ายกระโปรงรถยนต์เก๋งสีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บริเวณขอบบึงจือแร ม.1 ต.แม่ดง อ.แว้ง จังหวัดนราธิวาส ประกอบด้วย นายนิเฮง อายุ 27 ปี, นายมูฮัมหมัดอาลียะ อายุ 38 ปี และนายอัสวี มือลบี อายุ 19 ปี ทั้ง 3 มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ ยังได้รับรับแจ้งว่า พบผู้เสียชีวิตเพศชายอีก 1 ราย จึงรุดเข้าตรวจสอบที่บริเวณหินกระชุ ริมแม่น้ำโก-ลก ช่วงบริเวณบ้านไอร์ปาเซ ม.7 ต.ฆอเลาะ พบอีก 1 ศพ อยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด คาดว่าเสียชีวิตมานานประมาณ 3-4 วัน ต่อมามีญาติของผู้เสียชีวิตมายืนยัน ศพดังกล่าวชื่อนายมูห์เซ็ง อายุ 32 ปี ซึ่งหายออกจากบ้านมานานกว่า 4 วัน


เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อให้แพทย์ผ่าศพพิสูจน์หัวกระสุนปืนที่ฝังอยู่ในร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เพื่อเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ในการขยายผลไปสู่กลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ รวมทั้งตรวจสอบรถเก๋งที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะอำพรางศพ เบื้องต้นทราบว่าเป็นการซื้อขายแบบโอนลอย เจ้าของเดิมอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช

โดยนายอับดุลอาซิบ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นบิดาของนาย นิเฮง กล่าวว่า ลูกชายหายออกจากบ้านไปช่วงเย็นของวันที่ 19 ก.พ.66 เวลา 19.00 น. โดยทางบ้านได้ติดต่อไปหาบุตรชายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยเพื่อนๆซึ่งเป็นผู้ตายไปมาหาสู่กันประจำ ได้ขับรถมารับที่บ้าน ซึ่งลูกชายเพิ่งกลับมาบ้านได้ 4 เดือน ปกติทำงานที่โรงงานปลากระป๋องในพื้นที่ จ.ปัตตานี ปกติลูกชายไม่เคยมีเรื่องและปัญหาบาดหมางกับผู้ใด จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนให้ถึงที่สุดและจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้

ด้าน พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จว.นราธิวาส กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถสรุปเหตุที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน ต้องรอการสืบสวนสอบสวนประวัติบุคคล และบุคคลที่ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ถึงปมเหตุความเป็นไปได้ แต่ให้น้ำหนักเรื่องของยาเสพติดมากกว่าประเด็นอื่น ๆ ซึ่งอีกทั้งต้องรอตรวจสอบหลายเรื่อง รวมถึงกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณดังกล่าว เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรถเก๋งที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะในการนำศพมาอำพรางครั้งนี้ .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน

ทร.จับเรือประมงเมียนมารุกล้ำน่านน้ำไทย

ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือระนอง จับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือ 6 คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณน่านน้ำเกาะช้าง จ.ระนอง ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าวมาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง

แจ้งความเอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ลุยเอง ยื่นหลักฐานให้ตำรวจ ปปป. เอาผิดขบวนการทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก ระบุทำกันมานานเกือบ 10 ปี พบทั้งข้าราชการ-อดีตข้าราชการ เอี่ยวประมาณ 20 คน

รู้เบาะแสคนร้ายชิงทอง 102 บาท คาดเป็นคนในพื้นที่

ตำรวจรู้เบาะแสคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง 102 บาท ภายในห้างดังกลางเมืองแม่สอด คาดยังหลบอยู่ในพื้นที่ สั่งคุมเข้มแนวชายแดน ป้องกันคนร้ายหลบหนี พร้อมยกระดับมาตรการดูแลร้านทอง-ห้างสรรพสินค้า ป้องกันเหตุซ้ำรอย