จัดวิวาห์ 30 คู่รัก จดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่สุรินทร์

ภูมิภาค 14 ก.พ. – ที่เมืองช้าง จ.สุรินทร์ ได้จัดงานวิวาห์หวานวันวาเลนไทน์ 30 คู่รักจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมกันอวยพรให้คู่บ่าวสาวทั้ง 30 คู่ ที่มาร่วมแต่งงานแบบกลุ่มชาติพันธุ์กูยโบราณของจังหวัดด้วย


บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ ได้จัดประเพณีแต่งงานของชุมชนชาวกูยโบราณ หรือซัตเต พิธี “ซัดเต” เป็นการสู่ขวัญบ่าวสาวแบบชาวกูย และมีพิธีแห่ขันหมากบนหลังช้าง การเลี้ยงอาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล และร่วมนั่งช้างจดทะเบียนสมรสบนหลัง ประจำปี 2566 มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมกันอวยพรให้คู่บ่าวสาว ทั้ง 30 คู่ ที่มาร่วมแต่งงานแบบกลุ่มชาติพันธุ์กูยโบราณของจังหวัดสุรินทร์

โดยพิธีสมรสแบบ “พิธีซัตเต” รวมทั้งพิธีจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ถือเป็นสิริมงคล มีแห่งเดียวในโลก อีกสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีใจอย่างยิ่งก็คือ การได้เห็นคู่บ่าว-สาว ได้แสดงความรัก เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแน่วแน่ ด้วยการตัดสินใจร่วมครองรัก ครองชีวิต เป็นทองแผ่นเดียวกัน และได้เข้าร่วมพิธีอันเป็นมงคลยิ่ง ซึ่งนับได้ว่าเป็น วันสำคัญสุดในชีวิต เพราะจากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าบ่าวและเจ้าสาวทุกคู่จะได้ถือว่า เป็นบุคคลคนเดียวกันแล้วโดยสมบูรณ์


สำหรับพิธีมงคลและจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างปีนี้ ถือเป็นพิธีที่มีรูปแบบที่แปลก แตกต่างไปจากที่อื่น เนื่องจาก มีทั้งกลิ่นอายของวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของชนชาวกูย มีหมอช้างเดินนำคู่บ่าวสาวลอดซุ้มดอกไม้ขึ้นมาประกอบพิธีซัตเต อีกทั้งยังได้นำช้าง ที่เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองมาใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง และการจดทะเบียนสมรส บนหลังช้างซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย เพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ของจังหวัดสุรินทร์ได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดสุรินทร์ให้มีความคึกคัก ภายหลังโควิด-19 ซึ่ง จ.สุรินทร์ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี เน้นความขลังของประเพณีแต่งงานแบบชาวกูยโบราณ หรือซัตเต ความสวยงามและยิ่งใหญ่ของขบวนแห่ขันหมากของเจ้าบ่าว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีช้างเข้าร่วม 30 เชือก

ส่วนบรรยากาศที่ สวนนงนุชพัทยา จัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างต่อเนื่องเป็นปีที่ 13 เช่นกัน รับวันแห่งความรัก 14 กุมภาวันวาเลนไทน์ โดยจัดขึ้นบริเวณสวนลอยฟ้าซึ่งเป็นสวนที่แปลกและใหม่ล่าสุดหนึ่งเดียวในโลก สวนนงนุชพัทยา ได้จัดขบวนแห่ขันหมากขึ้น อย่างยิ่งใหญ่ โดยนำคู่สมรส 9 คู่แรก นั่งบนหลังช้างเพื่อร่วมขบวนแห่ขันหมาก สร้างความตื่นตา ตื่นใจให้กับคู่บ่าวสาวที่มาร่วมงาน และในกิจกรรมจดทะเบียนสมรสวันนี้ ทุกคู่ที่ร่วมกิจกรรม จะได้ขึ้นบนหลังช้างเพื่อรับทะเบียนสมรสทุกคู่ พร้อมกับรับของที่ระลึกเป็นไม้มงคล จากสวนนงนุชพัทยาทุกคู่ การจัดกิจกรรมจดทะเบียนบนหลังช้างทางสวนนงนุชพัทยา ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบันรวมระยะเวลา 13 ปี สำหรับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเซนต์วาเลนไทน์ (St. Valentines Day) หรือวันระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ ชาวโรมันผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา และปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริง จึงเป็นต้นกำเนิดของวันวาเลนไทน์ ที่หนุ่มสาวใช้เป็นวันบอกรักหรือสานสัมพันธ์ให้แนบแน่นยิ่งขึ้น

ส่วนที่ จ.บึงกาฬ มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว วิ่งไปด้วยกัน Run For Love ในคอนเซปต์ “วาเลนไทน์นี้บ่เหงา ไปเบิ่งเขาจดทะเบียนสมรสกัน” เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวที่จดทะเบียนสมรส บนหินสามวาฬ (วาฬพ่อ) ที่ใช้เป็นสถานที่จดทะเบียนสมรสให้กับคู่รักบ่าว-สาว ในโอกาสวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ ท่ามกลางอากาศยามเช้าที่เย็นสบาย ผ่านเฆมหมอกในยามเช้า และแสงดวงอาทิตย์แรกของวัน โดยในปีนี้มีคู่รักร่วมจดทะเบียนสมรส บนหินสามวาฬจำนวน 13 คู่ มีคู่รัก เช่น ผู้ว่าฯ และนายกเหล่ากาชาด คู่รักส่วนราชการ พ่อค้าประชาชน และนักท่องเที่ยว ร่วมเป็นสักขีพยานรักอย่างอบอุ่น


ที่สถานีรถไฟสายแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม ได้จัดให้มีการจดทะเบียนสมรสบนรถไฟสายแม่กลอง ภายใต้แนวคิด “ขบวนรถไฟ สายใยแห่งรัก” ในวันวาเลนไทน์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีคู่รักนักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่เดินทางมาร่วมจดทะเบียนสมรส และถ่ายภาพบันทึกความทรงจำที่ดีในวันวาเลนไทน์ ปีนี้พระเดชพระคุณพระสมุทรวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหาร ได้อวยพร และมอบเหรียญอายุวัฒนมงคล 84 ปี พร้อมปะพรมน้ำพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ให้กับคู่สมรสที่มาจดทะเบียนสมรสด้วย สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวตลาดร่มหุบ สถานีรถไฟสายแม่ หลังจากได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ก่อนหน้านี้

ส่วนที่ จ.พังงา ที่ต้นเสม็ดดารา บนทุ่งหญ้าสะวันนา ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา มีการนำคู่รักชายหญิงที่เดินทางมาจากจังหวัดชุมพร และในพื้นที่อำเภอคุระบุรี รวมทั้งหมด 8 คู่ ร่วมงานโครงการจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ “เกาะพระทอง สะวันนา วิวาห์ วาเลนไทน์ @คุระบุรี พังงา” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลแห่งความรักวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีนายเถลิงศักดิ์ นุชประหาร รองผู้ว่าฯ พังงา เป็นประธานในพิธี ซึ่งคู่รักทั้งหมดได้ร่วมชมพระอาทิตย์ขึ้นอย่างสวยงามบนทุ่งหญ้า และได้มอบมงกุฎดอกหญ้าแสดงความยินดีกับทุกคู่รัก จากนั้นได้นำคู่รักเข้าร่วมพิธีกรรมทางศาสนาที่หาดสุดขอบฟ้า พร้อมชมการแสดงของเด็กๆ ชาวมอแกน พิธีรดน้ำสังข์ จดทะเบียนสมรส มอบของขวัญให้ทุกคู่ แจกสร้อยคอทองคำ 1 เส้น พร้อมทริปท่องเที่ยว และปิดท้ายด้วยร่วมกันปล่อยเต่าตนุจำนวน 9 ตัว เป็นสัญลักษณ์ว่าให้รักกันยืนยาวเหมือนกับเต่าทะเลที่มีอายุยืนยาวเป็น100ปี

กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของอำเภอคุระบุรี โดยเกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจระหว่างท้องที่และท้องถิ่นด้วยการบูรณาการร่วมกัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอคุระบุรี และจังหวัดพังงา โดยเลือกต้นเสม็ดดาราบนทุ่งหญ้าสะวันนา ที่เป็นจุดเช็คอินชื่อดัง เป็นหนึ่งในสถานที่อันซีนไทยแลนด์ ซึ่งคู่รักทุกคู่ที่เข้าร่วมกิจกรรมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]