เพลิงไหม้บ้านวอด สามี-ภรรยา ให้การไม่ตรงกัน

สมุทรสงคราม 5 ก.พ. – ตำรวจปวดหัว เข้าสอบสวนเหตุไฟไหม้บ้าน ภรรยาอ้างสามีคลั่งน้อยใจภรรยาไม่อยู่บ้าน จุดไฟเผาวอด เจ้าตัวปฏิเสธลั่นแค่จุดเทียนมวนยาสูบ แล้วลืมดับ


ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม พร้อมเจ้าหน้าที่และรถดับเพลิง 5 คัน เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้ชั้นเดียว 2 หลังซึ่งอยู่ติดกัน ภายในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลบางขันแตก อำเภอเมืองสมุทรสงคราม โดยเพลิงโหมไหม้อย่างรุนแรงเพราะในบ้านมีเศษกระดาษพลาสติกและของเก่าจำนวนมาก ใช้เวลา 1 ชั่วโมงจึงคุมเพลิงเอาไว้ได้แต่บ้านเสียหาย 2 หลัง โดยมีนางสาวน้อย อายุ 52 ปี เจ้าของบ้านนั่งร้องไห้อยู่กับบุตรสาว อายุ 9 ขวบ เพราะเป็นห่วงนายพิศิษฐ์ อายุ 55 ปี สามีที่ยังหาตัวไม่พบ

จากการสอบถามนางสาวน้อย ให้ข้อมูลว่า บ้านหลังนี้อาศัยกันอยู่ 3 คน พ่อ, แม่ และลูก ยึดอาชีพเก็บของเก่าขายประทังชีวิต ระยะหลังสามีมีอาการหึงหวงหาว่ามีชู้ จึงทะเลาะและทำร้ายร่างกาย ทำให้ระยะหลังต้องไปอาศัยที่บ้านเพื่อนแต่ยังแวะเวียนนำอาหารมาให้ทุกวัน ก่อนหน้านี้สามีเคยประชดบอกว่าจะผูกคอตายแต่ได้ห้ามปรามไว้ รวมทั้งเคยเอาน้ำมันมาราดพื้นและจะจุดไฟเผาบ้าน แต่ครั้งนั้นตนเองใช้เท้าเตะไฟแช็กทิ้งไป กระทั่งถูกทำร้ายซ้ำอีก ส่วนเมื่อวานได้เอาอาหารไปให้สามีตามปกติ แต่สามีงอน บอกว่า “ไม่กิน” และยังทำร้ายตนอีก กระทั่งเมื่อช่วงสายจึงให้ลูกสาวเอาอาหารไปให้ แต่จู่ๆ ลูกสาววิ่งหน้าตาตื่นบอกว่า “พ่อจุดไฟเผาบ้าน” จึงเป็นห่วงว่าสามีจะเป็นอันตรายหรือไม่


นางสาวน้อย บอกอีกว่า ไม่ว่าสามีจะเป็นคนยังไงก็จะรัก และอยากให้เจ้าหน้าที่พาสามีไปบำบัดเพราะในอดีตเคยเสพยาบ้าจนมีอาการคลั่ง แต่ระยะหลังไม่มีเงินซื้อจึงไม่ได้เสพ พร้อมขอร้องว่าตอนที่พาสามีไปบำบัด อยากให้พาไปโดยเร็วเพราะตนจะรู้สึกเศร้าตอนที่เห็นภาพสามีถูกพาไปขึ้นรถ

ภายหลังจากที่นางสาวน้อยให้สัมภาษณ์ ปรากฏว่าเธอได้เดินออกตามหาสามีและเมื่อพบ จึงรีบเข้าไปโอบกอดร้องไห้ด้วยความดีใจที่เห็นสามีปลอดภัย ซึ่งนายพิศิษฐ์ ที่ยังอยู่ในอาการบาดเจ็บเล็กน้อยพูดจาวกวน บอกว่า เมื่อคืนเมียไม่กลับบ้านทั้งคืน ถ้ารักกันจริงต้องกลับมาหา ส่วนก่อนเกิดเหตุได้ดื่มสุราไปครึ่งกั๊กและใช้ไฟแช็กจุดเทียนไว้เพื่อหาใบจากมาสูบ พอสูบเสร็จก็เข้าไปนอนในห้องแต่ลืมดับเทียน จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ ยืนยันว่าไม่เคยราดน้ำมัน หรือ ขู่จุดไฟเผาบ้าน เพราะเป็นบ้านของตัวเอง

จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่พบว่า สามีภรรยาคู่นี้อยู่กินกันมาหลายปี มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่เกิดมีปากเสียงเพราะหึงหวง โดยฝ่ายภรรยาหนีไปอาศัยกับเพื่อนบ้าน แต่ยังแวะเวียนมาหาทุกวัน และยังถูกทำร้าย ส่วนลูกสาว ซึ่งกำลังเรียนชั้น ป.3 เป็นห่วงพ่อแม่ทะเลาะกันจึงไม่ยอมไปเรียนหนังสือ ซึ่งสำนักงานพัฒนาสังคมฯ จังหวัด ได้นัดให้ความช่วยเหลือครอบครัวนี้วันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) แต่เกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน


อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้นางเสาวลักษณ์ บุญท้วม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 กำลังประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกว่าจะช่วยเหลือครอบครัวนี้อย่างไร ส่วนคดีความเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อทั้ง 2 ฝ่าย และต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริง ขณะที่ความเสียหายยังประเมินไม่ได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี