เชียงใหม่ 31 ม.ค.- ตำรวจภูธรภาค 5 ทลายเครือข่ายโจรกรรมรถเช่าในเชียงใหม่ โดยคนร้ายทำทีขอเช่ารถขับท่องเที่ยว แต่ใช้บัตรประชาชนและใบขับขี่ปลอม ก่อนเชิดรถหนีไปขายต่อ แถมตัดระบบจีพีเอสป้องกันการติดตาม โดยยึดรถยนต์คืนมาได้ 8 คัน จักรยานยนต์อีก 1 คัน
ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ติดตามยึดรถยนต์จำนวน 8 คัน จักรยานยนต์อีก 1 คัน และเงินสด 1.2 ล้านบาท จากแก๊งโจรกรรม และนำมาตรวจสอบที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อหาความเชื่อมโยงกับนายทุนแก๊งเช่าแล้วเชิดหนี ที่ออกตระเวนโจรกรรมรถเช่าในเชียงใหม่ไปขายต่อ โดยมีผู้เสียหายหลายรายเดินทางมาดูรถของตน
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แถลงถึงพฤติกรรมแก๊งดังกล่าวหลังจับกุมได้ ผู้ต้องหาในแก๊งนี้เป็นชาย 2 คน และเป็นหญิงอีก 2 คน โดยหญิงทำหน้าที่เป็นผู้ติดต่อเช่ารถกับผู้เสียหายที่ทำธุรกิจรถเช่า โดยใช้บัตรประชาชนและใบขับขี่ปลอม บางครั้งถึงขั้นใส่วิกกรือปลอมตัวให้เหมือนรูปในบัตร หลังได้รับรถแล้วจะตัดระบบ GPS เพื่อป้องกันการติดตาม เพื่อเตรียมนำไปขายต่อ โดยตำรวจแกะรอยจนสามรถจับกุมชายอีก 2 คนพร้อมรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์อีก 2 คัน ได้ที่อำเภอแม่ริมและอำเภอแม่แตง พร้อมขยายผลติดตามจับกุมตัวหญิงสาว 2 คน ที่เป็นผู้เช่ารถได้ทั้งแก๊ง และแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพยืหรือรับของโจร พร้อมยึดรถทั้งหมดมาตรวจสอบ
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 บอกว่า แก๊งโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ให้เช่ามีหลากหลายวิธี ทั้งการใช้เอกสารปลอม จ้างคนที่มีศักยภาพทางการเงินไปดาวน์รถจากโชว์รูมหรือเต็นท์รถ แล้วเชิดรถหนี หรือใช้รถที่มีคนมาจำนำไว้และหลุดจำนำไปขายต่อ เตือนภัยร้านจำหน่ายหรือเช่ารถให้ตรวจสอบบัตรประชาชนให้ตรงกับผู้เช่า พร้อมเตือนผู้ที่รับจ้างดาวน์รถให้แก๊งโจรกรรม นอกจากจะถูกดำเนินคดีแล้ว หากพบรถถูกนำไปขนยาเสพติดหรือทำผิดกฎหมายจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย เพราะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์.-สำนักข่าวไทย