เชียงใหม่ 31 ม.ค. – สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 ออกมาเตือนชาวเชียงใหม่ให้เตรียมรับมือกับฝุ่นพิษ ที่ปีนี้จะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา และพบว่าตอนนี้ค่าฝุ่นพิษเกินกว่ามาตรฐานแล้วในหลายพื้นที่ ที่จะเป็นต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 5 ก.พ.นี้ แนะประชาชนสวมหน้ากากและเช็กสภาพอากาศเพื่อป้องกัน
นางสาวปิยนุช ทรวงคำ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 แถลงถึงสถานการณ์ค่าคุณภาพอากาศ หรือ PM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ ว่าปีนี้ต้องเฝ้าระวังมากกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากปีที่แล้วได้ฝนมาช่วยชะล้าง ทำให้มีจุดความร้อนหรือฮอตสปอตอยู่ที่ 252 จุด ส่วนปีนี้พบมีจุดฮอตสปอตมากถึง 348 จุด โดยตอนนี้ในพื้นที่โซนใต้จะพบจุดความร้อนมากที่สุด ที่ อ.ฮอด, จอมทอง, แม่แจ่ม และเมื่อเกิดความแห้งแล้งจะเสี่ยงเกิดไฟป่า โดยในเดือนมีนาคมจะรุนแรงมากขึ้นเพราะยังมีเชื้อเพลิงอยู่จำนวนมาก
ทั้งนี้ จากการติดตั้งสถานีตรวจวัดค่าฝุ่นพิษทั้ง 6 แห่ง ในเชียงใหม่ พบว่าตอนนี้เกินมาตรฐานแล้วหลายพื้นที่ จากค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ต้องไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. ตอนนี้เกินมา 16 วัน มากสุดคือที่ อ.ฮอด เพราะเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ จึงมีฝุ่นพิษที่เกินมาตรฐานอยู่ที่ 88 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นพิษเป็นสีส้ม หรือเกินมาตรฐานจะมีต่อเนื่องไปถึงวันที่ 5 ก.พ. ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ พบมีการรายงานจุดความร้อนมากสุดที่จังหวัดตาก แพร่ ลำปาง นครสวรรค์ เชียงใหม่ ตามลำดับ ประกอบกับช่วงนี้มีความกดอากาศสูงอากาศเย็นการระบายตัวของอากาศไม่ดีพอ และต้องระวังการเผาและทิศทางลมจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ที่มีจุดความร้อนมากที่สุดพัดผ่านมาในพื้นที่ของไทยด้วย จึงขอให้ประชาชนชาวเชียงใหม่สวมใส่หน้ากากป้องกันตลอดเวลา หรือโหลดแอฟแอร์โฟไทยติดตามการรายงานดัชนีคุณภาพอากาศประจำวันเพื่อเตรียมตัวป้องกันได้ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม การเผายังเป็นอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดฝุ่นพิษ จึงต้องเฝ้าระวังการจัดการเชื้อเพลิงจากการทำการเกษตร และทำให้เชื้อเพลิงลดลงให้ได้มากที่สุด ด้วยการส่งเสริมการแก้ปัญหาจุดเสี่ยงที่มีความร้อนสูง ลดการเผา และเพิ่มงบเรื่องของการแก้ปัญหาในชุมชน รวมถึงยังมีแผนการควบคุมมลพิษในเขตเมือง อย่างการควบคุมควันดำ นอกจากนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ยังแนะแนวทางจัดการห้องปลอดฝุ่นเพื่อช่วยลดผลกระทบจากฝุ่นพิษ คือการหาห้องที่ปิดสนิทหรือมีหน้าต่างน้อยที่สุด ไม่ใกล้แหล่งฝุ่น สามารถป้องกันฝุ่นจากภายนอกได้ และลดการเกิดฝุ่นภายใน รวมถึงการกำจัดฝุ่นในห้อง ด้วยการนำผ้าเปียกหมาดเช็ดฝุ่นประจำ ตลอดจนใช้เครื่องฟอกอากาศช่วย. -สำนักข่าวไทย