ฝากขัง “นายไข่” วัย 50 ใช้รูปไม่ตรงปกลวงสาว 17

27 ม.ค. – ฝากขัง “นายไข่” ใช้รูปหนุ่มหน้าตาดีปลอมเฟซบุ๊กหลอกคุยสาววัย 17 ปี ก่อนลวงให้ไปหา สาวหลงเชื่อหายออกจากบ้าน ตำรวจตามแกะรอยรวบตัวได้คาบ้านพักย่านสมุทรปราการ


นาทีตำรวจคุมตัวนายนพดล หรือนายไข่ รปภ. วัย 50 ปี ปลอมเฟซบุ๊กเป็นหนุ่มหน้าตาดี หลอกคุยและลวง น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ออกจากบ้าน มาสอบปากคำ ก่อนพาตัวส่งศาลฝากขัง แต่ญาติๆ ของ น.ส.ตุ๊กตา สุดแค้น ปรี่เข้าไปทำร้ายนายไข่ พร้อมด่าทอ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้ามกันชุลมุน

เหตุการณ์หลอกลวงนี้ถูกเปิดเผยโดย น.ส.นิภา น้าของ น.ส.ตุ๊กตา เห็นว่าวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่วง 6 โมงเย็น หลานสาวไม่อยู่บ้าน จึงไปตามหาที่บ้านเพื่อน เพราะเห็นออกไปด้วยกันตั้งแต่บ่ายโมง แต่ปรากฏว่าเพื่อนคนดังกล่าวกลับบ้านมาแล้ว แต่มีอาการหวาดกลัว พร้อมกับเล่าว่าหลานสาวไปเจอผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก และนัดพบกันในช่วงรอยต่อ จ.สิงห์บุรี น.ส.นิภา ตกใจ ให้คนไปช่วยกันหาถึงประมาณ 2 ทุ่ม ก็ไม่พบหลานสาว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ สภ.เมืองชัยนาท แต่ตอนนั้นตำรวจบอกให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน และให้ไปแจ้งความที่สิงห์บุรี เพราะเรื่องเกิดขึ้นที่นั่น พร้อมปลอบใจเดี๋ยวเด็กคงกลับมาเอง


ส่วนเพื่อนของหลานบอกว่าหลานมาคุยว่ามีปัญหากับทางบ้านจึงไปปรึกษาผู้ชายในเฟซบุ๊ก แต่น้าสาวไม่เชื่อ เพราะที่บ้านไม่มีปัญหาอะไร คืนก่อนหายตัวยังคุยกันดี มีการเข้ามากอดมาหอม ไม่มีท่าทีคิดหนีออกจากบ้านเลย

ขณะที่การตรวจสอบเฟซบุ๊กและพูดคุยกับญาติๆ น้าสาวได้ข้อมูลเพิ่มว่าผู้ชายในเฟซบุ๊กหลอกว่าจะให้ไอโฟน 2 เครื่อง และจะให้เงินเพื่อน น.ส.ตุ๊กตา อีก 500 บาท หากพาตุ๊กตามาเจอ เมื่อไปถามชาวบ้านในจุดที่ตุ๊กตามานัดเจอกับผู้ชายในเฟซบุ๊ก ชาวบ้านบอกว่าเห็นเด็กสาวมานั่งรอบริเวณดังกล่าวจริง และมีผู้ชายมาจอดรถประมาณ 10 นาที แล้วพาเด็กไป เมื่อเรื่องดูจะบานปลายจึงติดต่อขอให้หมอปลาช่วยเหลือ

สาว 17 สะอื้นโทรหาน้าแต่ไม่กล้าบอกพิกัด
น.ส.นิภา ได้รับการติดต่อจากหลาน โดยหลานโทรมาพร้อมกับน้ำเสียงร้องไห้ แต่ไม่ยอมบอกว่าพิกัดว่าอยู่ตรงไหน แม้น้าจะพยายามสอบถามหลายครั้ง


ภายหลังวางสายกไป น้าสาวบอกว่าพยายามโทรไปที่เบอร์ของผู้ชายคนดังกล่าว แต่เขารับสายแล้วบอกว่าตอนนี้ตุ๊กตาไม่ได้อยู่กับเขา หนีไปอยู่บ้านเพื่อนที่กำแพงเพชร ทั้งยังอ้างว่าเป็นผู้หวังดี บอกว่าเด็กหนีตามมาเฉยๆ ขู่ว่าอย่าไปแจ้งความหรือตามหา เพราะจะไม่ได้เจอหลานแน่

ขณะที่ตำรวจแกะรอยได้เบาะแสว่านายไข่พูดคุยโทรศัพท์ขอมาทำงานเป็น รปภ. กับนายจ้าง และมีการพูดคุยถึงตุ๊กตาด้วย ทำให้นายจ้างอัดเสียงและส่งให้ตำรวจ ทำให้ตำรวจทราบว่านายไข่หนีมากบดานอยู่ที่สมุทรปราการ และทิ้งตุ๊กตาไปแล้ว

รวบ “นายไข่” คาห้องเช่า ยืนยันไม่ได้หลอกเด็ก
จากข้อมูลดังกล่าวทำให้วันที่ 25 ม.ค.ที่่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยนาท นำกำลังเข้าจับกุมนายไข่ได้ที่ห้องเช่าใน อ.เมืองสมุทรปราการ จากการสำรวจภายในห้องพบว่ามีแค่เตียง ตู้เสื้อผ้า และกระเป๋าเดินทางสีดำ ส่วนระเบียงหลังห้องพบเสื้อผู้หญิงและผู้ชายตากอยู่

ลูกชายเจ้าของหอพักให้ข้อมูลว่านายไข่เป็น รปภ. มาขอเช่าที่นี่ได้ประมาณเดือนกว่าๆ แต่น้องผู้หญิงเพิ่งเห็นมาอยู่ได้ 3-4 วัน ไม่รู้มาก่อนว่าไปหลอกลวงมา เพราะน้องไม่คุยกับใคร แต่ไม่ว่าจะไปซื้อข้าวหรือไปทำงาน หรือไปไหนจะไปกับนายไข่ตลอด

น้าของเหยื่อลั่นอยากให้ตำรวจดำเนินคดี “นายไข่” ให้ถึงที่สุด
หลังจับนายไข่ได้ นายไข่ยืนยันจะซื้อไอโฟนให้ตุ๊กตาจริง แต่รอให้มาสู่ขอก่อน อย่างไรก็ตาม น.ส.นิภา ยืนยันอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อยากให้ตั้งข้อหาหนักๆ เพื่อปกป้องสิทธิของเด็ก จะได้ไม่ต้องมีเด็กถูกคนแบบนี้หลอกลวงและล่วงละเมิดได้อีก เพราะคนร้ายมีกลอุบาย มีจิตวิทยาในการคุยกับเด็ก ทำให้เด็กหลงเชื่อง่าย เป็นคนที่เป็นอันตรายต่อสังคมมาก อยากให้คนที่เคยถูกคนร้ายหลอกลวงไปเช่นนี้เข้าแจ้งความกับตำรวจด้วย

ด้านตำรวจบอกว่าเบื้องต้นแจ้งข้อหากับนายไข่ คือพรากผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง และข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ส่วนความผิดอื่นๆ ต้องรอให้มีการสอบปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพก่อน และรอผลตรวจร่างกายเด็กจึงจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้

ขณะที่นางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ตอนนี้น้องเข้ามาอยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาทแล้ว ส่วนสภาพจิตใจดีขึ้น จากเมื่อวานมีสภาพอิดโรยและอ่อนเพลีย ส่วนวันนี้พาไปตรวจร่างกายเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ส่วนการช่วยเหลือและดูแลในอนาคตได้พูดคุยกับครอบครัวเด็กแล้ว หลังคดีเสร็จสิ้นจะช่วยในเรื่องการศึกษา เพราะน้องเรียนจบ ม.3 แล้ว แต่ครอบครัวมีฐานะยากจนจึงไม่ได้เรียนต่อ

สาว 18 แฉ “นายไข่” ใช้แอปฯ หาคู่หลอกพาไปขืนใจกักขังจนท้อง
นายไข่ถูกจับได้และส่งศาลฝากขังแล้ว แต่คดีความค้างเก่าของนายไข่น่าจะยังไม่จบ เพราะล่าสุด น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ที่มีพื้นเพอยู่ศรีสะเกษ ออกมาแฉอีกว่าเคยถูกนายไข่ล่อลวงไปย่ำยีผ่านแอปฯ หาคู่ จนตั้งท้อง แล้วกักขังไม่ให้หนีไปไหน หากพยายามหนีจะถูกซ้อม ส่วนรายละเอียดคือเมื่อปี 64 น.ส.บี เรียนอยู่ชั้น ม.4 หลังสอบปลายภาคเสร็จ โรงเรียนปิดเทอม น.ส.บี ได้เข้าไปในแอปฯ หาคู่ และพบกับนายไข่ที่ใช้รูปโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดี ทั้งๆ ที่ตัวจริงอายุประมาณ 50 ปีแล้ว

การติดต่อพูดคุยกันก็คุยถูกคอ นายไข่ได้จีบให้มาเป็นแฟน คุยกันได้เกือบ 2 เดือน นายไข่นัดเจอ แต่พอไปเจอ น.ส.บี ถึงกับตกใจ เพราะคนที่เห็นในแอปฯ กลับกลายเป็นชายรุ่นพ่อ แต่ก็ยังคุยกันจนเขาพาไปห้องเช่า เมื่อเข้าห้องก็ไปไหนไม่ได้อีกเลย เพราะถูกล่วงละเมิดและกักขัง

ไม่นานนายไข่ก็พาออกจาก จ.ศรีสะเกษ ไปที่สมุทรปราการ โดยบอกว่าจะไปเป็น รปภ. ตอนนั้น น.ส.บี พยายามหนี แต่ถูกซ้อม ตบตี กระชากผม สุดท้าย น.ส.บี ต้องอ้อนวอนขอกลับบ้าน นายไข่จึงยอมพากลับ โดยพาขึ้นรถไฟ แต่ยังไม่ทันถึงบ้านนายไข่ก็ถูกรวบบนรถไฟในคดีขโมยรถจักรยานยนต์ น.ส.บี จึงกลับไปบ้านคนเดียว

ผ่านไปเดือนกว่านายไข่ตามไปที่บ้าน ไปกินนอนอยู่ที่บ้าน แม่ของ น.ส.บี พยายามไล่ให้นายไข่ออกไปจากบ้าน แต่นายไข่บอกว่าหาก น.ส.บี ไม่ยอมไปด้วยจะอยู่ที่นี่ ตอนนั้น น.ส.บี รู้แล้วว่าท้องจึงออกไปอยู่กับนายไข่ ทนอยู่กับนายไข่เกือบปีจนคลอดลูก และหนีกลับมาบ้าน ตอนนี้ลูกสาวอายุได้ 6 เดือน และไม่ได้ติดต่อกับนายไข่อีก มีแต่นายไข่พยายามส่งรูปเมรุ รูปปืน และรูปหลุมศพ มาข่มขู่ ตอนนี้รู้ว่านายไข่ถูกจับแต่ยังกังวล อยากฝากเตือนวัยรุ่น หรือสาวๆ หากจะคบใครผ่านโซเชียลให้ดูดีๆ อย่าดูแค่รูปโปรไฟล์ และควรบอกพ่อแม่ด้วยหากจะคบใคร หรือจะไปเจอกับใคร เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อและพลาดเสียใจไปตลอดชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]