fbpx

ฝากขัง “นายไข่” วัย 50 ใช้รูปไม่ตรงปกลวงสาว 17

27 ม.ค. – ฝากขัง “นายไข่” ใช้รูปหนุ่มหน้าตาดีปลอมเฟซบุ๊กหลอกคุยสาววัย 17 ปี ก่อนลวงให้ไปหา สาวหลงเชื่อหายออกจากบ้าน ตำรวจตามแกะรอยรวบตัวได้คาบ้านพักย่านสมุทรปราการ


นาทีตำรวจคุมตัวนายนพดล หรือนายไข่ รปภ. วัย 50 ปี ปลอมเฟซบุ๊กเป็นหนุ่มหน้าตาดี หลอกคุยและลวง น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ออกจากบ้าน มาสอบปากคำ ก่อนพาตัวส่งศาลฝากขัง แต่ญาติๆ ของ น.ส.ตุ๊กตา สุดแค้น ปรี่เข้าไปทำร้ายนายไข่ พร้อมด่าทอ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้ามกันชุลมุน

เหตุการณ์หลอกลวงนี้ถูกเปิดเผยโดย น.ส.นิภา น้าของ น.ส.ตุ๊กตา เห็นว่าวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่วง 6 โมงเย็น หลานสาวไม่อยู่บ้าน จึงไปตามหาที่บ้านเพื่อน เพราะเห็นออกไปด้วยกันตั้งแต่บ่ายโมง แต่ปรากฏว่าเพื่อนคนดังกล่าวกลับบ้านมาแล้ว แต่มีอาการหวาดกลัว พร้อมกับเล่าว่าหลานสาวไปเจอผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก และนัดพบกันในช่วงรอยต่อ จ.สิงห์บุรี น.ส.นิภา ตกใจ ให้คนไปช่วยกันหาถึงประมาณ 2 ทุ่ม ก็ไม่พบหลานสาว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ สภ.เมืองชัยนาท แต่ตอนนั้นตำรวจบอกให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน และให้ไปแจ้งความที่สิงห์บุรี เพราะเรื่องเกิดขึ้นที่นั่น พร้อมปลอบใจเดี๋ยวเด็กคงกลับมาเอง


ส่วนเพื่อนของหลานบอกว่าหลานมาคุยว่ามีปัญหากับทางบ้านจึงไปปรึกษาผู้ชายในเฟซบุ๊ก แต่น้าสาวไม่เชื่อ เพราะที่บ้านไม่มีปัญหาอะไร คืนก่อนหายตัวยังคุยกันดี มีการเข้ามากอดมาหอม ไม่มีท่าทีคิดหนีออกจากบ้านเลย

ขณะที่การตรวจสอบเฟซบุ๊กและพูดคุยกับญาติๆ น้าสาวได้ข้อมูลเพิ่มว่าผู้ชายในเฟซบุ๊กหลอกว่าจะให้ไอโฟน 2 เครื่อง และจะให้เงินเพื่อน น.ส.ตุ๊กตา อีก 500 บาท หากพาตุ๊กตามาเจอ เมื่อไปถามชาวบ้านในจุดที่ตุ๊กตามานัดเจอกับผู้ชายในเฟซบุ๊ก ชาวบ้านบอกว่าเห็นเด็กสาวมานั่งรอบริเวณดังกล่าวจริง และมีผู้ชายมาจอดรถประมาณ 10 นาที แล้วพาเด็กไป เมื่อเรื่องดูจะบานปลายจึงติดต่อขอให้หมอปลาช่วยเหลือ

สาว 17 สะอื้นโทรหาน้าแต่ไม่กล้าบอกพิกัด
น.ส.นิภา ได้รับการติดต่อจากหลาน โดยหลานโทรมาพร้อมกับน้ำเสียงร้องไห้ แต่ไม่ยอมบอกว่าพิกัดว่าอยู่ตรงไหน แม้น้าจะพยายามสอบถามหลายครั้ง


ภายหลังวางสายกไป น้าสาวบอกว่าพยายามโทรไปที่เบอร์ของผู้ชายคนดังกล่าว แต่เขารับสายแล้วบอกว่าตอนนี้ตุ๊กตาไม่ได้อยู่กับเขา หนีไปอยู่บ้านเพื่อนที่กำแพงเพชร ทั้งยังอ้างว่าเป็นผู้หวังดี บอกว่าเด็กหนีตามมาเฉยๆ ขู่ว่าอย่าไปแจ้งความหรือตามหา เพราะจะไม่ได้เจอหลานแน่

ขณะที่ตำรวจแกะรอยได้เบาะแสว่านายไข่พูดคุยโทรศัพท์ขอมาทำงานเป็น รปภ. กับนายจ้าง และมีการพูดคุยถึงตุ๊กตาด้วย ทำให้นายจ้างอัดเสียงและส่งให้ตำรวจ ทำให้ตำรวจทราบว่านายไข่หนีมากบดานอยู่ที่สมุทรปราการ และทิ้งตุ๊กตาไปแล้ว

รวบ “นายไข่” คาห้องเช่า ยืนยันไม่ได้หลอกเด็ก
จากข้อมูลดังกล่าวทำให้วันที่ 25 ม.ค.ที่่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยนาท นำกำลังเข้าจับกุมนายไข่ได้ที่ห้องเช่าใน อ.เมืองสมุทรปราการ จากการสำรวจภายในห้องพบว่ามีแค่เตียง ตู้เสื้อผ้า และกระเป๋าเดินทางสีดำ ส่วนระเบียงหลังห้องพบเสื้อผู้หญิงและผู้ชายตากอยู่

ลูกชายเจ้าของหอพักให้ข้อมูลว่านายไข่เป็น รปภ. มาขอเช่าที่นี่ได้ประมาณเดือนกว่าๆ แต่น้องผู้หญิงเพิ่งเห็นมาอยู่ได้ 3-4 วัน ไม่รู้มาก่อนว่าไปหลอกลวงมา เพราะน้องไม่คุยกับใคร แต่ไม่ว่าจะไปซื้อข้าวหรือไปทำงาน หรือไปไหนจะไปกับนายไข่ตลอด

น้าของเหยื่อลั่นอยากให้ตำรวจดำเนินคดี “นายไข่” ให้ถึงที่สุด
หลังจับนายไข่ได้ นายไข่ยืนยันจะซื้อไอโฟนให้ตุ๊กตาจริง แต่รอให้มาสู่ขอก่อน อย่างไรก็ตาม น.ส.นิภา ยืนยันอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อยากให้ตั้งข้อหาหนักๆ เพื่อปกป้องสิทธิของเด็ก จะได้ไม่ต้องมีเด็กถูกคนแบบนี้หลอกลวงและล่วงละเมิดได้อีก เพราะคนร้ายมีกลอุบาย มีจิตวิทยาในการคุยกับเด็ก ทำให้เด็กหลงเชื่อง่าย เป็นคนที่เป็นอันตรายต่อสังคมมาก อยากให้คนที่เคยถูกคนร้ายหลอกลวงไปเช่นนี้เข้าแจ้งความกับตำรวจด้วย

ด้านตำรวจบอกว่าเบื้องต้นแจ้งข้อหากับนายไข่ คือพรากผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง และข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ส่วนความผิดอื่นๆ ต้องรอให้มีการสอบปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพก่อน และรอผลตรวจร่างกายเด็กจึงจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้

ขณะที่นางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ตอนนี้น้องเข้ามาอยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาทแล้ว ส่วนสภาพจิตใจดีขึ้น จากเมื่อวานมีสภาพอิดโรยและอ่อนเพลีย ส่วนวันนี้พาไปตรวจร่างกายเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ส่วนการช่วยเหลือและดูแลในอนาคตได้พูดคุยกับครอบครัวเด็กแล้ว หลังคดีเสร็จสิ้นจะช่วยในเรื่องการศึกษา เพราะน้องเรียนจบ ม.3 แล้ว แต่ครอบครัวมีฐานะยากจนจึงไม่ได้เรียนต่อ

สาว 18 แฉ “นายไข่” ใช้แอปฯ หาคู่หลอกพาไปขืนใจกักขังจนท้อง
นายไข่ถูกจับได้และส่งศาลฝากขังแล้ว แต่คดีความค้างเก่าของนายไข่น่าจะยังไม่จบ เพราะล่าสุด น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ที่มีพื้นเพอยู่ศรีสะเกษ ออกมาแฉอีกว่าเคยถูกนายไข่ล่อลวงไปย่ำยีผ่านแอปฯ หาคู่ จนตั้งท้อง แล้วกักขังไม่ให้หนีไปไหน หากพยายามหนีจะถูกซ้อม ส่วนรายละเอียดคือเมื่อปี 64 น.ส.บี เรียนอยู่ชั้น ม.4 หลังสอบปลายภาคเสร็จ โรงเรียนปิดเทอม น.ส.บี ได้เข้าไปในแอปฯ หาคู่ และพบกับนายไข่ที่ใช้รูปโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดี ทั้งๆ ที่ตัวจริงอายุประมาณ 50 ปีแล้ว

การติดต่อพูดคุยกันก็คุยถูกคอ นายไข่ได้จีบให้มาเป็นแฟน คุยกันได้เกือบ 2 เดือน นายไข่นัดเจอ แต่พอไปเจอ น.ส.บี ถึงกับตกใจ เพราะคนที่เห็นในแอปฯ กลับกลายเป็นชายรุ่นพ่อ แต่ก็ยังคุยกันจนเขาพาไปห้องเช่า เมื่อเข้าห้องก็ไปไหนไม่ได้อีกเลย เพราะถูกล่วงละเมิดและกักขัง

ไม่นานนายไข่ก็พาออกจาก จ.ศรีสะเกษ ไปที่สมุทรปราการ โดยบอกว่าจะไปเป็น รปภ. ตอนนั้น น.ส.บี พยายามหนี แต่ถูกซ้อม ตบตี กระชากผม สุดท้าย น.ส.บี ต้องอ้อนวอนขอกลับบ้าน นายไข่จึงยอมพากลับ โดยพาขึ้นรถไฟ แต่ยังไม่ทันถึงบ้านนายไข่ก็ถูกรวบบนรถไฟในคดีขโมยรถจักรยานยนต์ น.ส.บี จึงกลับไปบ้านคนเดียว

ผ่านไปเดือนกว่านายไข่ตามไปที่บ้าน ไปกินนอนอยู่ที่บ้าน แม่ของ น.ส.บี พยายามไล่ให้นายไข่ออกไปจากบ้าน แต่นายไข่บอกว่าหาก น.ส.บี ไม่ยอมไปด้วยจะอยู่ที่นี่ ตอนนั้น น.ส.บี รู้แล้วว่าท้องจึงออกไปอยู่กับนายไข่ ทนอยู่กับนายไข่เกือบปีจนคลอดลูก และหนีกลับมาบ้าน ตอนนี้ลูกสาวอายุได้ 6 เดือน และไม่ได้ติดต่อกับนายไข่อีก มีแต่นายไข่พยายามส่งรูปเมรุ รูปปืน และรูปหลุมศพ มาข่มขู่ ตอนนี้รู้ว่านายไข่ถูกจับแต่ยังกังวล อยากฝากเตือนวัยรุ่น หรือสาวๆ หากจะคบใครผ่านโซเชียลให้ดูดีๆ อย่าดูแค่รูปโปรไฟล์ และควรบอกพ่อแม่ด้วยหากจะคบใคร หรือจะไปเจอกับใคร เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อและพลาดเสียใจไปตลอดชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบรอง ผอ.โรงเรียนดัง หน.แก๊งค้ายา พบข้าราชการเป็นลูกค้าเพียบ

รวบหัวหน้าแก๊งค้ายาเป็น “รอง ผอ.” โรงเรียนดังย่านปากเกร็ด พร้อมสมุน ขยายผลพบลูกค้าเป็นข้าราชการอีกจำนวนมาก

คนไทย-คนจีนขับรถไล่ชนกันหน้าคลับดังเมืองพัทยา คาดหึงหวงสาวที่มาด้วย

รถตู้ 3 คัน และรถฟอร์จูนเนอร์ 1 คัน ขับไล่ชนกันไปมา บริเวณหน้าคลับแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา พบเป็นศึกระหว่างคนไทย 1 กลุ่ม และคนจีน 1 กลุ่ม สาเหตุคาดมาจากคนจีนหึงหวงแฟนสาวที่มาด้วย

ปัญหาต่างชาติในภูเก็ต ตอนที่ 3

ปัจจุบันการเข้ามาทำธุรกิจรถเช่าของต่างชาติที่ใช้คนไทยเป็นนอมินีในภูเก็ตมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่รถของชาวต่างชาติในภูเก็ตก็มากขึ้นด้วย ปัญหานี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่โยงใยไปถึงเรื่องของภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ไม่เฉพาะแค่ภูเก็ต แต่เป็นของเมืองไทยด้วย

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง คุณหญิงพรทิพย์ และพวก ในคดี GT200

ศาลอาญาทุจริตฯ ยกฟ้อง “คุณหญิงพรทิพย์” และพวกรวม 10 คน ในคดีจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิด GT200 ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ระบุไม่พบมีมูลความผิด ทุจริต มีการแสวงหาประโยชนแก่ตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอให้เชื่อมั่น นำ ปท.แก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย  

“เศรษฐา” ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ เข้าใจธุรกิจ พร้อมนำประเทศแก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย ลงมามือเปื้อนดิน ตีนเปื้อนโคลนบ้าง น้อยใจ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย  

“บิ๊กต่อ” ส่งทนายยื่นฟ้อง “ทนายตั้ม” แฉโยงเส้นเงินพนัน

“บิ๊กต่อ” ส่ง “อัจฉริยะ” เดินหน้าชน “ทนายตั้ม” ยกแรกยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท หลังถูกกล่าวหาว่ามีเส้นเงินจากเว็บพนันโยงคนใกล้ชิด ผบ.ตร.

ทองคำนิวไฮ พุ่งกระฉูด 550 บาท ทองรูปพรรณแตะ 39,000 บาท

ทองคำเปิดตลาดปรับขึ้นรวดเดียว 550 บาท ทองแท่งขายออก 38,500 บาท ทองรูปพรรณขายออก 39,000 บาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

รถไฟฟ้าสีเหลืองขัดข้องอีกแล้ว (29 มี.ค.)

รถไฟฟ้าสีเหลืองขัดข้องอีกแล้วช่วงสายวันนี้ (29 มี.ค.) ทำให้รถจากสถานีลาดพร้าว เดินทางไปถึงสถานีหัวหมาก ต้องสิ้นสุดที่สถานีศรีกรีฑา