ฝากขัง “นายไข่” วัย 50 ใช้รูปไม่ตรงปกลวงสาว 17

27 ม.ค. – ฝากขัง “นายไข่” ใช้รูปหนุ่มหน้าตาดีปลอมเฟซบุ๊กหลอกคุยสาววัย 17 ปี ก่อนลวงให้ไปหา สาวหลงเชื่อหายออกจากบ้าน ตำรวจตามแกะรอยรวบตัวได้คาบ้านพักย่านสมุทรปราการ


นาทีตำรวจคุมตัวนายนพดล หรือนายไข่ รปภ. วัย 50 ปี ปลอมเฟซบุ๊กเป็นหนุ่มหน้าตาดี หลอกคุยและลวง น.ส.ตุ๊กตา (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ออกจากบ้าน มาสอบปากคำ ก่อนพาตัวส่งศาลฝากขัง แต่ญาติๆ ของ น.ส.ตุ๊กตา สุดแค้น ปรี่เข้าไปทำร้ายนายไข่ พร้อมด่าทอ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้ามกันชุลมุน

เหตุการณ์หลอกลวงนี้ถูกเปิดเผยโดย น.ส.นิภา น้าของ น.ส.ตุ๊กตา เห็นว่าวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่วง 6 โมงเย็น หลานสาวไม่อยู่บ้าน จึงไปตามหาที่บ้านเพื่อน เพราะเห็นออกไปด้วยกันตั้งแต่บ่ายโมง แต่ปรากฏว่าเพื่อนคนดังกล่าวกลับบ้านมาแล้ว แต่มีอาการหวาดกลัว พร้อมกับเล่าว่าหลานสาวไปเจอผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก และนัดพบกันในช่วงรอยต่อ จ.สิงห์บุรี น.ส.นิภา ตกใจ ให้คนไปช่วยกันหาถึงประมาณ 2 ทุ่ม ก็ไม่พบหลานสาว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ สภ.เมืองชัยนาท แต่ตอนนั้นตำรวจบอกให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน และให้ไปแจ้งความที่สิงห์บุรี เพราะเรื่องเกิดขึ้นที่นั่น พร้อมปลอบใจเดี๋ยวเด็กคงกลับมาเอง


ส่วนเพื่อนของหลานบอกว่าหลานมาคุยว่ามีปัญหากับทางบ้านจึงไปปรึกษาผู้ชายในเฟซบุ๊ก แต่น้าสาวไม่เชื่อ เพราะที่บ้านไม่มีปัญหาอะไร คืนก่อนหายตัวยังคุยกันดี มีการเข้ามากอดมาหอม ไม่มีท่าทีคิดหนีออกจากบ้านเลย

ขณะที่การตรวจสอบเฟซบุ๊กและพูดคุยกับญาติๆ น้าสาวได้ข้อมูลเพิ่มว่าผู้ชายในเฟซบุ๊กหลอกว่าจะให้ไอโฟน 2 เครื่อง และจะให้เงินเพื่อน น.ส.ตุ๊กตา อีก 500 บาท หากพาตุ๊กตามาเจอ เมื่อไปถามชาวบ้านในจุดที่ตุ๊กตามานัดเจอกับผู้ชายในเฟซบุ๊ก ชาวบ้านบอกว่าเห็นเด็กสาวมานั่งรอบริเวณดังกล่าวจริง และมีผู้ชายมาจอดรถประมาณ 10 นาที แล้วพาเด็กไป เมื่อเรื่องดูจะบานปลายจึงติดต่อขอให้หมอปลาช่วยเหลือ

สาว 17 สะอื้นโทรหาน้าแต่ไม่กล้าบอกพิกัด
น.ส.นิภา ได้รับการติดต่อจากหลาน โดยหลานโทรมาพร้อมกับน้ำเสียงร้องไห้ แต่ไม่ยอมบอกว่าพิกัดว่าอยู่ตรงไหน แม้น้าจะพยายามสอบถามหลายครั้ง


ภายหลังวางสายกไป น้าสาวบอกว่าพยายามโทรไปที่เบอร์ของผู้ชายคนดังกล่าว แต่เขารับสายแล้วบอกว่าตอนนี้ตุ๊กตาไม่ได้อยู่กับเขา หนีไปอยู่บ้านเพื่อนที่กำแพงเพชร ทั้งยังอ้างว่าเป็นผู้หวังดี บอกว่าเด็กหนีตามมาเฉยๆ ขู่ว่าอย่าไปแจ้งความหรือตามหา เพราะจะไม่ได้เจอหลานแน่

ขณะที่ตำรวจแกะรอยได้เบาะแสว่านายไข่พูดคุยโทรศัพท์ขอมาทำงานเป็น รปภ. กับนายจ้าง และมีการพูดคุยถึงตุ๊กตาด้วย ทำให้นายจ้างอัดเสียงและส่งให้ตำรวจ ทำให้ตำรวจทราบว่านายไข่หนีมากบดานอยู่ที่สมุทรปราการ และทิ้งตุ๊กตาไปแล้ว

รวบ “นายไข่” คาห้องเช่า ยืนยันไม่ได้หลอกเด็ก
จากข้อมูลดังกล่าวทำให้วันที่ 25 ม.ค.ที่่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยนาท นำกำลังเข้าจับกุมนายไข่ได้ที่ห้องเช่าใน อ.เมืองสมุทรปราการ จากการสำรวจภายในห้องพบว่ามีแค่เตียง ตู้เสื้อผ้า และกระเป๋าเดินทางสีดำ ส่วนระเบียงหลังห้องพบเสื้อผู้หญิงและผู้ชายตากอยู่

ลูกชายเจ้าของหอพักให้ข้อมูลว่านายไข่เป็น รปภ. มาขอเช่าที่นี่ได้ประมาณเดือนกว่าๆ แต่น้องผู้หญิงเพิ่งเห็นมาอยู่ได้ 3-4 วัน ไม่รู้มาก่อนว่าไปหลอกลวงมา เพราะน้องไม่คุยกับใคร แต่ไม่ว่าจะไปซื้อข้าวหรือไปทำงาน หรือไปไหนจะไปกับนายไข่ตลอด

น้าของเหยื่อลั่นอยากให้ตำรวจดำเนินคดี “นายไข่” ให้ถึงที่สุด
หลังจับนายไข่ได้ นายไข่ยืนยันจะซื้อไอโฟนให้ตุ๊กตาจริง แต่รอให้มาสู่ขอก่อน อย่างไรก็ตาม น.ส.นิภา ยืนยันอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด อยากให้ตั้งข้อหาหนักๆ เพื่อปกป้องสิทธิของเด็ก จะได้ไม่ต้องมีเด็กถูกคนแบบนี้หลอกลวงและล่วงละเมิดได้อีก เพราะคนร้ายมีกลอุบาย มีจิตวิทยาในการคุยกับเด็ก ทำให้เด็กหลงเชื่อง่าย เป็นคนที่เป็นอันตรายต่อสังคมมาก อยากให้คนที่เคยถูกคนร้ายหลอกลวงไปเช่นนี้เข้าแจ้งความกับตำรวจด้วย

ด้านตำรวจบอกว่าเบื้องต้นแจ้งข้อหากับนายไข่ คือพรากผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง และข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ส่วนความผิดอื่นๆ ต้องรอให้มีการสอบปากคำเด็กร่วมกับสหวิชาชีพก่อน และรอผลตรวจร่างกายเด็กจึงจะสามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้

ขณะที่นางวาริน วีระสุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ตอนนี้น้องเข้ามาอยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยนาทแล้ว ส่วนสภาพจิตใจดีขึ้น จากเมื่อวานมีสภาพอิดโรยและอ่อนเพลีย ส่วนวันนี้พาไปตรวจร่างกายเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ส่วนการช่วยเหลือและดูแลในอนาคตได้พูดคุยกับครอบครัวเด็กแล้ว หลังคดีเสร็จสิ้นจะช่วยในเรื่องการศึกษา เพราะน้องเรียนจบ ม.3 แล้ว แต่ครอบครัวมีฐานะยากจนจึงไม่ได้เรียนต่อ

สาว 18 แฉ “นายไข่” ใช้แอปฯ หาคู่หลอกพาไปขืนใจกักขังจนท้อง
นายไข่ถูกจับได้และส่งศาลฝากขังแล้ว แต่คดีความค้างเก่าของนายไข่น่าจะยังไม่จบ เพราะล่าสุด น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ที่มีพื้นเพอยู่ศรีสะเกษ ออกมาแฉอีกว่าเคยถูกนายไข่ล่อลวงไปย่ำยีผ่านแอปฯ หาคู่ จนตั้งท้อง แล้วกักขังไม่ให้หนีไปไหน หากพยายามหนีจะถูกซ้อม ส่วนรายละเอียดคือเมื่อปี 64 น.ส.บี เรียนอยู่ชั้น ม.4 หลังสอบปลายภาคเสร็จ โรงเรียนปิดเทอม น.ส.บี ได้เข้าไปในแอปฯ หาคู่ และพบกับนายไข่ที่ใช้รูปโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดี ทั้งๆ ที่ตัวจริงอายุประมาณ 50 ปีแล้ว

การติดต่อพูดคุยกันก็คุยถูกคอ นายไข่ได้จีบให้มาเป็นแฟน คุยกันได้เกือบ 2 เดือน นายไข่นัดเจอ แต่พอไปเจอ น.ส.บี ถึงกับตกใจ เพราะคนที่เห็นในแอปฯ กลับกลายเป็นชายรุ่นพ่อ แต่ก็ยังคุยกันจนเขาพาไปห้องเช่า เมื่อเข้าห้องก็ไปไหนไม่ได้อีกเลย เพราะถูกล่วงละเมิดและกักขัง

ไม่นานนายไข่ก็พาออกจาก จ.ศรีสะเกษ ไปที่สมุทรปราการ โดยบอกว่าจะไปเป็น รปภ. ตอนนั้น น.ส.บี พยายามหนี แต่ถูกซ้อม ตบตี กระชากผม สุดท้าย น.ส.บี ต้องอ้อนวอนขอกลับบ้าน นายไข่จึงยอมพากลับ โดยพาขึ้นรถไฟ แต่ยังไม่ทันถึงบ้านนายไข่ก็ถูกรวบบนรถไฟในคดีขโมยรถจักรยานยนต์ น.ส.บี จึงกลับไปบ้านคนเดียว

ผ่านไปเดือนกว่านายไข่ตามไปที่บ้าน ไปกินนอนอยู่ที่บ้าน แม่ของ น.ส.บี พยายามไล่ให้นายไข่ออกไปจากบ้าน แต่นายไข่บอกว่าหาก น.ส.บี ไม่ยอมไปด้วยจะอยู่ที่นี่ ตอนนั้น น.ส.บี รู้แล้วว่าท้องจึงออกไปอยู่กับนายไข่ ทนอยู่กับนายไข่เกือบปีจนคลอดลูก และหนีกลับมาบ้าน ตอนนี้ลูกสาวอายุได้ 6 เดือน และไม่ได้ติดต่อกับนายไข่อีก มีแต่นายไข่พยายามส่งรูปเมรุ รูปปืน และรูปหลุมศพ มาข่มขู่ ตอนนี้รู้ว่านายไข่ถูกจับแต่ยังกังวล อยากฝากเตือนวัยรุ่น หรือสาวๆ หากจะคบใครผ่านโซเชียลให้ดูดีๆ อย่าดูแค่รูปโปรไฟล์ และควรบอกพ่อแม่ด้วยหากจะคบใคร หรือจะไปเจอกับใคร เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อและพลาดเสียใจไปตลอดชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย