ขอนแก่น 23 ม.ค. – หนุ่มใหญ่แจ้งความว่าถูกตำรวจ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น รุมทำร้ายบาดเจ็บสาหัส หลังเสียพนันไก่ชนแล้วเงินไม่พอจ่าย ขณะที่ตำรวจแจ้งความกลับว่าถูกตีด้วยขวดเบียร์ก่อน ทั้งเจ้าของสนามชนไก่ และตำรวจ สภ.โนนศิลา เจ้าของพื้นที่ ยืนยันไม่มีบ่อนการพนัน แต่สื่อมวลชนพบโพยพนันทิ้งเกลื่อนพื้นในจุดเกิดเหตุ
นี่คือคลิปเสียงบางส่วนที่นายวรภบ หรือเด่น อาชีพรับเหมาก่อสร้าง วัย 41 ปี เล่าเหตุการณ์ให้ลูกฟังไว้เป็นหลักฐาน เผื่อเขาต้องเสียชีวิต หลังถูกตำรวจ สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น รุมทำร้ายคาบ่อนพนันชนไก่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านวังยาว อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ครั้งแรกเขานอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3 คืน แต่วันที่ตำรวจนัดสอบปากคำ 3 วันก่อน เขามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จึงกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้ง และนอนรักษาตัวจนถึงขณะนี้
หลังเกิดเหตุไม่มีตำรวจคู่กรณีไปเยี่ยมถามไถ่อาการ อีกทั้งถามคนที่อยู่สนามชนไก่วันนั้น กลับเห็นแต่เด่นเป็นฝ่ายตีตำรวจก่อน แต่เหตุการณ์ต่อเนื่องกันที่ตำรวจนอกเครื่องแบบรุมทำร้ายกลับไม่มีใครเห็น ญาติจึงขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน
เด่นเล่าให้ญาติฟังว่า เล่นพนันไก่ชนกับตำรวจ สภ.บ้านไผ่ 3,000 บาท เมื่อดูท่าว่าไก่ตัวเองจะเพลี่ยงพล้ำเสียพนัน เงินที่ติดตัวมาไม่พอ จึงโทรศัพท์ติดต่อภรรยาให้หาเงินเพิ่ม แต่กลับถูกอีกฝ่ายพูดจาดูถูกว่าจับเสือมือเปล่า มีการล็อกคอ ยึดกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ไว้ บันดาลโทสะ จึงใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะร้อยตำรวจตรีศิริชัย กระทั่งถูกรุมทำร้ายดังกล่าว หลังเกิดเหตุ 1 วัน ภรรยาเอาเงินไปไถ่รถมอเตอร์ไซค์กับเจ้าของสนามชนไก่ 1,500 บาท และยังถูกเรียกเก็บเพิ่มอีก 1,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าตำรวจและอำเภอ หน่วยงานละ 500 บาท
ตำรวจ สภ.โนนศิลา ยืนยันว่าไม่มีบ่อนพนันไก่ชนในพื้นที่ เช่นเดียวกับเจ้าของสนามชนไก่ที่เป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง บอกว่าเป็นเพียงสนามคัดสายพันธุ์ ไม่มีการเล่นพนัน และไม่มีเห็นเหตุการณ์ที่เด่นถูกรุมทำร้าย อ้างว่ามัวดูอาการบาดเจ็บของตำรวจอยู่
อย่างไรก็ตาม ระหว่างสื่อมวลชนลงพื้นที่จุดเกิดเหตุร่วมกับเจ้าหน้าที่ พบโพยพนันถูกทิ้งเกลื่อนพื้น สื่อมวลชนช่วยกันเก็บได้เกือบ 20 ชิ้น นอกจากอัตราต่อรองแล้ว จำนวนเงินแล้ว ยังปรากฏชื่อยืนยันตัวบุคคล เช่น ตำรวจเสื้อเทา เสื้อดำ รวมทั้งดาบเม้า ที่เด่นจำชื่อได้คนเดียว ก็มีชื่อในโพยพนันเหล่านี้ด้วย
ตำรวจ สภ.โนนศิลา ตรวจสอบพบว่ามีตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด 5 นาย สังกัด สภ.บ้านไผ่ 4 นาย ยศร้อยตำรวจตรี 2 นาย และดาบตำรวจ 2 นาย สังกัด สภ.พระยืน ยศพันตำรวจโท ตำรวจสาววัตรสืบสวนอีก 1 นาย
ผู้บังคับบัญชาส่งระดับรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นมาทำความเข้าใจและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะต่างแจ้งความดำเนินคดีกัน โดยฝ่ายประชาชนขอให้สบายใจว่าตำรวจมีวิธีรวบรวมพยานหลักฐาน แสวงหาข้อเท็จจริง แม้จะมีกระแสข่าวว่า ประจักษ์พยานไม่กล้าให้ข้อมูล เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย