ตรวจรถของกลางเหตุฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับแกร็บเลดี้

นนทบุรี 16 ม.ค. – เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรถของกลาง และเชือกที่ใช้ผูกคอเหยื่อ จากเหตุหญิงวัย 50 ปี ขับแกร็บเลดี้ ถูกลวงฆ่าชิงทรัพย์หมกป่า ในพื้นที่ จ.นนทบุรี


จากกรณีพบศพหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นางเกศยุคนธ์ อายุ 50 ปี อาชีพแกร็บคาร์ สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ ถูกมัดมือด้วยเชือกผ้าสีน้ำเงิน เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ม.ค.66 เวลา 21.00 น. นายธยา อายุ 57 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความว่า นางเกศยุคนธ์ ภรรยา เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กทม. โดยรับผู้โดยสารหญิงชื่อ น.ส.มิน จากแฟลตแห่งหนึ่ง ย่านรังสิต เมื่อวันที่ 14 ม.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น. เพื่อมาส่งที่หมู่บ้าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อมาถึง อ.บางบัวทอง เวลาประมาณ 10.30 น. ผู้โดยสารได้บอกกับนางเกศยุคนธ์ ให้รอเพื่อนมาชำระเงิน นางเกศยุคนธ์จึงรอ จากนั้นผู้แจ้งไม่สามารถติดต่อนางเกศยุคนธ์ ตั้งแต่เวลา 12.00 น.


ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 15 ม.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บริเวณแฟลตแห่งหนึ่ง ย่านรังสิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายวีระณัฐภูมิ อายุ 21 ปี เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาฆ่าชิงทรัพย์ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (16 ม.ค.) ยังไม่มีญาติมาเยี่ยม ส่วนผู้ต้องหาอยู่ในอาการปกติ ไม่มีความเครียดแต่อย่างใด

ด้านชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง เร่งติดตามโทรศัพท์มือถือและรถยนต์ของผู้ตาย โดยทางพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ ของผู้ตายในที่เกิดเหตุ มามอบให้กับชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีและติดตามตัวแฟนสาวของผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ติดตามรถของกลางที่ผู้ต้องหานำไปขายให้กับคนรู้จัก ในพื้นที่บางบอน-มหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยได้นำรถของกลาง และเชือกที่ผู้ต้องหาใช้ในการสังหารเหยื่อ พร้อมประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.นนทบุรี เข้าตรวจสอบลายนิ้วมือแฝง และหลักฐานอื่นๆ ทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม เบื้องต้นผู้ต้องหายังไม่เปิดเผยว่า นำรถของผู้เสียชีวิตไปขายให้กับคนรู้จักในราคาเท่าไร แต่ได้มีการนำเงินจำนวน 25,000 บาท ไปให้กับ น.ส.มิน แฟนสาวที่เพิ่งคบกันได้เพียง 2 เดือน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวหญิงสาวรายนี้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง