กาญจนบุรี 9 ม.ค.- เจ้าหน้าที่ยังติดตามร่องรอยเสือโคร่งในพื้นที่ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจบุรี คาดอายุ 7-8 ปี ล่าสุดพบร่องรอยเพิ่มอีก 1 จุด บริเวณรอยต่อไร่มันสำปะหลังกับป่าธรรมชาติใน อ.ไทรโยค รวมเป็น 3 จุด
กรณีชาวบ้านพบเสือโคร่งเดินอยู่ที่บริเวณชายป่าทางเดินเข้าไร่มันสำปะหลัง ที่บ้านท่ากะทิ หมู่ 6 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นพบรอยตีนเสือโคร่งขนาดใหญ่ คาดอายุประมาณ 7-8 ปี ต่อมามีประชาชนแจ้งพบเสือโคร่งวิ่งตัดหน้ารถยนต์ 1 ตัว เห็นลายบนใบหน้าชัดเจน หายเข้าไปในป่าหลังมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี พบรอยตีนเสือเดินไปตามขี้เถ้าแนวกันไฟบนป่าภูเขา ขนาดรอยกว้าง 10 ซม. ยาว 13 ซม. ระยะห่างระหว่างการก้าว 120 ซม. ทำให้มหาวิทยาลัยมหิดลต้องประกาศเตือนนักศึกษาให้หลีกเลี่ยงเส้นทางป่ารอบมหาวิทยาลัย จนกว่าจะพิสูจน์ทราบชัดเจน
ล่าสุด ชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านวังสิงห์ ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค แจ้งพบร่องรอยอีกจุด เป็นรอยตีนขนาดใหญ่คล้ายของเสือโคร่ง ที่บริเวณรอยต่อไร่มันสำปะหลังกับป่าธรรมชาติ ขนาดความกว้างของอุ้งตีน 10 ซม. มากกว่า 5 รอย อยู่บนกองขี้เถ้าแนวกันไฟ โดยรอยตีนมีทิศทางเดินลัดเลาะบริเวณรอยต่อระหว่างไร่มันสำปะหลังกับป่าธรรมชาติ จึงติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าในบริเวณที่คาดว่าเสือโคร่งจะผ่าน นอกจากนี้ ยังติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าตั้งแต่วัดถ้ำเสือดาวถึงสำนักสงฆ์พระพุทธบาทคีรีศรีสุทโธเพิ่มอีกจุด
เจ้าหน้าที่ตรวจร่องรอยเสือโคร่งที่พบก่อนแล้ว 2 จุด คือ บริเวณบ้านท่ากะทิ และบ้านทับศิลา ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีความกว้างของอุ้งตีน 10 ซม. จำนวน 5 รอย และติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าไว้ที่จุดที่พบร่องรอยและคาดว่าเสือจะเคลื่อนผ่านเฟดดำ.-สำนักข่าวไทย