ปศุสัตว์ยะลาเร่งหาสาเหตุหมูป่าตายปริศนา

ยะลา 6 ม.ค. – ปศุสัตว์จังหวัดยะลาขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก หลังพบหมูป่าตายเกลื่อน เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบซากหาสาเหตุการตาย ย้ำยังไม่พบอหิวาห์ในสุกร


กรณีเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติบางลางที่ ยล.1 บ้านวังไทร ร่วมกับชาวบ้าน พบซากหมูป่าตายบริเวณป่าต้นนํ้าคลองวังไทร หมู่ 2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบทำให้พบซากของหมูป่าตายเพิ่มอีก 3 ตัว รวมเป็นทั้งหมดจากที่รับแจ้งเป็น 10 ตัว และเจ้าหน้าที่ได้กําจัดโดยการจุดไฟเผาซากหมูป่า เพื่อไม่ให้เชื้อโรคระบาดไปยังหมูป่าตัวอื่นๆ เบื้องต้นพบหมูป่าตายหลายตัวซึ่งต้องรอผลพิสูจน์ยืนยันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงสาเหตุการตายของหมูป่าทั้ง 10 ตัว

ล่าสุดอุทยานแห่งชาติบางลาง โดยหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติบางลางที่ ยล.1 บ้านวังไทร มีหนังสือประสานมายังสำนักงานปศุสัตว์อำเภอธารโต และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุสัตว์ป่าตาย


ขณะที่ปศุสัตว์จังหวัดยะลา พร้อมด้วยนายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ เรียกประชุมเจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยะลาเป็นการด่วน เพื่อเตรียมเข้าตรวจสอบพื้นที่ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการเก็บตัวอย่างซากหมูเพื่อชันสูตรโรคต่อไป

นายอรรถพล แสนพันทา ปศุสัตว์จังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จากกรณีพบหมูป่าตายในพื้นที่บริเวณป่าต้นนํ้าคลองวังไทร หมู่ 2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ขณะนี้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดยะลาได้รับหนังสือแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติบางลาง เข้าตรวจสอบซากหมูป่า เพื่อหาสาเหตุการตาย เบื้องต้นทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้เผาทำลายซากหมูป่าหมดแล้ว เพื่อป้องกันการระบาด หากมีการติดเชื้อ

ทั้งนี้ ตามที่โซเชียลให้ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อ ASF หรือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร เป็นการคาดคะเนกันไป อาจทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรในสัตว์ป่าเป็นพาหะจริง แต่ไม่ใช่จะติดต่อกันได้ง่าย ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก โรคนี้ในประเทศไทยยังไม่พบการติดเชื้อจากสัตว์ป่า หากผู้ใดพบเห็นสัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งตายจำนวนมากในพื้นที่เดียวกัน ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือปศุสัตว์อำเภอ เป็นต้น ห้ามเคลื่อนย้ายซากสัตว์นั้นออกนอกพื้นที่ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคหากเป็นโรคติดต่อ รอเจ้าหน้าที่เก็บซากและชิ้นเนื้อ เพื่อส่งตรวจชันสูตรโรค หลังจากนั้นให้กำจัดซากสัตว์ตายโดยการเผาหรือฝังซาก ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ สัตวแพทย์ที่เข้าไปควบคุมต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนืออากาศหนาว-ใต้ตอนล่างฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีอากาศหนาว ส่วนภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้ง กทม-ปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาว ภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้

“แพทองธาร” นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้ ติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่ พบนักเรียน ประชาชน ร่วมมหกรรมแก้หนี้, พูดคุยผู้นำศาสนา-ผู้ประกอบการประมง-เร่งโครงการก่อสร้างสะพาน, ขุดลอกคลอง, โครงการเงินกู้ซอฟต์โลน