แชร์ว่อนเน็ต! คลิปเจ้าของร้านอาหารอินเดียทำร้ายคู่กรณี ยันไม่ใช่มาเฟีย

กระบี่ 5 ม.ค. – แชร์ว่อนเน็ต คลิปเจ้าของร้านอาหารอินเดีย ย่านหาดอ่าวนาง จ.กระบี่ ทำร้ายคู่กรณีบาดเจ็บ แจงแค่เคยมีปัญหากัน ยืนยันไม่ได้เป็นมาเฟีย


คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดร้านอาหารแห่งหนึ่งหน้าหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาบง อ.เมือง จ.กระบี่ ขณะชายชาวอินเดีย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารอินเดียที่อยู่หน้าหาด เข้ามาทำร้ายลูกชายเจ้าของร้านอาหารคู่แข่งที่อยู่ใกล้กัน แล้วยังพาลูกน้องที่ร้านตนตามมาใช้ไม้หน้าสามรุมทุบทำร้าย โดยไม่สนใจนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินผ่านไปมา

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.65 ทำให้ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น ส่วนใหญ่มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่น่าจะเกิดขึ้นในย่านแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของ จ.กระบี่ บางคนมองว่าเป็นพวกกลุ่มอิทธิพล หรือกลุ่มมาเฟียอินเดียในพื้นที่ที่มีการประกอบธุรกิจร้านอาหารในย่านหาดอ่าวนางมานานหลายปี โดยมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจ หลังเกิดเหตุทางพ่อของชายเสื้อแดงในคลิป ซึ่งเป็นคนสัญชาติไทย เชื้อสายอินเดีย เข้าแจ้งความที่ สภ.อ่าวนาง อาจเข้าข่ายพยายามฆ่า


ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านอาหารของชายเสื้อแดงหน้าร้านที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคลิปวิดีโอที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ แต่ทางพ่อของชายเสื้อแดงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์

ขณะที่เจ้าของร้านอาหารอินเดียคู่กรณี กล่าวยอมรับว่าเป็นคนที่เข้าไปตบชายที่สวมเสื้อสีแดงคู่กรณีจริง ก่อนหน้านี้มีปัญหากับร้านคู่แข่งที่มีการเรียกลูกค้าให้เข้าร้านของคู่กรณี ซึ่งตนเห็นว่าไม่ควรเรียกลูกค้า และยังมีการไปตบลูกน้องของตนก่อนด้วย ตนจึงไปบอกพ่อของคู่กรณีว่าไม่ควรมาตบลูกน้องของตน ล่าสุดวันเกิดเหตุ คือ 31 ธ.ค.65 เลยไปถามว่าตบลูกน้องตนทำไม เขาก็พูดกวน จึงชกไป 1 ครั้ง จนตะลุมบอนกันตามในคลิป ซึ่งตนอยู่มา 24 ปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ตนทำมาหากินสุจริต ตนไม่ได้เป็นมาเฟียใดๆ มาเฟียต้องไปขอเงิน เรียกเงิน แต่ตนทำงานช่วยเหลือสังคมมาตลอด ซึ่งในวันเกิดเหตุตนเองถูกตีหัวแตกเย็บ 3 เข็ม

ด้าน พ.ต.อ.อภิชาติ จินาเพ็ญ ผกก.สภ.อ่าวนาง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางพ่อของชายเสื้อแดงได้เข้ามาแจ้งความไว้เบื้องต้น และทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคลิปขณะเกิดเหตุในบางส่วน เพื่อสืบสวนติดตามกลุ่มที่ก่อเหตุ แต่เนื่องจากเป็นชาวต่างชาติ ตำรวจจะประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำต่อไป จากในคลิปน่าจะเข้าข่ายความผิดในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนที่ทางผู้เสียหายจะแจ้งว่าพยายามฆ่านั้น พนักงานสอบสวนจะต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนกรณีที่มีกระแสออกมาว่าเป็นพวกมาเฟียอินเดียในพื้นที่นั้น ในส่วนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน ต้องขอเวลาดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน