ประจวบฯ 26 ธ.ค. – เผยผลยืนยันอัตลักษณ์กำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่เสียชีวิต 8 นาย พร้อมแจงปมแสงพลุแฟร์ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ไม่พบบุคคล หรือตัวพลุ
พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เผยว่า วันนี้ผลตรวจอัตลักษณ์กำลังพลที่เสียชีวิต ยืนยันได้รวมทั้งหมด 8 นาย โดยเป็นกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยทั้งหมด คือ
- พลทหารปรีชา รักษาภักดี
- จ.ต.สถาพร สมเหนือ
- จ.อ.บุญเลิศ ทองทิพย์
- จ.ต.นพณัฐ คำวงศ์
- จ.ต.ศุภกิจ ทิวาลัย
- จ.ท.ธวัชชัย สาพิราช
- พลทหารจำลอง แสนแก
- จ่าเอกชูชัย เชิดชิด
กองทัพเรือเตรียมส่งกลับไปประกอบพิธีที่สัตหีบพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.)
ส่วนความคืบหน้าการค้นหากำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ในวันนี้ อากาศยาน พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณเซ็กเตอร์ 2 ห่างจากเกาะไข่ อ.ปะทิว จ.ชุมพร 4 ไมล์ทะเล เรือหลวงนเรศวร ได้เข้าเก็บกู้และลำเลียงขึ้นฝั่งบางสะพานโดยเฮลิคอปเตอร์ เมื่อเวลา 15.50 น. เพื่อส่งไปพิสูจอัตลักษณ์บุคคล ที่ศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลส่วนหน้า ที่ตั้งอยู่ภายในมูลนิธิสว่างราษฏร์ศรัทธาธรรมสถาน พร้อมแจงกรณีเรือหลวงนราธิวาสพบแสงพลุแฟร์ ยิงมาทางเรือ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ซึ่งมีทิศทางมาจากช่วงระหว่างเกาะไข่ กับเกาะจระเข้ จ.ชุมพร วันนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบ และปูพรมค้นหาทั้งหมด แต่ไม่พบบุคคล หรือตัวพลุ
อย่างไรก็ตาม การยิงพลุแฟร์ จะต้องยิงโดยสิ่งมีชีวิตเท่านั้น จึงทำให้เบื้องต้นมีความหวังว่าจะพบผู้รอดชีวิต แต่เมื่อไปตรวจสอบกลับไม่พบ เจ้าหน้าที่จึงได้วางอาหาร และไฟเอาไว้
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. พบแพชูชีพของเรือหลวงสุโขทัยเกยฝั่งเกาะไข่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บกู้แล้ว ส่วนความคืบหน้า เหตุทุ่นผูกเรือถูกเรือประมงตัด จากการตรวจสอบทำให้ทราบว่า เรือประมงลากคู่จากสัตหีบ ทำประมงกินขอบเขต เมื่ออวนลากติดทุ่น คนบนเรือจึงตัดอวนทิ้ง ทำให้อวนซึ่งมีน้ำหนักมากดึงทุ่นตกลงไป พรุ่งนี้นักประดาน้ำจะต้องดำลงไปตัดอวนออกจากทุ่น ซึ่งคาดว่าคลื่นใต้ทะเลจะเบาลง เรือหลวงบางระจัน และเรือหลวงราวี จะกลับไปปฏิบัติภารกิจได้อีกครั้ง
ล่าสุดตัวเลข ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอัปปาง อยู่ที่ 19 นาย ยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 18 นาย อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์อีก 1 นาย และยังสูญหายซึ่งต้องค้นหาให้พบอีก 10 นาย .-สำนักข่าวไทย