ภูมิภาค 21 ธ.ค. – น้ำท่วมหนักที่ จ.ยะลา เกิดบ้านทรุดพังเสียหาย 1 หลัง เร่งให้การช่วยเหลือ ส่วนจังหวัดสงขลาเจ้าหน้าที่เร่งขุดเปิดทางระบายน้ำ เพื่อระบายน้ำที่ท่วมออกจากเกาะยอ ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยา เตือนภาคใต้ยังระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งไปอีก 1-2 วัน
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดยะลา ทั้ง 8 อำเภอ 56 ตำบล 260 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ จำนวน 26,342 คน คลี่คลายแล้ว 3 อำเภอ ล่าสุดฝนในพื้นที่เริ่มลดลง แต่ยังมีมวลน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่ริมโครงการแก้มลิง คลองสาคอ คลองตาสา และคลองลำดา ในเขตอำเภอเมืองยะลา เพื่อรอการระบายลงเขื่อนปัตตานี ศูนย์วิทยุกู้ชีพ กู้ภัย ต.พร่อน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านจาหนัน ที่บ้านทรุดตัว จากฝนที่ตกหนักเสียหาย 1 หลัง ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น พังเสียหายแทบทั้งหลัง โดยเฉพาะห้องนอน ชั้น 2 และห้องครัว ชั้น 1 เสาบ้านทรุดตัว แตกหักเอนไปทางซ้ายของตัวบ้าน ข้าวของเครื่องใช้เสียหายหลายรายการ หลังเกิดเหตุคนในบ้านต้องคลานออกมา โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา ได้เข้าช่วยเหลือเบื้องต้น บ้านหลังนี้สร้างมากว่า 30 ปี รอบบ้านจะเป็นเส้นทางน้ำ เมื่อฝนตกหนักทำให้ดินอุ้มน้ำกระทั่งทรุดตัว
ล่าสุดระดับน้ำในพื้นที่ยะลายังท่วมสูง น้ำเอ่อล้นลำคลองท่วมเส้นทางหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ทหาร ส่งรถบรรทุกสูง รับส่งประชาชนเข้า-ออกหมู่บ้าน หากฝนลดลง ระดับน้ำจะลดลงตามลำดับ
ส่วนที่เกาะยอ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา สถานการณ์น้ำท่วมลดลง เหลือพื้นที่ริมทะเลสาบสงขลา ที่ยังมีน้ำท่วมจากปัญหาน้ำทะเลหนุน ประกอบกับมีการปรับถมดินในพื้นที่เอกชน ทำให้ปิดทางระบายน้ำ จึงต้องนำรถขุดตักมาขุดเจาะช่องทางระบายน้ำ ให้ไหลลงทะเลสาบสงขลาโดยเร็วที่สุด หลังขุดเปิดทางน้ำ ทำให้น้ำที่ท่วมในเกาะยอไหลจากตัวเมืองรวดเร็วขึ้น โดยจะได้สำรวจจุดที่มีการปรับถมทางระบายน้ำรอบตำบลเกาะยอ เพื่อขุดเปิดทางระบายน้ำป้องกันปัญหาน้ำท่วมรุนแรงในอนาคต
สำหรับจังหวัดสงขลา มีทั้งหมด 16 อำเภอ ประสบอุทกภัยและวาตภัยใน 14 อำเภอ 100 ตำบล 566 หมู่บ้าน 51 ชุมชน ประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน แล้วทั้ง 14 อำเภอ โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังมีคำเตือน บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่างมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ส่วนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้าขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งไปอีก 1-2 วัน. -สำนักข่าวไทย