น้ำท่วมเกาะยอหนักสุดในรอบ 10 ปี

ภูมิภาค 18 ธ.ค. – หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้อ่วม ฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำน้ำท่วมชุมชนเกาะยอ จ.สงขลา หนักสุดในรอบ 10 ปี เส้นทางเดินรถไฟสายขึ้นล่อง หาดใหญ่-กรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ถูกตัดขาด


ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ต้องเดินกางร่มออกมาสำรวจสภาพน้ำที่กำลังไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนเกาะยอ โดยพบว่า น้ำสีขุ่นข้นไหลลงมาจากเนินเขาในพื้นที่ ซึ่งมีการปรับขุดเนินเขา ชาวบ้านมองว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำไหลลงสู่พื้นที่ชุมชนรวดเร็วขึ้น โดยพื้นที่หลายหมู่บ้านของ ต.เกาะยอ ถูกน้ำท่วมถนนและบ้านเรือน ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ประกอบกับประสบปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำไหลระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้ช้า จนถึงขณะนี้ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำท่วมพื้นที่รุนแรงในรอบนี้ หนักสุดในรอบ 10 ปี

ทั้งนี้ พื้นที่ อ.เมืองสงขลา ประสบปัญหาน้ำท่วมหลายจุด ขณะที่เขตเทศบาลนครสงขลา ก็ประสบปัญหาลมพัดแรง ทำให้มีต้นไม้ล้มขวางถนน ส่วนพื้นที่รอบนอก มีน้ำท่วมในพื้นที่ อ.รัตภูมิ อ.สิงหนคร และ อ.สทิงพระ เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่คืนที่ผ่านมา


น้ำท่วมตัดขาดเส้นทางรถไฟสายขึ้นล่อง หาดใหญ่-กรุงเทพฯ

ปัญหาน้ำท่วมจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำกัดเซาะและดินสไลด์เส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟหาดใหญ่ เสียหายแล้วอย่างน้อย 2 จุด ทั้งเส้นทางขึ้นล่องกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ระหว่างสถานีควนเนียง-บ้านเกาะใหญ่ อ.ควนเนียง และระหว่างสถานีควนมีด กับสถานีนาม่วง นาหม่อม ขบวนรถไฟไม่สามารถผ่านได้ และมีการแจ้งปิดเส้นทางตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันนี้ (18 ธ.ค.65) ทำให้ขณะนี้เส้นทางรถไฟทั้งขาขึ้นและขาล่อง ที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ถูกตัดขาดหมดแล้วทั้ง 3 เส้นทาง รวมถึงเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเส้นทางกรุงเทพฯ ที่ถูกน้ำท่วม และเส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ที่ถูกลอบวางระเบิด ซึ่งยังซ่อมไม่เสร็จ ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่จะเดินทางด้วยรถไฟทั้ง 3 เส้นทาง ตั้งแต่วันนี้ ควรตรวจสอบเส้นทางก่อนการเดินทาง เพราะขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่รถไฟอยู่ระหว่างการเข้าสำรวจพื้นที่และซ่อมแซมรางรถไฟที่เสียหาย

พัทลุงฝนตกหนัก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน-วัด


เช่นเดียวกับพื้นที่ จ.พัทลุง โดยเฉพาะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด มวลน้ำป่าไหลหลากลงมาตามน้ำตก บวกกับน้ำฝนที่ตกลงมายังพื้นที่ราบ ท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.ป่าบอน อ.ตะโหมด และ อ.กงหรา ซึ่ง อ.ป่าบอน วัดปริมาณน้ำฝนตกสะสม 12 ชั่วโมง 112 มม. ทำให้น้ำหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.ทุ่งนารี ต.หนองธง และ ต.โคกทราย หลายหมู่บ้าน

นอกจากนี้ มวลน้ำป่าจากน้ำตกลาดเตย อ.ตะโหมด ไหลหลากลงมา และเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มของ ต.คลองใหญ่ อีก 3 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของ ช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งนำกระสอบทรายมาปิดทับ ป้องกันมวลน้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลฯ

เช่นเดียวกับบริเวณวัดตะโหมด เร่งนำกระสอบทรายมาปิดกั้นภายในวัด เนื่องจากเกรงว่ามวลน้ำที่เพิ่มปริมาณจะไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ภายในวัด และล่าสุดที่ ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ บริเวณบ้านต้นไทร น้ำท่วมผิวถนนสายเพชรเกษม ช่วงจังหวัดพัทลุง-ตรัง ครึ่งเลนฝั่งเข้าตัวจังหวัดพัทลุง โดยมีเจ้าหน้าที่แขวงการทางพัทลุง เปิดไฟเตือนคอยให้บริการเป็นระยะ

นราธิวาสน้ำท่วมระลอก 2 กระทบ 9 อำเภอ

ฝนกระหน่ำตลอดทั้งวันทั้งคืน ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ย่างเข้าวันที่ 3 ทำให้เกิดน้ำท่วมระลอก 2 อ่วม 10 อำเภอ โดยทางจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองตันหยงมัส บริเวณบ้านตันหยงมัส บ้านไท บ้านแกแม ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ บ้านมะนังกาหยี ต.มะนังตายอ ต.ลำภู ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส และบ้านทุ่งคา บ้านโต๊ะแม บ้านปูตะ ต.ละหาร อ.ยี่งอ รับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ขอให้ขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของ สัตว์เลี้ยง ไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ขณะที่สถานีตรวจอากาศด้วยเรดาร์สทิงพระ ตรวจพบฝนฟ้าคะนองและกลุ่มฝน บริเวณ อ.ระแงะ อ.ศรีสาคร อ.รือเสาะ อ.เมืองนราธิวาส อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ อ.จะแนะ อ.สุคิริน และ อ.แว้ง ซึ่งมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ท้องฟ้ามืดครึ้มปกคลุมด้วยเมฆฝน ส่งผลให้ถนนหลายสายมีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ถนนสายรองและในหมู่บ้าน น้ำท่วมขัง 1-2 เมตร มีการเตือนให้ราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนบ้านมูโนะ และชุมชนริมแม่น้ำโก-ลก เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด อีกทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง ให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 18-21 ธันวาคมนี้

ยะลาฝนตกหนักต่อเนื่อง ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 20 ครัวเรือน

พื้นที่ จ.ยะลา พ.ต.ท.จาริพัฒน์ ทองแดง ผบ.ฉก.ตชด.44 ได้สั่งการให้กำลังพลเจ้าหน้าที่ ฉก.ตชด.44 นำอาหาร น้ำดื่ม เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ที่บ้านปูยุด หมู่ 1 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน บางหลังชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 หรือไม่ก็ต้องอพยพไปพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง เพราะระดับน้ำยังสูงขึ้น และฝนยังไม่หยุดตก จนทำให้น้ำท่วมเส้นทาง รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว

ขณะที่ อ.เบตง จ.ยะลา เกิดฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืน และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก แต่ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องในครั้งนี้ ขณะที่กำลังพล ร้อย ฉก.ตชด.444, ร้อย ฉก.ตชด.445 เตรียม เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ หากเกิดอุทกภัยขึ้นจะได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันท่วงที และให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ชุมชนเมือง พื้นที่ติดแม่น้ำลำคลอง อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง พื้นที่ลาดเชิงเขาอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม

ส่วนที่ อ.ธารโต จ.ยะลา น้ำป่าไหลกัดเซาะถนนภายในหมู่บ้าน สายบ้านแหร-บ้านซาไก หมู่ที่ 4 ขณะรถยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่ขับผ่าน เป็นเหตุให้รถตกลงไปในคลองบ้านแหร ถนนลาดยางถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดพังทลายลงไปในลำธาร โดยส่วนที่เป็นพื้นลาดยางทรุดหายไปจนถึงเส้นเหลืองกลางถนน เป็นระยะทางร่วม 20 เมตร หลังเกิดเหตุ อบต.บ้านแหร ได้ประสานรถยกขนาดเล็กและเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดึงรถที่อยู่ในน้ำขึ้นมาได้สำเร็จ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำแผงกั้นจราจร และกรวยจราจร มาวางในเส้นทางถนนที่ชำรุด และเปิดให้รถสามารถขับผ่านได้ช่องทางเดียว พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

น้ำป่าเทือกเขาบรรทัดหลากท่วมหลายตำบล จ.ตรัง

ที่ จ.ตรัง ฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนถึงวันนี้ ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากลงมายังน้ำตกกะช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง ทำให้ลำคลองสาขาสายต่างๆ มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.ละมอ อ.นาโยง และ ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว แล้วบางส่วน ผู้นำชุมชนเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ใกล้เชิงเขา ให้เร่งอพยพสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากบริเวณเทือกเขาบรรทัด ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจากน้ำตกต่างๆ จะมีกำลังแรงขึ้น และอาจไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร ซ้ำเป็นรอบที่ 2 ใน 1 สัปดาห์

นอกจากนี้ ปภ.ยังประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับน้ำตกทั้ง 6 แห่ง ในพื้นที่ จ.ตรัง ได้แก่ น้ำตกกะช่อง น้ำตกโตนเต๊ะ น้ำตกโตนตก น้ำตกไพรสวรรค์ น้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกลำปลอก ในพื้นที่ อ.นาโยง อ.ย่านตาขาว และ อ.ปะเหลียน เฝ้าสังเกตสีน้ำและระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้น และมีน้ำป่าไหลหลากภายใน 1-2 วันนี้ โดยให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ทั้ง 40 หมู่บ้านใน 4 อำเภอ คือ อ.ห้วยยอด อ.ย่านตาขาว อ.ปะเหลียน และ อ.นาโยง เฝ้าติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และให้เร่งอพยพทันที หากมีน้ำป่าไหลหลาก หรือมีความเสี่ยงเกิดน้ำป่าไหลหลากสูง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำ และออกเตือนประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเล็ก” ชี้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นถือว่าดีมากแล้ว เรื่องกับระเบิด จะคุยจนกว่ายอมรับ

ทำเนียบ 8 ส.ค.-“บิ๊กเล็ก” มอบความสำเร็จให้ทีมเจรจา GBC พร้อมขอบคุณประชาชน 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่อดทน ให้ผู้ว่าฯ ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงอนุญาตประชาชนกลับบ้าน ชี้กัมพูชาเมินข้อตกลงเก็บกู้ระเบิด เพื่อใช้เป็นเครื่องป้องกันกำลังตนเอง ย้ำจะนำไปคุยใน GBC และจนกว่าจะยอมรับ จ่อตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนตัวดูข้อกฎหมายรอบด้าน พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำผลสำเร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย – กัมพูชา หรือ GBC ว่า ขอบคุณทีมคณะเลขานุการ GBC ดำเนินการพูดคุยจนบรรลุข้อตกลง 13 ประเด็น โดยผลสำเร็จที่สำคัญ คือ เป็นการตกลงแบบทวิภาคี ระหว่างไทย – กัมพูชา ซึ่งอาเซียนได้ปล่อยให้ทั้งสองประเทศพูดคุยกัน โดยไม่เข้ามาแทรกแซง ทำหน้าที่เพียงเป็นผู้สังเกตการณ์ ขณะที่ในการพูดคุยมีผู้สังเกตการณ์จากสหรัฐสหรัฐอเมริกา และจีน ก็ได้ปล่อยให้อาเซียนบริหารจัดการกันเอง โดยไม่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ถือว่าได้รับคำมั่นจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และมาเลเซียก็ตอบรับคำขอไทย ที่พยายามจะรักษาการพูดคุยระหว่างสองประเทศ เพื่อให้กลไกทวิภาคีดำเนินการต่อไปได้ และสิ่งที่ไทยประสบผลสำเร็จอีกหนึ่งประการ คือ เป็นอีกครั้งที่กัมพูชายอมพูดคุยทวิภาคี หลังจากที่ปฏิเสธมาตลอด ส่วนการจะเชื่อใจกัมพูชาได้อย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า จะใช้แนวทางเดิม […]

ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา

ทำเนียบ 8 ส.ค.-ศบ.ทก. เปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา” นั่งโฆษกฯ จิตอาสา ปะทะ “พลโทหญิงมาลี” มั่นใจสวยกว่าการันตีตำแหน่งนางสาวไทย เจ้าตัวลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์ พร้อมยืนยันเคียงข้างประชาชน ให้ข้อเท็จจริง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวโฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาคนใหม่ คือ นางสาวปนัดดา วงษ์ผู้ดี เพื่อทำหน้าที่ปะทะกับพลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ซึ่งอย่างน้อยสิ่งที่เราได้เปรียบ ที่ตนเองมั่นใจ คือ ความสวย ที่สวยกว่าแน่นอน เพราะโฆษก ศบ.ทก.เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาไม่ใช่นางสาวกัมพูชา ซึ่งการทำงานของนางสาวปนัดดา เนื่องจากมีงานมากมาย ปัจจุบันทำงานอยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ให้นางสาวปนัดดาช่วยตอบโต้ผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งตนเองและทีมงานจะสนับสนุนข้อมูลในการแถลงข่าว ด้าน นางสาวปนัดดา ระบุว่า ที่ตกลงมาทำหน้าที่โฆษก ศบ.ทก. จิตอาสาในครั้งนี้ เป็นเพราะตนเองอยู่ในพื้นที่มานานและเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เห็นความอดทนของทหาร ในฐานะที่เป็นจิตอาสา จึงอยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน ที่สามารถคุยกับสื่อมวลชนและประชาชน รวมถึงฝ่ายทหารให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริง และบอกกับต่างชาติว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยของเราบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางทหารได้มีการประชุมกัน […]

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]