น้ำท่วมเกาะยอหนักสุดในรอบ 10 ปี

ภูมิภาค 18 ธ.ค. – หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้อ่วม ฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำน้ำท่วมชุมชนเกาะยอ จ.สงขลา หนักสุดในรอบ 10 ปี เส้นทางเดินรถไฟสายขึ้นล่อง หาดใหญ่-กรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ถูกตัดขาด


ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ต้องเดินกางร่มออกมาสำรวจสภาพน้ำที่กำลังไหลทะลักเข้าท่วมชุมชนเกาะยอ โดยพบว่า น้ำสีขุ่นข้นไหลลงมาจากเนินเขาในพื้นที่ ซึ่งมีการปรับขุดเนินเขา ชาวบ้านมองว่าเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำไหลลงสู่พื้นที่ชุมชนรวดเร็วขึ้น โดยพื้นที่หลายหมู่บ้านของ ต.เกาะยอ ถูกน้ำท่วมถนนและบ้านเรือน ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ประกอบกับประสบปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำไหลระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาได้ช้า จนถึงขณะนี้ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ ประกอบกับน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้น้ำท่วมพื้นที่รุนแรงในรอบนี้ หนักสุดในรอบ 10 ปี

ทั้งนี้ พื้นที่ อ.เมืองสงขลา ประสบปัญหาน้ำท่วมหลายจุด ขณะที่เขตเทศบาลนครสงขลา ก็ประสบปัญหาลมพัดแรง ทำให้มีต้นไม้ล้มขวางถนน ส่วนพื้นที่รอบนอก มีน้ำท่วมในพื้นที่ อ.รัตภูมิ อ.สิงหนคร และ อ.สทิงพระ เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่คืนที่ผ่านมา


น้ำท่วมตัดขาดเส้นทางรถไฟสายขึ้นล่อง หาดใหญ่-กรุงเทพฯ

ปัญหาน้ำท่วมจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำกัดเซาะและดินสไลด์เส้นทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟหาดใหญ่ เสียหายแล้วอย่างน้อย 2 จุด ทั้งเส้นทางขึ้นล่องกรุงเทพฯ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ระหว่างสถานีควนเนียง-บ้านเกาะใหญ่ อ.ควนเนียง และระหว่างสถานีควนมีด กับสถานีนาม่วง นาหม่อม ขบวนรถไฟไม่สามารถผ่านได้ และมีการแจ้งปิดเส้นทางตั้งแต่ช่วงเที่ยงวันนี้ (18 ธ.ค.65) ทำให้ขณะนี้เส้นทางรถไฟทั้งขาขึ้นและขาล่อง ที่เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ ถูกตัดขาดหมดแล้วทั้ง 3 เส้นทาง รวมถึงเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเส้นทางกรุงเทพฯ ที่ถูกน้ำท่วม และเส้นทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ที่ถูกลอบวางระเบิด ซึ่งยังซ่อมไม่เสร็จ ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่จะเดินทางด้วยรถไฟทั้ง 3 เส้นทาง ตั้งแต่วันนี้ ควรตรวจสอบเส้นทางก่อนการเดินทาง เพราะขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่รถไฟอยู่ระหว่างการเข้าสำรวจพื้นที่และซ่อมแซมรางรถไฟที่เสียหาย

พัทลุงฝนตกหนัก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน-วัด


เช่นเดียวกับพื้นที่ จ.พัทลุง โดยเฉพาะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด มวลน้ำป่าไหลหลากลงมาตามน้ำตก บวกกับน้ำฝนที่ตกลงมายังพื้นที่ราบ ท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ อ.ป่าบอน อ.ตะโหมด และ อ.กงหรา ซึ่ง อ.ป่าบอน วัดปริมาณน้ำฝนตกสะสม 12 ชั่วโมง 112 มม. ทำให้น้ำหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.ทุ่งนารี ต.หนองธง และ ต.โคกทราย หลายหมู่บ้าน

นอกจากนี้ มวลน้ำป่าจากน้ำตกลาดเตย อ.ตะโหมด ไหลหลากลงมา และเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มของ ต.คลองใหญ่ อีก 3 หมู่บ้าน เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของ ช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งนำกระสอบทรายมาปิดทับ ป้องกันมวลน้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลฯ

เช่นเดียวกับบริเวณวัดตะโหมด เร่งนำกระสอบทรายมาปิดกั้นภายในวัด เนื่องจากเกรงว่ามวลน้ำที่เพิ่มปริมาณจะไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ภายในวัด และล่าสุดที่ ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ บริเวณบ้านต้นไทร น้ำท่วมผิวถนนสายเพชรเกษม ช่วงจังหวัดพัทลุง-ตรัง ครึ่งเลนฝั่งเข้าตัวจังหวัดพัทลุง โดยมีเจ้าหน้าที่แขวงการทางพัทลุง เปิดไฟเตือนคอยให้บริการเป็นระยะ

นราธิวาสน้ำท่วมระลอก 2 กระทบ 9 อำเภอ

ฝนกระหน่ำตลอดทั้งวันทั้งคืน ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ย่างเข้าวันที่ 3 ทำให้เกิดน้ำท่วมระลอก 2 อ่วม 10 อำเภอ โดยทางจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองตันหยงมัส บริเวณบ้านตันหยงมัส บ้านไท บ้านแกแม ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ บ้านมะนังกาหยี ต.มะนังตายอ ต.ลำภู ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส และบ้านทุ่งคา บ้านโต๊ะแม บ้านปูตะ ต.ละหาร อ.ยี่งอ รับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ขอให้ขนย้ายทรัพย์สิน สิ่งของ สัตว์เลี้ยง ไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ขณะที่สถานีตรวจอากาศด้วยเรดาร์สทิงพระ ตรวจพบฝนฟ้าคะนองและกลุ่มฝน บริเวณ อ.ระแงะ อ.ศรีสาคร อ.รือเสาะ อ.เมืองนราธิวาส อ.ยี่งอ อ.บาเจาะ อ.จะแนะ อ.สุคิริน และ อ.แว้ง ซึ่งมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ท้องฟ้ามืดครึ้มปกคลุมด้วยเมฆฝน ส่งผลให้ถนนหลายสายมีน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ถนนสายรองและในหมู่บ้าน น้ำท่วมขัง 1-2 เมตร มีการเตือนให้ราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนบ้านมูโนะ และชุมชนริมแม่น้ำโก-ลก เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด อีกทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง ให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 18-21 ธันวาคมนี้

ยะลาฝนตกหนักต่อเนื่อง ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 20 ครัวเรือน

พื้นที่ จ.ยะลา พ.ต.ท.จาริพัฒน์ ทองแดง ผบ.ฉก.ตชด.44 ได้สั่งการให้กำลังพลเจ้าหน้าที่ ฉก.ตชด.44 นำอาหาร น้ำดื่ม เข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ที่บ้านปูยุด หมู่ 1 ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน บางหลังชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 หรือไม่ก็ต้องอพยพไปพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง เพราะระดับน้ำยังสูงขึ้น และฝนยังไม่หยุดตก จนทำให้น้ำท่วมเส้นทาง รถไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว

ขณะที่ อ.เบตง จ.ยะลา เกิดฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืน และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก แต่ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องในครั้งนี้ ขณะที่กำลังพล ร้อย ฉก.ตชด.444, ร้อย ฉก.ตชด.445 เตรียม เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ หากเกิดอุทกภัยขึ้นจะได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันท่วงที และให้เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ชุมชนเมือง พื้นที่ติดแม่น้ำลำคลอง อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง พื้นที่ลาดเชิงเขาอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม

ส่วนที่ อ.ธารโต จ.ยะลา น้ำป่าไหลกัดเซาะถนนภายในหมู่บ้าน สายบ้านแหร-บ้านซาไก หมู่ที่ 4 ขณะรถยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่ขับผ่าน เป็นเหตุให้รถตกลงไปในคลองบ้านแหร ถนนลาดยางถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดพังทลายลงไปในลำธาร โดยส่วนที่เป็นพื้นลาดยางทรุดหายไปจนถึงเส้นเหลืองกลางถนน เป็นระยะทางร่วม 20 เมตร หลังเกิดเหตุ อบต.บ้านแหร ได้ประสานรถยกขนาดเล็กและเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดึงรถที่อยู่ในน้ำขึ้นมาได้สำเร็จ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำแผงกั้นจราจร และกรวยจราจร มาวางในเส้นทางถนนที่ชำรุด และเปิดให้รถสามารถขับผ่านได้ช่องทางเดียว พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

น้ำป่าเทือกเขาบรรทัดหลากท่วมหลายตำบล จ.ตรัง

ที่ จ.ตรัง ฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืนจนถึงวันนี้ ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากลงมายังน้ำตกกะช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง ทำให้ลำคลองสาขาสายต่างๆ มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ ต.ละมอ อ.นาโยง และ ต.นาชุมเห็ด อ.ย่านตาขาว แล้วบางส่วน ผู้นำชุมชนเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ใกล้เชิงเขา ให้เร่งอพยพสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากบริเวณเทือกเขาบรรทัด ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าระดับน้ำจากน้ำตกต่างๆ จะมีกำลังแรงขึ้น และอาจไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตร ซ้ำเป็นรอบที่ 2 ใน 1 สัปดาห์

นอกจากนี้ ปภ.ยังประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับน้ำตกทั้ง 6 แห่ง ในพื้นที่ จ.ตรัง ได้แก่ น้ำตกกะช่อง น้ำตกโตนเต๊ะ น้ำตกโตนตก น้ำตกไพรสวรรค์ น้ำตกสายรุ้ง และน้ำตกลำปลอก ในพื้นที่ อ.นาโยง อ.ย่านตาขาว และ อ.ปะเหลียน เฝ้าสังเกตสีน้ำและระดับน้ำที่อาจเพิ่มสูงขึ้น และมีน้ำป่าไหลหลากภายใน 1-2 วันนี้ โดยให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ทั้ง 40 หมู่บ้านใน 4 อำเภอ คือ อ.ห้วยยอด อ.ย่านตาขาว อ.ปะเหลียน และ อ.นาโยง เฝ้าติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และให้เร่งอพยพทันที หากมีน้ำป่าไหลหลาก หรือมีความเสี่ยงเกิดน้ำป่าไหลหลากสูง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่สำรวจระดับน้ำ และออกเตือนประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]