เชียงใหม่ 14 ธ.ค. – หนึ่งในผู้เข้าสอบนายสิบตำรวจของตำรวจภูธรภาค 5 เผยมีคนชักชวนให้จ่ายเงิน 4.2 แสน แลกสลิปโพยคำตอบ ขณะที่เพื่อนจ่ายแล้ว 3 หมื่น แต่สอบไม่ติด เพราะไม่กล้าหยิบโพยขึ้นมาดู
หญิงสาวที่เป็นหนึ่งในผู้เข้าสอบนายสิบตำรวจ เล่าว่า ก่อนจะมีการประกาศรับสมัครสอบเดือนมิถุนายน ได้รับการชักชวนจากผู้ปกครองของเพื่อนคนหนึ่ง บอกว่า มีทีมงานส่วนกลางพร้อมช่วยเหลือในการสอบ โดยต้องจ่ายเงิน 420,000 บาท เพื่อแลกกับโพยข้อสอบพร้อมคำตอบที่จะแจกให้ล่วงหน้าก่อนเข้าสอบ แต่เธอปฏิเสธเพราะต้องการใช้ความรู้ความสามารถในการสอบด้วยตัวเอง ส่วนเพื่อนของเธอ ได้ตกลงและจ่ายเงินไปแล้วประมาณ 30,000 บาท ส่วนที่เหลือให้จ่ายหลังสอบติด
ต่อมา วันสอบ 27 พฤศจิกายน เธอได้เข้าสอบที่สนามสอบมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ซึ่งพบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งการตรวจค้นที่ใช้เพียงอุปกรณ์ตรวจหาวัตถุ แต่ไม่มีการตรวจค้นตัวแต่อย่างใด เมื่อเข้าไปนั่งสอบก็พบว่ามีการจัดที่นั่งเป็นคู่ ไม่ได้แยกห่างกัน ระหว่างการสอบก็ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาคุมภายในห้อง แต่คุมอยู่บริเวณหน้าห้อง ผู้เข้าสอบคนนี้ ยังบอกอีกว่า มาตรการคุมสอบในวันดังกล่าว หากเทียบกับการสอบทั่วไปในมหาวิทยาลัยถือว่าการคุมเข้มมีน้อยกว่า จนทำให้คิดไปได้ว่าเป็นการเปิดทางให้ทุจริตได้สะดวก
ต่อมา หลังประกาศผลสอบ ปรากฏว่า เพื่อนของเธอที่ได้จ่ายเงินไปก่อนหน้านี้สอบไม่ติด (สอบภาค 6) โดยเพื่อน เล่าว่า ก่อนเข้าสอบในช่วงเช้าได้รับโพยคำตอบมาใบหนึ่ง เป็นกระดาษที่มีขนาดประมาณสลิปใบเสร็จรับเงิน แต่เพื่อนของเธอคนนี้ตัดสินใจไม่ควักโพยออกมาดู เพราะกลัวถูกจับได้และเริ่มรู้สึกละอายใจ ซึ่งหลังจากประกาศผลสอบ เพื่อนของเธอก็ได้ส่งตัวอย่างโพยคำตอบมาให้ดู แต่เป็นโพยของสนามสอบอื่น ส่วนเนื้อหาข้อสอบ ที่มีการแชร์ในโลกเซเชียล ดูแล้วเป็นข้อสอบชุดเดียวกันกับข้อสอบจริง จึงทำให้รู้ว่าการสอบครั้งนี้มีการทุจริตกันอย่างแน่นอน
ผู้เข้าสอบคนนี้ บอกว่า เธอตั้งใจกับการสอบและเตรียมตัวอ่านหนังสือมานานเกือบสองปี ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้น รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม เพราะนอกจากการทุจริต ก็ยังพบว่ามีคนชื่อซ้ำ ในการประกาศผลสอบด้วย บางคนมีนามสกุลเดียวกับนายตำรวจระดับสูง ส่วนที่ออกมาให้ข้อมูลก็เพราะอยากให้การสอบ โปร่งใสไร้ทุจริต อยากให้คนที่เข้าไปเป็นตำรวจต้องมีความซื่อสัตย์ เพราะหากเข้าไปได้ด้วยวิธีนี้ การทำงานในชีวิตราชการก็คงจะมีวิธีคิดไม่ต่างกัน .-สำนักข่าวไทย