ที่แท้ดีกรีแชมป์ “นักแม่นปืน” เจ้าของร้านทองยิงสู้โจรบุกปล้น

ตาก 9 ธ.ค. – เจ้าของร้านทองใจเด็ด คว้าปืนลูกซองยิงสู้ 4 โจรบุกปล้นระทึกกลางเมืองตาก โดนสอยร่วงบาดเจ็บ 1 คน จนมุมอีก 1 คน พบที่แท้เป็นถึงดีกรีแชมป์นักแม่นปืน


จากเหตุการณ์ 4 คนร้ายบุกปล้นทองที่ร้านทองบนถนนท่าเรือ อ.เมือง จ.ตาก วานนี้ (8 ธ.ค.) เจอเจ้าของร้านคว้าปืนลูกซองยิงสู้ พบ 2 ใน 4 คนร้าย คือนายวิชัย และนายเต๋อ มีหมายจับศาลจังหวัดแม่สอด คดีปล้นร้านทองกรุงเทพ 4 ในพื้นที่ ต.พบพระ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ของกลางเป็นทองรูปพรรณน้ำหนัก 182 บาท หลังก่อเหตุพากันหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนกลับมาปล้นร้านทองอีก แต่ครั้งนี้ไม่สำเร็จ

ภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุปล้น “ร้านทองกรุงเทพ 4” ตั้งอยู่บนถนนดอนเจดีย์-วาเล่ย์ หมู่ 1 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ใกล้กับทางเข้าออกหน้าโรงพยาบาล อ.พบพระ ซึ่งเป็นย่านชุมชน เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา


ภาพวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เห็นชัดเจนว่าคนร้าย 3 คน แต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ลงจากรถกระบะ ใช้ปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด ยิงถล่มร้านทอง จากนั้นใช้ค้อนตรงเข้าไปทุบกระจก และวิ่งเข้าไปกวาดทองรูปพรรณใส่กระเป๋า ก่อนวิ่งกลับไปขึ้นรถกระบะ ขับมุ่งหน้าหลบหนีไปทางแนวชายแดนไทย-เมียนมา

ระหว่างเกิดเหตุมีการยิงปืนทั้งคนร้ายและเจ้าของร้านทอง จนลูกค้าชายชาวเมียนมา อายุ 30 ปี ที่มาซื้อทองในขณะนั้น ถูกลูกหลง ถูกยิงหน้าอกซ้าย 1 นัด อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่เจ้าของร้าน 2 คนที่กำลังขายทองไม่ได้รับบาดเจ็บ

พฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายเป็นการปล้นอุกอาจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน อ.พบพระ โดยที่ตั้งของร้านทองที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก สภ.พบพระ รวมถึงที่ว่าการอำเภอ 1-2 กิโลเมตร อยู่ไม่ไกลจากชายแดน คนร้ายใช้อาวุธปืนได้อย่างคล่องแคล่ว วางแผนอย่างดี ทำงานทีม มีความชำนาญเส้นทางในการหลบหนี


หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่เดินทางตรวจสอบเส้นทางถนนลูกรัง เขตบ้านผากะเจ้อ หมู่ 9 ต.พบพระ จุดที่พบรถยนต์กระบะซึ่งคนร้ายปล้นมาใช้ก่อเหตุ โดยมัดเจ้าของรถไว้กับต้นไม้ ภายในรถพบวัตถุพยานหลักฐานที่สำคัญหลายรายการ

นอกจากนี้บริเวณถนนทางการเกษตรท้ายหมู่บ้านยะพอ หมู่ 5 ต.วาเล่ย์ พบรถยนต์กระบะโตโยต้าสีขาว เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นรถยนต์คันที่ 2 ที่กลุ่มคนร้ายขับมารับทีมปล้นทั้ง 3 คน ออกจากจุดทิ้งรถยนต์กระบะ นำคนร้ายทั้ง 3 คน ไปส่งจุดริมลำห้วยวาเล่ย์ ท้ายหมู่บ้านยะพอ

จุดนี้เจ้าหน้าที่นำสุนัขดมกลิ่นทางยุทธวิธีของทหารช่วยค้นหาจนพบวัตถุพยานหลักฐาน ทั้งกระเป๋าและค้อนเหล็กของคนร้ายอย่างละ 1 ชิ้น ตรวจพบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รองเท้าบู๊ท หมวกกันน็อก ของคนร้ายทั้ง 3 คน ที่ถอดทิ้งไว้ในลำห้วยวาเล่ย์ กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ท้ายหมู่บ้านยะพอ คนร้ายหลบหนีพร้อมอาวุธครบมือ ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ไม่ทราบขนาดหัวกระสุนที่แน่ชัดว่าเป็นขนาด .38 หรือ .357

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้าย หลังเกิดเหตุสามารถหลบหนีการจับกุมได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายพยายามไล่ล่าและสกัดจับ โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติเส้นทางหลบหนี มีการสรุปว่าเหตุการณ์ปล้นทองเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา คนร้ายทั้ง 3 คน กวาดทองรวมน้ำหนัก 182 บาท

ที่แท้ดีกรีแชมป์ “นักแม่นปืน” เจ้าของร้านทองยิงสู้โจรบุกปล้น
หลังปรากฏภาพคลิปเหตุการณ์ขณะเจ้าของร้านใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงต่อสู้กับคนร้าย ชาวเน็ตแห่หาข้อมูลอาวุธปืนลูกซองที่ใช้จนได้ข้อมูลว่าที่แท้นายพิสิฐ ระพิทย์พันธ์ เจ้าของร้านทอง เป็นนักกีฬายิงปืนระดับแชมป์ถ้วยรางวัลแม่นปืน โดยมีภาพถ้วยรางวัลหลายใบ พร้อมอาวุธปืนหลายกระบอก อยู่ภายในห้อง

นอกจากนั้นยังมีอาวุธปืนที่ใช้ยิงต่อสู้วางอยู่บนเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์ภายในร้านทองด้วย โดยมีข้อมูลเป็นอาวุธปืนลูกซองยี่ห้อ Benelli (เบเนลลี่) รุ่นเอ็มโฟร์ เอวัน เอ็นทรี (M4 A1 Entry) สนนราคาปืนรุ่นนี้กว่า 100,000 บาท

ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเป็นอาวุธปืนลูกซองยาวกึ่งอัตโนมัติ ผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตอาวุธปืน เบเนลลี่ อาร์มี ประเทศอิตาลี ลำกล้องขนาด 14 นิ้ว บรรจุกระสุน 5 นัด น้ำหนัก 3,670 กรัม ใช้กระสุนปืนลูกซองขนาด 12 นอกจากนี้เสื้อที่เจ้าของร้านใส่ในวันเกิดเหตุยังพบว่าเป็นเสื้อนักกีฬายิงปืน IPSC ยี่ห้อ CZ รุ่น Shadow ชัดเจนเลยว่ามีความชื่นชอบในการยิงปืนอย่างแน่นอน

เพจเฟซบุ๊ก “FLASHBLACKTactics” ซึ่งให้ความรู้เรื่องอาวุธปืน โพสต์ข้อความระบุว่า “มันต้องแบบนี้…ลูกซองนี่ คือปืนที่เหมาะสุดแล้วของปืนป้องกันบ้านและทรัพย์สิน”

ครูฝึกชื่นชมเจ้าของร้านทองฝีมือดี เผยฝึกยิงทั้งสามีและภรรยา
ขณะที่ พ.ต.กิตติ เกิดผล นายทหารกองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบก (มทบ.) 310 นายสนามยิงปืน มทบ.310 ในฐานะครูฝึกสอนการใช้อาวุธปืนให้กับนายพิสิฐ เจ้าของร้านทองห้างทองเยาวราช อ.เมือง จ.ตาก เปิดเผยว่า นายพิสิฐ หรือชื่อเล่นคือ เค มาอบรมในการใช้อาวุธปืนเบื้องต้นกับสนามของมณฑลทหารบกที่ 310 พร้อมภรรยา เมื่อ 8 ปีผ่านมา เป็นผู้ที่ชื่นชอบในกีฬายิงปืน เคยร่วมแข่งขันในรายการแข่งขันที่ทางสนามจัดแข่งใน จ.ตาก และได้ถ้วยรางวัล

พ.ต.กิตติ กล่าวว่า ทุกวันนี้เมื่อมีเวลาว่าง นายพิสิฐมักจะเข้าไปสนามเพื่อซ้อมยิงปืน ส่วนตัวมีปืนหลายกระบอก หลายชนิด แต่ละครั้งที่ไปจะนัดครูฝึกไปแนะนำการใช้งานอยู่เสมอ เป็นคนมีจิตใจดี ใจเย็น สอนง่าย การใช้ปืนอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว

ขณะที่เพจเฟซบุ๊กของร้านทองเยาวราช จ.ตาก โพสต์ล่าสุดว่า หลังเกิดเหตุตอนนี้ทางร้านขอปิดปรับปรุง 2-3 วัน และขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง

ทนายดังวิเคราะห์ “เจ้าของร้านทอง” เสี่ยงมีความผิดหรือไม่
หลังเกิดเหตุดังกล่าว มีการถกเถียงถึงประเด็นด้านข้อกฎหมายว่าการยิงปืนเข้าใส่กลุ่มคนร้ายของเจ้าของร้าน ถือเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุหรือไม่

ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ออกมาให้ความเห็นผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า คนร้ายหนีไปแล้ว ถือว่าภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายสิ้นไปแล้ว เจ้าของร้านทองยิงคนร้ายตาย ตามกฎหมายจะต้องรับผิดหรือไม่ เพราะเหตุใด

การยิงคนร้ายที่กำลังหนี โดยคนร้ายไม่ได้ต่อสู้ อ้างป้องกันไม่ได้ เพราะเหตุภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายได้ระงับสิ้นไปแล้ว แม้แต่อ้างป้องกันเกินกว่าเหตุก็ไม่อาจอ้างได้ พร้อมยกตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาเช่นกัน

ภายหลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ได้ส่งภาพเหตุการณ์คนร้ายออกไปอยู่นอกร้านทอง แต่ได้ชักปืนเล็งเป้าเข้ามาภายในร้านทองอีกครั้ง ทำให้ทนายเกิดผลโพสต์ข้อความอีกครั้งระบุว่า “…ถ้ามีภาพชัดขนาดนี้ว่าคนร้ายบางคนใช้อาวุธยิงต่อสู้เจ้าของร้านทอง ก็ถือว่าภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายยังมีอยู่ เจ้าของร้านยิงป้องกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ คนร้ายตายฟรี” เช่นเดียวกับทนายรัชพล ศิริสาคร โพสต์ข้อความหลังจากได้ดูภาพเหตุการณ์ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“กัญจนา” เชื่อ “วราวุธ’” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “หนูนา กัญจนา” ชี้พรรคชาติไทยพัฒนาแม้เป็นพรรคเล็ก แต่ศักดิ์ศรีรักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งใหญ่เสมอ เชื่อ “วราวุธ” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีคลิปเสียงสนทนาสองผู้นำไทย-กัมพูชา ว่า “ณ วันนี้ ดิฉันไม่ได้นิยามตัวเองเป็นนักการเมืองแล้ว ถอยออกมามานานแล้ว แต่ที่ดิฉันเป็นเสมอคือ เป็นคนไทยที่รักแผ่นดินเกิด “จุดยืนของดิฉันมั่นคงมาตลอดเหมือนพ่อ คือยึดมั่นต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเชื่อว่าน้องชายดิฉัน (นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ก็เช่นกัน” น.ส.กัญจนา ยังระบุอีกว่า “แม้ที่ผ่านมา เขาอาจจะพูดอะไรพลาดบ้าง นั่นก็เป็นบทเรียนในชีวิตให้เขาต้องจดจำ วันนี้ดิฉันแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แม้พรรคชาติไทยพัฒนาในวันนี้ จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่ศักดิ์ศรี และความรักบ้านเกิดเมืองนอนต้องยิ่งใหญ่เสมอ” “ดิฉันเชื่อว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ” -สำนักข่าวไทย

นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัว

19 มิ.ย.- นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี กลางดึก หลัง “ภูมิใจไทย” ประกาศถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ความเคลื่อนไหวช่วงกลางดึกในเวลา 21.08 น. ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะยื่นใบลาออกมีผลวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบทำประเทศเสียเกียรติภูมิ นั้น พบว่าสตอรี่อินสตราแกรมของ นายกรัฐมนตรี ยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านการรีโพสต์สตอรี่ ที่มีคนโพสต์และแท็ก โดยเป็นภาพระหว่างสื่อมวลชนตามสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นโพสต์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมใส่เพลง “ทำด้วยหัวใจ” โดยไม่มีการใส่แคปชั่น หรือระบุข้อความใดใดในภาพ รวมถึงคลิปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ด้วย -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย