ประจวบคีรีขันธ์ 8 ธ.ค. – เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 อุบัติเหตุรถไฟชนรถเก๋งฝ่าเครื่องกั้น บริเวณซอยหัวหิน 94 รวมเสียชีวิตยกคัน 4 ศพ ครอบครัวผู้เสียชีวิตเชิญดวงวิญญาณ ณ จุดเกิดเหตุ ขณะที่ชาวบ้านบอกผู้ใช้รถฝ่าสัญญาณเตือนบ่อย ด้าน รฟท.วอนประชาชนไม่ทำทางลักผ่านใช้เอง
ความคืบหน้าเหตุขบวนรถไฟด่วน ขบวนที่ 86 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร ชนรถเก๋งที่ขับฝ่าไม้กั้น บริเวณจุดตัดทางรถไฟซอยหัวหิน 94 ช่วงระหว่างสถานีรถไฟหนองแก-สถานีรถไฟหัวหิน ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (8 ธ.ค.65) ทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 3 ราย คือ ด.ต.วรา บัวภารังษี ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.หัวหิน น.ส.สุภาวดี และ น.ส.เอรีน่า และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ นายอามีรูณ เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลหัวหิน แต่ล่าสุดมีรายงานจากโรงพยาบาลว่า นายอามีรูณ เสียชีวิตแล้ว ทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 4 ราย
ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางความเศร้าเสียใจ
และจากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่า เครื่องกั้นทางรถไฟและระบบรางไม่ได้รับความเสียหาย แต่ระบบควบคุมเสียหาย ซึ่งทีมช่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย เร่งดำเนินการซ่อมแซม คาดว่าใช้เวลา 1-2 วัน ช่วงนี้จึงต้องมีเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่เปิด-ปิด แผงกั้นทางรถไฟ
ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดตัดทางรถไฟซอยหัวหิน 94 บอกตรงกันว่า บริเวณนี้มีรถสัญจรจำนวนมาก เนื่องจากอยู่ใจกลางเมืองหัวหิน และเครื่องกั้นรถไฟเป็นแบบอัตโนมัติ ความยาวของเหล็กกั้นกินพื้นที่ถนน 1 เลน ประชาชนจึงมักฝ่าสัญญาณเตือน โดยอาศัยจังหวะที่รถไฟยังมาไม่ถึง ขับลดเลี้ยว หรือมุดเครื่องกั้น ทำให้บางครั้งเกิดอุบัติเหตุ
ด้านนายพรชัย หนูสิทธิ์ นายสถานีรถไฟหัวหิน เผยว่า ขณะเกิดเหตุ ระบบสัญญาณเตือนทำงานเป็นปกติ ทั้งเหล็กกั้น สัญญาณเสียง และไฟเตือน จากการตรวจสอบพบว่า รถไฟได้ชะลอความเร็วลง เนื่องจากเป็นช่วงผ่านตัวเมือง และกำลังจะเข้าสถานีหัวหิน หลังเกิดเหตุพบว่า หัวรถจักรได้รับความเสียหาย ต้องนำหัวรถจักรขบวนอื่นมาดันขบวนรถให้เข้าสถานีหัวหิน เพื่อรอสับเปลี่ยนหัวรถจักรให้สามารถเดินรถต่อได้
รฟท.วอนประชาชนไม่ทำทางลักผ่านใช้เอง
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยืนยันว่า รฟท.มีนโยบายดำเนินการปิดจุดตัดทางลักผ่านที่มักก่อให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่ผ่านมาแก้ปัญหาไปแล้วกว่า 100 แห่ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตาม ไม่ทำทางลักผ่านและเปิดใช้กันเอง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นสำคัญ. – สำนักข่าวไทย