อีโอดีขยายพื้นที่ตรวจระเบิดรางรถไฟสงขลา

สงขลา 7 ธ.ค. – ชุดอีโอดีขยายพื้นที่ตรวจระเบิดรางรถไฟ ด้านเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ยุติแผนกู้ขบวนรถและซ่อมแซมรางชั่วคราว รอจนกว่าทุกอย่างจะปลอดภัย ขณะที่การเดินรถระหว่างสถานีชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ยังงดการเดินรถ รวมทั้งรถไฟขบวนท่องเที่ยว วันที่ 10 ธ.ค.นี้


ความคืบหน้าเหตุการณ์ความไม่สงบที่ จ.สงขลา หลังจากคนร้ายลอบวางระเบิดรถไฟขนส่งสินค้า ขบวนที่ 707 ระหว่างสถานีคลองแงะ-ปาดังเบซาร์ พื้นที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา และเหตุระเบิดซ้ำลูกสองจุดเดิม วานนี้ (6 ธ.ค.65) ทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ที่เข้าไปกู้ขบวนสินค้าและซ่อมแซมราง เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 4 คน

ล่าสุดวันนี้ (7 ธ.ค.65) เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ลงพื้นที่สแกนตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด และขยายพื้นที่ตรวจเส้นทางรถไฟออกไปจากจุดเกิดเหตุอีกอย่างน้อย 1 กิโลเมตร ตามคำร้องของเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีระเบิดหลงเหลืออยู่ และยังมีกำลังของหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ปูพรมตรวจเส้นทางรถไฟ ตั้งแต่สถานีรถไฟคลองแงะ จนถึงจุดที่เกิดระเบิด ระยะทางราว 3 กิโลเมตร และยังคงร่วมกับตำรวจในพื้นที่ รวมทั้งฝ่ายปกครอง เข้าไปคุมพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างต่อเนื่อง จนกว่าการตรวจสอบพื้นที่และการซ่อมแซมรางรถไฟจะแล้วเสร็จและกลับมาเดินรถตามปกติ


ผลพวงของระเบิดซ้ำลูกสอง เมื่อวานนี้ ทำให้แผนการเข้าไปกู้ขบวนรถไฟที่ตกรางและการซ่อมแซมรางต้องล่าช้าออกไปอีกอย่างน้อย 2 วัน เนื่องจากหน่วยซ่อมบำรุงทางและหน่วยยกรถของการรถไฟฯ ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ต้องรอเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเคลียร์พื้นที่อย่างละเอียด จนมั่นใจว่าปลอดภัยสูงสุด ถึงจะเริ่มเข้าไปกู้ขบวนรถและซ่อมแซมรางได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ถอนกำลังออกจากพื้นที่ชั่วคราว เพื่อรอการส่งมอบพื้นที่จากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

ในส่วนของระเบิดลูกสอง เกิดขึ้นห่างจากหลุมระเบิดลูกแรกประมาณ 200 เมตร และอยู่ห่างจากทางข้ามทางรถไฟ 300 เมตร พบวัตถุพยาน ทั้งชิ้นส่วนถังแก๊สปิกนิก ขนาด 4 กิโลกรัม แบตเตอรี่ ขนาด 1.5 โวลต์ สีแดง ชิ้นส่วนสายไฟสีขาว ชิ้นส่วนปลั๊กตัวผู้และปลั๊กตัวเมีย ชิ้นส่วนเหล็กเส้นตัดคละขนาด 8 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้เก็บไปตรวจสอบแล้ว

ขณะที่การระเบิดซ้ำถึง 2 ครั้ง ในเส้นทางรถไฟสายหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ พื้นที่หมู่ 2 บ้านท่าโพธิ์ออก ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา จ.สงขลา ทำให้การซ่อมบำรุงเส้นทางรถไฟต้องเลื่อนกำหนดออกไป จากเดิมที่ประเมินว่าจะสามารถเปิดใช้เส้นทางตามปกติในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เนื่องจากมีความเสียหายเพิ่มขึ้น ทำให้ขบวนรถไฟระหว่างประเทศ กัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่ ที่กำหนดจะเดินทางมายังสถานีรถไฟหาดใหญ่ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ต้องปรับเปลี่ยนเส้นทาง โดยขบวนรถจะสิ้นสุดปลายทางที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จากนั้นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ประมาณ 400 คน จะเดินทางโดยรถบัสไปยัง อ.หาดใหญ่ ต่อไป ส่วนอีก 2 เที่ยวของเดือนธันวาคม ขณะนี้ยังไม่มีการเลื่อนการเดินทางแต่อย่างใด


ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าฯ สงขลา พร้อมที่จะถอดบทเรียน เพื่อปรับแผนในการรักษาความสงบเรียบร้อยร่วมกับทุกหน่วยงาน โดยเน้นย้ำให้ดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันเมือง

สำหรับความคืบหน้าคดีระเบิดเส้นทางรถไฟในพื้นที่ ต.ท่าโพธิ์ อ.สะเดา ล่าสุด พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ระบุว่า มีความคืบหน้ามาก จากวัตถุพยานที่ได้ในที่เกิดเหตุ รวมถึงการสอบปากคำพยาน โดยกำหนดกรอบกลุ่มเป้าหมายที่ก่อเหตุในครั้งนี้เอาไว้แล้ว

คุมเข้มเส้นทางรถไฟสถานีตันหยงมัส จ.นราธิวาส

ส่วนที่ จ.นราธิวาส นายอำเภอระแงะ พร้อมผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 และรองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ.ระแงะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติและพบปะให้กำลังใจประชาชน ที่บริเวณสถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดเส้นทางรถไฟ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยกล่าวว่า การดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอระแงะ บูรณาการทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชน มีการประชุมวิเคราะห์สถานการณ์กันตลอด ขณะนี้เน้นย้ำการดูแลเส้นทางรถไฟ ซึ่งในพื้นที่จะเชื่อมต่อ อ.ระแงะ กับ อ.รือเสาะ มีประชาชนเข้ามาช่วยดูแล ร่วมกับทหารและตำรวจ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนช่วยสังเกต สอดส่องดูแลพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่โดยตรง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือโทร. ศปก.อำเภอระแงะ 073-671344 หรือสายด่วน 1341

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้สั่งการและกำชับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นปลอดภัยให้กับประชาชน บูรณาการทุกภาคส่วนในการดูแลเส้นทางรถไฟ การใช้โดรนหรืออากาศยานไร้คนขับในการตรวจการณ์ทางอากาศ ในพื้นที่สูงข่ม ท่อลอด คอสะพาน ที่ยากต่อการตรวจสอบ

ด้านประชาชนที่มาใช้บริการรถไฟ ยอมรับว่า หลังเกิดเหตุรู้สึกกลัวอยู่บ้าง เพราะในพื้นที่ยังมีสถานการณ์ความไม่สงบ แต่เชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

เช่นเดียวกับเสมียนรถไฟสถานีตันหยงมัส ก็ยังมีขวัญกำลังใจที่ดี ผู้บังคับบัญชาทุกระดับให้กำลังใจและสอบถามความเป็นอยู่. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย