นนทบุรี 4 ธ.ค.-ตำรวจรวบคนร้ายในคราบช่าง ฆ่าชิงทรัพย์สาวใหญ่อดีตแอร์โฮสเตส หมกศพคาหมู่บ้านหรู นาน 3 วัน ได้ทรัพย์สินไปมูลค่าหลายแสนบาท สารภาพนำเงินไปใช้หนี้พนัน และซื้อทองคำรูปพรรณเก็บสะสม
ตำรวจสืบสวน สน.โคกคราม ร่วมกับ ตำรวจ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี แถลงจับกุม นายโย (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์หญิง อายุประมาณ 50 ปี ภายในหมู่บ้านหรู ย่านนวลจันทร์ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยตำรวจจับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาย่านบางบัวทอง และสามารถยึดของกลางทรัพย์สิน ได้เป็น รถยนต์ 1 คัน, สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 10 บาท 1 เส้น, สร้อยข้อมือ น้ำหนัก 5 บาท, ทองตำแผ่น 1 สลึง, โทรศัพท์มือถือ และไอแพด
โดยพลตำรวจตรี อถรรพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 บอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากญาติผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ ( 3 พ.ย.) หลังจากที่ทางญาติผู้เสียชีวิต ได้นัดหมายกับผู้เสียชีวิตว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน แต่ไม่สามารถติดต่อผู้เสียชีวิตได้ จึงได้ไปหาผู้เสียชีวิตที่บ้าน และเมื่อเปิดเข้าไปภายในบ้านพบว่าเสียชีวิตแล้ว
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่า รถยนต์ของผู้เสียชีวิตหายไปจากบ้าน ชุดสืบสวนจึงได้แกะรอยจากกล้องวงจรปิดรถของผู้เสียชีวิต จนทำให้ทราบว่า ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ สีขาวของตนเองมายังบ้านผู้เสียชีวิต ในเวลา 13.50 น. ของวันที่ 30 พฤศจิกายน และเข้าไปในบ้านผู้เสียชีวิต จากนั้น เวลาประมาณ 15.30 น. ผู้ต้องหาได้ขับรถยนต์ สีน้ำเงิน ของผู้เสียชีวิตออกไปจากบ้าน ก่อนจะนั่งรถแท็กซี่ย้อนกลับมาเอารถยนต์สีขาวของตัวเองกลับไป
จากการสอบปากคำผู้ต้องหา พบว่าเป็นช่างซ่อมทำได้หลายอย่าง และเคยเข้าไปทำงานให้กับผู้เสียชีวิตที่บ้านมาแล้ว 2 ครั้ง และครั้งที่เกิดเหตุ เป็นครั้งที่3 ผู้เสียชีวิตได้โทรตามให้นายโย มาซ่อมท่อน้ำประปา จึงสามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ แต่ผู้ก่อเหตุ เห็นพฤติกรรมของผู้เสียชีวิตว่ามีการชำระเงินเป็นการโอนเงินผ่านบัญชีโดยใช้ไอแพด ทำให้ผู้ก่อเหตุเห็นจำนวนเงินในบัญชีและเห็นรหัส จึงสบโอกาสลงมือก่อเหตุเพื่อชิงทรัพย์ และจับผู้เสียหายมัดมือมัดเท้าและทำร้ายร่างกาย เชื่อว่าที่ทำร้าย เพราะมีการขัดขืนต่อสู้ และคนร้ายได้ใช้อาวุธเป็นมีดทำครัวจากภายในห้องครัวของผู้เสียชีวิต มาแทงตามร่างกาย 6 จุด ก่อนจะทิ้งอาวุธที่ใช้ก่อเหตุไว้ภายในห้องครัว
เบื้องต้น ตำรวจคาดว่า ไม่ได้วางแผนมาก่อน เพราะมีการแสดงตัวตนในการเข้าออกหมู่บ้านไม่ได้ปกปิดตัวตน และทรัพย์สินที่ผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ไป เป็นเงินสดที่ได้จากบัญชีของผู้เสียชีวิต 60,000 บาท และโอนเงินจากไอแพดของผู้เสียชีวิตอีกกว่า 4 แสนบาท ซึ่งผู้ต้องหานำเงินส่วนใหญ่ไปซื้อทองคำมาเก็บไว้ และส่วนหนึ่งไปจ่ายค่าพนันออนไลน์ อีกทั้ง ผู้ต้องหายังนำรถยนต์ของผู้เสียชีวิตไปขับขี่ใช้ในชีวิตประจำวันอีกด้วย จึงเชื่อว่า ผู้ก่อเหตุคงย่ามใจ
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบประวัติ เมื่อปี2553 ผู้ต้องหาเคยมีคดีชิงทรัพย์ในขณะที่ยังเป็นเยาวชน หลังจากนี้จะทำการตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์อำพรางตัวด้วยการเป็นช่างหวังจะไปชิงทรัพย์หรือไม่
ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ฝากเตือนด้วยว่า กรณีบุคคลที่อยู่บ้านคนเดียว ให้ระมัดระวังตัวเอง อย่าไว้ใจให้มีช่าง หรือใครมาที่บ้าน เพราะคนร้ายอาจจะใช้จังหวะสบโอกาสในการก่อเหตุได้.-สำนักข่าวไทย