fbpx

รวบผู้ต้องสงสัยยิงใส่ ร.ร.ประถม 18 นัดซ้อน

ระนอง 28 พ.ย. – เหตุระทึกที่โรงเรียนประถมใน จ.ระนอง มีกระสุนปริศนายิงใส่โรงเรียน 18 นัดซ้อน ล่าสุดเจ้าหน้าที่รวบผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นยังไม่ยอมให้การใดๆ ขณะที่ญาติอ้างผู้ต้องสงสัยมีอาการป่วยทางสมอง


เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วานนี้ (27 พ.ย.65) เกิดเหตุคนร้ายใช้ปืนยิงเข้าไปภายในลานกิจกรรมหน้าเสาธงของโรงเรียนเอกชนสอนภาษาจีน ระดับประถมศึกษา ในพื้นที่ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง ขณะเกิดเหตุมีนักเรียน 7-8 คน อยู่ภายในโรงเรียน โดยเข้ามาที่โรงเรียนในวันหยุด เพื่อฝึกซ้อมเตรียมแข่งขันทักษะวิชาการ ที่บริเวณลานกิจกรรมดังกล่าว โดยเสียงปืนดังมาจากอาคาร 4 ซึ่งอยู่ด้านข้างโรงเรียน ทำให้นักเรียนและครูต้องพากันวิ่งหนีเข้าไปหลบในอาคารเรียน

มีรายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีครูคนหนึ่งวิ่งขึ้นไปที่ชั้น 4 ของอาคารเรียน และได้ถ่ายคลิปขณะผู้ต้องสงสัยเลื่อนกระจกแล้วส่องปลายกระบอกปืนยาว ยิงเข้าใส่โรงเรียน ครั้งละ 2-3 นัด แล้วหลบเข้าไปในอาคาร ก่อนโผล่ออกมายิงใหม่ โดยทำอย่างนี้ประมาณ 6-7 ครั้ง


ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองกำลังทำงาน ได้รับแจ้งจากครูที่เข้าเวรโรงเรียนในช่วงวันหยุดว่า มีบุคคลคาดว่าอาศัยอยู่ใกล้กับโรงเรียน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงจากที่สูงด้านข้างโรงเรียน เข้ามาใส่บริเวณกลางสนามโรงเรียน ราว 18 นัด จึงรีบแจ้งตำรวจ สภ.เมืองระนอง เข้าตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุน 2 หัว เป็นชนิดหัวตะกั่ว

ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุ เปิดเผยด้วยว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนมีปัญหากับบ้านหลังหนึ่งที่ฟ้องร้องโรงเรียนมาตลอด เรื่องการทำกิจกรรมของนักเรียน ทั้งการร้องเพลงชาติ การจัดกิจกรรมสันทนาการ หรือช่วงพักเที่ยงของเด็ก มีการฟ้องร้องว่าส่งเสียงดัง ก่อนหน้านี้ก็เคยยิงใส่โรงเรียนหลายครั้ง จึงอยากขอวิงวอนไปยังผู้ใหญ่ทั้งระดับจังหวัดและระดับประเทศ ให้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไข เนื่องจากโรงเรียนมีเด็กจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึงประถมศึกษาปีที่ 6 หลังจากเกิดเหตุยิงใส่โรงเรียนครั้งนี้ มีผู้ปกครองโทรมาถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นจำนวนมาก และขอให้ปิดการเรียนการสอน จนกว่าจะเกิดความปลอดภัย ทั้งนี้ คนในพื้นที่ทราบดีว่า ผู้ก่อเหตุมีลักษณะเป็นเช่นไร แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถเอาผิดได้ ครูและผู้ปกครองต้องอยู่อย่างหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุอะไรอีกหรือไม่

เวลาต่อมา พล.ต.ต.เชิดพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ประสานกำลังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี พร้อมรายงานรองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นำกำลังตำรวจ สภ.เมืองระนอง ตำรวจชุดราชเดช ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมสถานการณ์ ร่วมกับกำลังฝ่ายจู่โจม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ใช้กฎอัยการศึกเข้าปิดล้อมบ้านผู้ต้องสงสัย เนื่องจากไม่ทราบแน่นอนว่า ผู้ต้องสงสัยมีอาวุธมากน้อยเพียงใด


ที่พักของผู้ต้องสงสัย เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น อยู่ติดกับทางเข้าโรงเรียน ตัวอาคารยาวไปถึงโรงเรียน โดยเจ้าหน้าที่เข้าพูดคุยกับบุคคลในบ้าน เพื่อทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ตามข้อมูลที่ได้รับจากบุคลากรครูและประชาชนใกล้เคียงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้ต้องสงสัยมีปัญหาร้องเรียนกับโรงเรียนมาตลอด โดยขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย มีประชาชนและผู้ปกครองมาเฝ้าติดตามสถานการณ์

เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง เข้าเจรจากับญาติของผู้ต้องสงสัย เก็บภาพจากกล้องวงจรปิด และสิ่งของที่อาจเกี่ยวข้อง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบอาวุธปืน คาดว่าน่าจะมีการนำปืนไปซ่อน ก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้น กระทั่งญาติยอมให้นำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำ เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยยังไม่ยอมให้การใดๆ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยขึ้นรถหุ้มเกราะออกจากบ้านพัก โดยขณะรถขับผ่าน ประชาชนที่มาสังเกตการณ์ได้พากันโห่ไล่หลัง

ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องสงสัยมาถึง สภ.เมืองระนอง ทั้งทหารและตำรวจได้ร่วมกันสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผู้ต้องสงสัยยังไม่ยอมให้การใดๆ โดยก่อนนำตัวมานั้น ทางญาติยังอ้างว่าผู้ต้องสงสัยมีอาการป่วยทางสมอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บอกให้นำหลักฐานมายืนยัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยไปฝากขังที่กองร้อยทหารราบที่ 2521 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ซึ่งตามกฎอัยการศึกสามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 7 วัน เพื่อทำการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น นำมาประกอบสำนวนคดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานกว่า 1,500 คน มาเรียนหนังสือ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง