กาญจนบุรี 24 พ.ย. – น้ำพุโซดาบาดาลยังอยู่ แม่ค้าอาหารตามสั่งวอนปรับภูมิทัศน์รับนักท่องเที่ยว นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยกระเจา ชวนดื่มน้ำแร่โซดาเพื่อสุขภาพ เผยอนาคตจะผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวถาวร
ผู้สื่อข่าวไปสำรวจพุโซดาบาดาล โครงการศึกษา สำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริ ในการหาแหล่งน้ำมาบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งซ้ำซากให้ประชาชนในพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ซึ่งพุโซดาที่ค้นพบตั้งอยู่หมู่ 12 บ้านสระตาโล อ.บ่อพลอย
สำหรับพุโซดาบาดาล ค้นพบครั้งแรกเมื่อช่วงเดือน ก.พ.2564 โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จากนั้นกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในระดับประเทศ แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 1,000 คน เดินทางมาทดลองดื่มน้ำพุที่มีรสชาติคล้ายโซดา รวมทั้งถ่ายภาพเซลฟี่กับน้ำพุที่พวยพุ่งขึ้นมาสูง 10-20 เมตร เพื่อเป็นที่ระลึก ทำให้มีร้านค้า ร้านอาหาร รวมทั้งร้านกาแฟผุดขึ้นรอบบริเวณ
เจ้าของร้านเจ้พิม เล่าว่า เปิดร้านขายอาหารจานเดียวมาตั้งแต่สมัยพุโซดาบาดาลเริ่มรุ่งเรือง สมัยก่อนมีร้านค้าอยู่เป็น 100 ร้าน ทำให้เม็ดเงินสะพัดในพื้นที่ แต่หลังโควิดระบาด สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็เริ่มซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด ร้านค้าทยอยปิดตัว จนตอนนี้เหลืออยู่แค่ 3 ร้าน / ส่วนวันหยุดแม้มีนักท่องเที่ยวมาบ้าง แต่นับว่ายังน้อย อยากฝากผู้เกี่ยวข้องว่าให้มาช่วยพัฒนาพื้นที่พุโซดาบาดาลให้กลับมารุ่งเรืองเหมือนในอดีต
ด้านนายอภิชาต สืบศักดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยกระเจา กล่าวว่า ปัจจุบันที่พุโซดาบาดาลยังคงมีแร่โซดาห้วยกระเจา ขายให้นักท่องเที่ยวที่มาเหมือนเดิม โดยขายเป็นแพ็ก โหล ราคา 100 บาท เงินที่ได้มานำไปจ่ายค่าไฟและค่าแรงให้คนดูแล ส่วนอนาคตเทศบาลจะนำตัวอย่างน้ำแร่ไปตรวจที่ อย. หาก อย.ผ่านให้แล้ว จะเริ่มทำแพ็กเกจให้สวยงาม เพื่อจะได้ซื้อไปเป็นของฝากในช่วงเทศกาล นอกจากนี้จะทำการโฆษณาเพื่อโปรโมทไปถึงเทศบาล หรือ อบต.และหน่วยงานต่างๆ ให้ทราบ หากหน่ายงานมีการจัดกิจกรรม เทศบาลก็จะนำไปแจกหรือขายเพื่อให้ทุกคนได้ทดลองดื่ม เพราะที่ผ่านมามีชาวบ้าหลายคนที่ได้ดื่มน้ำแร่โซดาห้วยกระเจา พบว่าสุขภาพดีขึ้น และบอกกันไปแบบปากต่อปาก . – สำนักข่าวไทย