ปัตตานี 16 พ.ย. – รองแม่ทัพภาคที่ 4 เผยเหตุคนร้ายวางระเบิดปั๊มน้ำมัน 2 แห่งใน จ.ปัตตานี หวังทำลายความเชื่อมั่นรัฐบาลช่วงประชุมเอเปค ขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว
เหตุคนร้ายวางระเบิดปั๊มน้ำมัน 2 แห่งในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 พ.ย.) จุดแรกที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.บานา อ.เมือง คนร้ายสองคนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดที่หัวจ่ายน้ำมัน ขณะนั้นพนักงานกำลังให้บริการลูกค้า คนร้ายชักอาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าและยิงไปที่หัวจ่ายน้ำมันหลายนัด พร้อมตะโกนว่ามีระเบิด ทำให้ชาวบ้านตกใจหนีตายออกจากปั๊ม ก่อนที่คนร้ายจะนำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิกนิก น้ำหนัก 15 กก. วางไว้ที่หัวจ่ายน้ำมัน ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป กระทั่งเกิดระเบิดขึ้น เป็นเหตุให้ปั๊มน้ำมันเกิดไฟไหม้ได้รับความเสียหายหนัก
เวลาไล่เลี่ยกัน คนร้ายก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน เข้าไปภายในปั๊มน้ำมันพีที ต.ปิยามุมัง อ.ยะหริ่ง นำระเบิดชนิดเดียวกันวางไว้ที่หัวจ่ายน้ำมันที่อยู่ใกล้กับถังน้ำมันใต้ดิน จากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป กระทั่งเกิดระเบิดขึ้น
ล่าสุด พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.บานา ซึ่งได้รับความเสียหายหนัก ภายในปั๊มมีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดกำลังตรวจสอบความเสียหาย รวมถึงค้นหาวัตถุพยานเพิ่มเติม เช่นเดียวกับที่ปั๊มน้ำมันพีที ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าตรวจหาวัตถุพยานเช่นเดียวกัน เบื้องต้นพบชิ้นส่วนระเบิดจำนวนหนึ่ง และปลอกกระสุนปืนกระจายทั่วบริเวณ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพขณะคนร้ายก่อเหตุได้ชัดเจน หลักฐานทั้งหมดถือเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
นอกจากนี้ชุดปฏิบัติการณ์ร่วมได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมาย อ.เมือง และ อ.ปะนาเระ ผลปฏิบัติไม่พบบุคคลต้องสงสัย คาดว่าน่าจะไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว
สำหรับกลุ่มที่ก่อเหตุนั้น ชุดสืบสวนสอบสวนคดีความมั่นคง ระบุว่าเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ก่อเหตุปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.บานา น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มนายอับดุลเลาะ มะเด ผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีความมั่นคงและเป็นแกนนำมือระเบิดในพื้นที่ ส่วนกลุ่มที่ก่อเหตุที่ปั๊มน้ำมันพีที น่าจะเป็นกลุ่มนายสุไลมาน สุหลง ผู้ต้องหาที่มีหมายจับคดีความมั่นคงและเป็นมือวางระเบิดในพื้นที่ อ.ปะนาเระ
พล.ต.ปราโมทย์ เปิดเผยว่า หลังรับทราบเหตุ ทางแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้ ฉก.ในพื้นที่เข้ามาควบคุมที่เกิดเหตุ และยกระดับรักษาความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเมื่อคืนหลังจากการรักษาความปลอดภัยได้ใช้ชุดพิทักษ์ในพื้นที่เข้าไปลาดตระเวนทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่เป็นเป้าหมายเสี่ยง เช่น ปั๊มน้ำมัน ในวันนี้ทางชุดอีโอดีจะเข้าไปตรวจสอบหาวัตถุพยาน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคิดว่าไม่เกินขีดความสามารถที่จะขยายผลตามจับกุมต่อไป ซึ่งสิ่งที่เป็นความพยายามของคนร้ายโดยตลอดคือ การทำลายภาพลักษณ์ทางเศรษฐกิจที่จะทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาล สำหรับเหตุจูงใจในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จะรวบรวมข้อมูลและสรุปอีกครั้ง ซึ่งน่าจะมีหลายปัจจัย.-สำนักข่าวไทย