ตีกันเละ! 2 หนุ่มไม่รู้จักกันนั่งกินก๋วยเตี๋ยวร่วมโต๊ะ

บุรีรัมย์ 13 พ.ย. – 2 หนุ่มไม่รู้จักกัน สั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วไปนั่งข้างกัน ทั้งที่ในร้านโต๊ะว่างเพียบ ก่อนจะทะเลาะวิวาทชุลมุน ใช้ขวดน้ำอัดลมฟาดใส่กันกว่า 20 ขวด


ชาย 2 คน เปิดศึกทะเลาะวิวาทกันอย่างหนัก ใช้ขวดน้ำอัดลมกระหน่ำตีศีรษะกันอย่างดุเดือด เหตุเกิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ริมถนนสายชำนิ-ลำปลายมาศ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเจ้าของร้านและชาวบ้านที่ตะโกนห้าม แต่ทั้งคู่ไม่ยอมหยุด

ในคลิปจะเห็นว่ามีผู้ชายรูปร่างท้วมมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านก่อนคนแรก สักพักมีผู้ชายรูปร่างผอม สวมเสื้อสีดำกางเกงขาสามส่วน เดินเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแล้วพอปรุงเสร็จ คนผอมได้ถือชามก๋วยเตี๋ยวเดินไปนั่งโต๊ะเดียวกันกับผู้ชายรูปร่างท้วมที่นั่งกินอยู่ก่อน ทั้งที่โต๊ะอื่นว่างอยู่ โดยระหว่างที่นั่งกิน ทั้งคู่ก็พูดคุยกันเหมือนคนรู้จักกันตามปกติ


ผ่านไปไม่นานผู้ชายรูปร่างท้วมได้ลุกจากโต๊ะเดินไปหยิบขวดน้ำอัดลมมา 1 ขวด แล้วเดินย้อนกลับไปที่โต๊ะใช้ขวดน้ำอัดลมที่ถือไปฟาดเข้าที่หน้าของผู้ชายตัวผอม จากนั้นเดินมาหยิบขวดน้ำอัดลมขวดที่ 2 เดินไปฟาดอีกครั้ง ทำให้ชายคนที่ผอมพูดว่า “เดี๋ยวก่อนพี่” แต่คนท้วมไม่ฟัง กลับกระชากคนผอมออกจากเก้าอี้ลากไปตรงโต๊ะที่วางลังน้ำอัดลมในร้านก๋วยเตี๋ยวคว้าขวดที่ 3 มาปาใส่อีกแต่ไม่โดน จากนั้นคนตัวผอมได้คว้าขวดน้ำอัดลมตีคนท้วมคืน ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเจ้าของร้านด้วยความตกใจและตะโกนให้คนช่วย

หลังจากนั้นมีผู้ชายสวมเสื้อสีชมพูเดินเข้ามาบอกให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุดยังเดินถือขวดไปฟาดคนท้วมที่ฟุบกับพื้นอีกหลายขวด ก่อนมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์มาดึงแขนชายคนผอมออกไป จากนั้นได้แจ้งหน่วยกู้ชีพมารับผู้บาดเจ็บทั้งสองคนส่ง รพ. เพราะมีเลือดอาบหน้าทั้งคู่ แต่คนที่เจ็บสาหัส คือ ชายรูปร่างท้วม

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวที่เกิดเหตุ พบว่ายังมีคราบเลือดจางๆ อยู่ที่พื้น แม้จะทำความสะอาดแล้ว จากการสอบถามเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว บอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน มีผู้ชายรูปร่างท้วมตามที่เห็นในคลิป ทราบภายหลังว่าเป็นพ่อค้าขายเนื้อหมู ขับรถซาเล้งมาจอดหน้าร้าน และเข้ามาสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนั่งรับประทานเหมือนลูกค้าทั่วไป ตอนแรกเห็นนั่งอยู่คนเดียว แต่สักพักมีผู้ชายรูปร่างผอม ซึ่งรู้ทีหลังว่ามาขายไม้ยูคาลิปตัสและไม้ทั่วไปที่ลานรับซื้อใกล้กับร้าน โดยขับรถอีแต๋นมาสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน พอปรุงเสร็จผู้ชายตัวผอมก็เดินถือชามก๋วยเตี๋ยวไปนั่งกับคนตัวท้วม ทั้งที่โต๊ะในร้านว่างหลายโต๊ะ ทีแรกนึกว่ารู้จักกันแต่จังหวะที่ตนเดินไปในบ้านเพื่อไปหาเงินทอนมาให้ลูกค้าอีกคน ปรากฏว่าเห็นตีกันแล้ว จนทำให้น้ำอัดลมหมดไปกว่า 20 ขวด แก้วแตกหลายใบและของในร้านพังเสียหาย ยืนยันว่า ทั้งคู่อยู่คนละหมู่บ้านและไม่รู้จักกันมาก่อน คาดว่าคงพูดไม่เข้าหูจึงเกิดเรื่อง


อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามรายละเอียดจากทาง สภ.ลำปลายมาศ ทราบว่ามีการมาแจ้งความกรณีทำร้ายร่างกายกันจริง แต่อยู่ระหว่างรอเรียกตัวมาสอบปากคำ เพราะทั้งคู่ยังบาดเจ็บ ล่าสุดผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ติดตามชายทั้ง 2 คนที่ปรากฏในคลิปเพื่อสอบถามสาเหตุที่แน่ชัด และได้พบกับนายภานุเดช อายุ 24 ปี ชายรูปร่างผอมที่ปรากฏในคลิปที่ถูกทำร้ายก่อน โดยสภาพใบหน้ามีบาดแผลถูกเย็บกว่า 10 เข็ม ซึ่งนายภานุเดช บอกว่า ขณะนั้นได้เดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วเห็นอีกฝ่ายยิ้มให้ จึงสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วเดินไปนั่งด้วยเพราะคิดว่าเป็นมิตรจากนั้นจึงสอบถามว่ารู้จักเพื่อนของตนเองหรือไม่ เพราะเห็นว่าอาจเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน แต่อีกฝ่ายไม่รู้ จากนั้นได้ถามว่าเคยติดคุกไหม เพราะเห็นรอยสัก อีกฝ่ายจึงตอบว่าเคยติดคดีพยายามฆ่า ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไปเอาขวดมาฟาด

จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับคู่กรณี ทราบชื่อ คือ นายวสันต์ อายุ 37 ปี (คนรูปร่างท้วม) พ่อค้าขายเนื้อหมูที่ตำบลบ้านยาง ซึ่งเพิ่งออกจากโรงพยาบาล สภาพใบหน้า และศีรษะปูดบวม มีแผลถูกเย็บเกือบทั้งหน้า และกรามเย็บกว่า 30 เข็ม จากที่ถูกอีกฝ่ายใช้ขวดตี นายวสันต์ ให้ข้อมูลว่า เห็นคู่กรณีเดินถือชามก๋วยเตี๋ยวมานั่งด้วยทั้งที่ไม่รู้จักกันมาแล้ว จากนั้นก็มาถามว่าเคยติดคุกไหม? ติดคดีอะไร? ทำให้รู้สึกถูกเหยียดหยามจิตใจ ซึ่งหากดูตามภาพจะเห็นว่าตนผิดที่เป็นฝ่ายไปตีเขาก่อน เพราะในคลิปไม่ได้ยินเสียงว่าเขาพูดเยาะเย้ยเหยียดหยาม ส่วนที่อีกฝ่ายไปแจ้งความว่าถูกทำร้ายและอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว ตนจะแจ้งกลับเหมือนกันว่าเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ เพราะตนก็บาดเจ็บสาหัสกว่าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

ขณะที่แม่ของนายวสันต์ บอกว่า ขอความเป็นธรรมของลูกชายด้วย เพราะถูกเหยียดหยามจิตใจ ซึ่งคนไม่เคยรู้จักกันไม่ควรถามเรื่องแบบนี้ เพราะตนเองทำอาชีพค้าขาย ยอมรับว่าลูกเคยติดคุกจริง 6 ปี คดีพยายามฆ่า แต่ก็ได้รับโทษไปหมดแล้ว ไม่ควรจะซ้ำเติมกันแบบนี้ เบื้องต้นตำรวจให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ร้านก๋วยเตี๋ยวคนละครึ่งกับคู่กรณีแต่อีกฝ่ายไม่ยอมจ่าย ตนก็ไม่อยากจะมีปัญหาจึงยอมชดใช้ฝ่ายเดียว 14,000 บาท ส่วนที่คู่กรณีเรียกร้องค่าเสียหาย 40,000 บาท คงไม่จ่าย เพราะลูกชายเจ็บเหมือนกัน

ด้านพนักงานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ บอกว่า เบื้องต้นนายภานุเดช มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ซึ่งก็ได้สอบปากคำเบื้องต้นไว้และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ขณะนี้รอผลตรวจยืนยันจากแพทย์ว่าบาดเจ็บสาหัสหรือไม่สาหัส หลังจากนั้นจะเรียกสอบคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย แต่หากอีกฝ่ายจะแจ้งความว่าถูกทำร้ายเหมือนกันก็เป็นสิทธิ์สามารถแจ้งได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พิเชษฐ์” ชิงปิดประชุมสภาฯ หลังถกวุ่นเสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 17 ก.ค.- “พิเชษฐ์” ทำแฮตทริก ชิงปิดประชุมสภาฯ หลัง “สส.ปชน.” เสนอนับองค์ประชุม ขณะที่ สส.เพื่อไทย ขอให้นับแบบขานชื่อ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ขณะรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 66 และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินประจำปีงบประมาณ 2566 ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีผู้อภิปรายไปเพียงคนเดียวคือนายเอกราช อุดมอำนวย สส.กทม. พรรคประชาชน ทำให้นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สส.ภูเก็ต พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายว่า เห็นสมาชิกในห้องประชุมบางตาอยากจะเช็คความตั้งใจการทำงานของสส.ฝ่ายรัฐบาล จึงขอนับองค์ประชุม และมีผู้รับรองถูกต้องจากนั้นนายพิเชษฐ์ กดออดเรียกสมาชิกพร้อมกล่าวว่า “ไม่อยากอภิปรายแล้วหรือ” พร้อมทั้งขอให้วิปรัฐบาลแจ้งสส.ที่อยู่ในห้องประชุมอื่นเพื่อรีบเข้าห้องประชุมใหญ่ ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การขอนับองค์ประชุมและมีผู้รับรอง ถือเป็นสิ่งสวยงาม แต่หากมีคนเสนอให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ คงใช้เวลาถึงค่ำ ดังนั้น ขอร้องเพื่อนสมาชิก เดือนนี้ขออย่านับองค์ประชุมเลย แล้วไปนับองค์ประชุมเดือนหน้า […]

เจ้าหน้าที่เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบเส้นเงิน

กทม. 17 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ 3 หน่วยงาน เข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสฯ ขอตรวจสอบเส้นเงิน หลังอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก มีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เนื่องจากเจ้าคุณประสิทธิ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิการบดี.-สำนักข่าวไทย

นักท่องเที่ยวแห่ชมปราสาทตาเมือนธม-ให้กำลังใจทหารต่อเนื่อง

สุรินทร์ 17 ก.ค. – กำลังใจไหลมาต่อเนื่อง สู่ทหารแนวหน้าบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ท่ามกลางการคุมเข้มตามข้อตกลงใหม่ หลังเกิดเหตุป่วนเมื่อ 2 วันก่อน กลุ่มเพื่อนดนตรีจิตอาสาจากกรุงเทพฯ นัดแต่งชุดธีมลายพราง ให้กำลังใจ พร้อมโชว์ลูกคอเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” แม้วันนี้จะยังไม่มีคณะทัวร์ใหญ่ แต่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศทยอยเดินทางเข้ามาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และให้กำลังใจทหารอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเปิด 09.00 น.ที่ผ่านมา นอกจากชมความงดงามปราสาทที่สร้างเป็นพระตำหนักของกษัตริย์ขอม อายุนับพันปีแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวสนใจคือ รอยต่อเขตแดนไทย-กัมพูชา บริเวณแนวต้นขี้เหล็ก ทางขึ้นตัวปราสาทด้านกัมพูชาที่เคยมีแนวรั้วไม้กั้น หลังเหตุปะทะปี 2554 แต่ต่อมามีการรื้อออกไปในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับกัมพูชา ซึ่งบริเวณเดียวกันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่หญิงกัมพูชาตะโกนใส่ทหารไทย ว่ารุกล้ำเขตแดน จนมีการกระทบกระทั่งกันเมื่อ 2 วันก่อน อีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพคือ หลักหมุด GPS ด้านหน้าทางขึ้นตัวปราสาทฝั่งไทย ซึ่งทหารไทยไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวกัมพูชารุกล้ำเกินหลักหมุดนี้ สำหรับแนวทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่กำชับไม่ให้ถ่ายภาพบริเวณทางเดินก่อนถึงตัวปราสาท และไม่ให้ตามเกมยั่วยุของอีกฝ่าย พร้อมย้ำให้สบายใจได้ว่าไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบเรื่องอธิปไตยเหนือตัวปราสาทอยู่แล้ว กลุ่มเพื่อนดนตรีจิตอาสาจากกรุงเทพฯ อดรนทนไม่ได้ที่เห็นกัมพูชายั่วยุบ่อยครั้ง จึงนัดกันแต่งชุดธีมลายพรางทหาร เพื่อแสดงความเป็นพวก ให้กำลังใจทหาร พร้อมโชว์ลูกคอในบทเพลง […]

“สีกากอล์ฟ” ปฏิเสธข้อหารีดทรัพย์-ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ อ้างแค่ยืมเงิน

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – รอง ผบก.ป. ระบุ “สีกากอล์ฟ” ปฏิเสธข้อหารีดเอาทรัพย์-ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ อ้างแค่ยืมเงิน และขอความร่วมมือ ไม่ได้บังคับ เผยแผนประทุษกรรม หวังได้มาซึ่งเงินเลี้ยงดู ยังพบทำคนเดียว ไม่มีผู้ร่วมขบวนการ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ “สีกากอล์ฟ” อายุ 35 ปี ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ระบุว่า ทางกองปราบฯ ได้แจ้งข้อหากับสีกากอล์ฟไป 2 ข้อหา คือข้อหารีดเอาทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ซึ่งสีกากอล์ฟให้การปฏิเสธ โดยประเด็นเรื่องเงินที่ตำรวจกล่าวหาว่า มีการขู่เอาเงินจากทิดแหล่ ถ้าไม่ให้เงินจะเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์แล้วจะทำให้ถูกปลด สีกากอล์ฟอ้างว่า ไม่ได้ขู่แบล็กเมล์เพื่อเอาเงินเป็นเพียงแค่ขอยืมไปจ่ายค่าเช่ารถ ส่วนข้อกล่าวหา เรื่องทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ที่ให้ทิดแหล่ เขียนร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์นั้น สีกากอล์ฟ อ้างว่า ไม่ได้บังคับให้เขียนร่างหนังสือแค่ขอให้ช่วยเฉย ๆ ทั้งนี้ เรื่องของความสัมพันธ์ จากการสอบปากคำ สีกากอล์ฟให้การทั้งกับความสัมพันธ์ ผู้เสียหายคือ ทิดแหล่ และพระรูปอื่นๆ ด้วย […]