บุรีรัมย์ 13 พ.ย. – 2 หนุ่มไม่รู้จักกัน สั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วไปนั่งข้างกัน ทั้งที่ในร้านโต๊ะว่างเพียบ ก่อนจะทะเลาะวิวาทชุลมุน ใช้ขวดน้ำอัดลมฟาดใส่กันกว่า 20 ขวด
ชาย 2 คน เปิดศึกทะเลาะวิวาทกันอย่างหนัก ใช้ขวดน้ำอัดลมกระหน่ำตีศีรษะกันอย่างดุเดือด เหตุเกิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง ริมถนนสายชำนิ-ลำปลายมาศ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเจ้าของร้านและชาวบ้านที่ตะโกนห้าม แต่ทั้งคู่ไม่ยอมหยุด
ในคลิปจะเห็นว่ามีผู้ชายรูปร่างท้วมมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านก่อนคนแรก สักพักมีผู้ชายรูปร่างผอม สวมเสื้อสีดำกางเกงขาสามส่วน เดินเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแล้วพอปรุงเสร็จ คนผอมได้ถือชามก๋วยเตี๋ยวเดินไปนั่งโต๊ะเดียวกันกับผู้ชายรูปร่างท้วมที่นั่งกินอยู่ก่อน ทั้งที่โต๊ะอื่นว่างอยู่ โดยระหว่างที่นั่งกิน ทั้งคู่ก็พูดคุยกันเหมือนคนรู้จักกันตามปกติ
ผ่านไปไม่นานผู้ชายรูปร่างท้วมได้ลุกจากโต๊ะเดินไปหยิบขวดน้ำอัดลมมา 1 ขวด แล้วเดินย้อนกลับไปที่โต๊ะใช้ขวดน้ำอัดลมที่ถือไปฟาดเข้าที่หน้าของผู้ชายตัวผอม จากนั้นเดินมาหยิบขวดน้ำอัดลมขวดที่ 2 เดินไปฟาดอีกครั้ง ทำให้ชายคนที่ผอมพูดว่า “เดี๋ยวก่อนพี่” แต่คนท้วมไม่ฟัง กลับกระชากคนผอมออกจากเก้าอี้ลากไปตรงโต๊ะที่วางลังน้ำอัดลมในร้านก๋วยเตี๋ยวคว้าขวดที่ 3 มาปาใส่อีกแต่ไม่โดน จากนั้นคนตัวผอมได้คว้าขวดน้ำอัดลมตีคนท้วมคืน ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเจ้าของร้านด้วยความตกใจและตะโกนให้คนช่วย
หลังจากนั้นมีผู้ชายสวมเสื้อสีชมพูเดินเข้ามาบอกให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุดยังเดินถือขวดไปฟาดคนท้วมที่ฟุบกับพื้นอีกหลายขวด ก่อนมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์มาดึงแขนชายคนผอมออกไป จากนั้นได้แจ้งหน่วยกู้ชีพมารับผู้บาดเจ็บทั้งสองคนส่ง รพ. เพราะมีเลือดอาบหน้าทั้งคู่ แต่คนที่เจ็บสาหัส คือ ชายรูปร่างท้วม
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ไปยังร้านก๋วยเตี๋ยวที่เกิดเหตุ พบว่ายังมีคราบเลือดจางๆ อยู่ที่พื้น แม้จะทำความสะอาดแล้ว จากการสอบถามเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว บอกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน มีผู้ชายรูปร่างท้วมตามที่เห็นในคลิป ทราบภายหลังว่าเป็นพ่อค้าขายเนื้อหมู ขับรถซาเล้งมาจอดหน้าร้าน และเข้ามาสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนั่งรับประทานเหมือนลูกค้าทั่วไป ตอนแรกเห็นนั่งอยู่คนเดียว แต่สักพักมีผู้ชายรูปร่างผอม ซึ่งรู้ทีหลังว่ามาขายไม้ยูคาลิปตัสและไม้ทั่วไปที่ลานรับซื้อใกล้กับร้าน โดยขับรถอีแต๋นมาสั่งก๋วยเตี๋ยวที่ร้าน พอปรุงเสร็จผู้ชายตัวผอมก็เดินถือชามก๋วยเตี๋ยวไปนั่งกับคนตัวท้วม ทั้งที่โต๊ะในร้านว่างหลายโต๊ะ ทีแรกนึกว่ารู้จักกันแต่จังหวะที่ตนเดินไปในบ้านเพื่อไปหาเงินทอนมาให้ลูกค้าอีกคน ปรากฏว่าเห็นตีกันแล้ว จนทำให้น้ำอัดลมหมดไปกว่า 20 ขวด แก้วแตกหลายใบและของในร้านพังเสียหาย ยืนยันว่า ทั้งคู่อยู่คนละหมู่บ้านและไม่รู้จักกันมาก่อน คาดว่าคงพูดไม่เข้าหูจึงเกิดเรื่อง
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามรายละเอียดจากทาง สภ.ลำปลายมาศ ทราบว่ามีการมาแจ้งความกรณีทำร้ายร่างกายกันจริง แต่อยู่ระหว่างรอเรียกตัวมาสอบปากคำ เพราะทั้งคู่ยังบาดเจ็บ ล่าสุดผู้สื่อข่าว สำนักข่าวไทย ลงพื้นที่ติดตามชายทั้ง 2 คนที่ปรากฏในคลิปเพื่อสอบถามสาเหตุที่แน่ชัด และได้พบกับนายภานุเดช อายุ 24 ปี ชายรูปร่างผอมที่ปรากฏในคลิปที่ถูกทำร้ายก่อน โดยสภาพใบหน้ามีบาดแผลถูกเย็บกว่า 10 เข็ม ซึ่งนายภานุเดช บอกว่า ขณะนั้นได้เดินเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยว แล้วเห็นอีกฝ่ายยิ้มให้ จึงสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วเดินไปนั่งด้วยเพราะคิดว่าเป็นมิตรจากนั้นจึงสอบถามว่ารู้จักเพื่อนของตนเองหรือไม่ เพราะเห็นว่าอาจเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน แต่อีกฝ่ายไม่รู้ จากนั้นได้ถามว่าเคยติดคุกไหม เพราะเห็นรอยสัก อีกฝ่ายจึงตอบว่าเคยติดคดีพยายามฆ่า ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินไปเอาขวดมาฟาด
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับคู่กรณี ทราบชื่อ คือ นายวสันต์ อายุ 37 ปี (คนรูปร่างท้วม) พ่อค้าขายเนื้อหมูที่ตำบลบ้านยาง ซึ่งเพิ่งออกจากโรงพยาบาล สภาพใบหน้า และศีรษะปูดบวม มีแผลถูกเย็บเกือบทั้งหน้า และกรามเย็บกว่า 30 เข็ม จากที่ถูกอีกฝ่ายใช้ขวดตี นายวสันต์ ให้ข้อมูลว่า เห็นคู่กรณีเดินถือชามก๋วยเตี๋ยวมานั่งด้วยทั้งที่ไม่รู้จักกันมาแล้ว จากนั้นก็มาถามว่าเคยติดคุกไหม? ติดคดีอะไร? ทำให้รู้สึกถูกเหยียดหยามจิตใจ ซึ่งหากดูตามภาพจะเห็นว่าตนผิดที่เป็นฝ่ายไปตีเขาก่อน เพราะในคลิปไม่ได้ยินเสียงว่าเขาพูดเยาะเย้ยเหยียดหยาม ส่วนที่อีกฝ่ายไปแจ้งความว่าถูกทำร้ายและอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว ตนจะแจ้งกลับเหมือนกันว่าเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ เพราะตนก็บาดเจ็บสาหัสกว่าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
ขณะที่แม่ของนายวสันต์ บอกว่า ขอความเป็นธรรมของลูกชายด้วย เพราะถูกเหยียดหยามจิตใจ ซึ่งคนไม่เคยรู้จักกันไม่ควรถามเรื่องแบบนี้ เพราะตนเองทำอาชีพค้าขาย ยอมรับว่าลูกเคยติดคุกจริง 6 ปี คดีพยายามฆ่า แต่ก็ได้รับโทษไปหมดแล้ว ไม่ควรจะซ้ำเติมกันแบบนี้ เบื้องต้นตำรวจให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ร้านก๋วยเตี๋ยวคนละครึ่งกับคู่กรณีแต่อีกฝ่ายไม่ยอมจ่าย ตนก็ไม่อยากจะมีปัญหาจึงยอมชดใช้ฝ่ายเดียว 14,000 บาท ส่วนที่คู่กรณีเรียกร้องค่าเสียหาย 40,000 บาท คงไม่จ่าย เพราะลูกชายเจ็บเหมือนกัน
ด้านพนักงานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ บอกว่า เบื้องต้นนายภานุเดช มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ซึ่งก็ได้สอบปากคำเบื้องต้นไว้และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ขณะนี้รอผลตรวจยืนยันจากแพทย์ว่าบาดเจ็บสาหัสหรือไม่สาหัส หลังจากนั้นจะเรียกสอบคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย แต่หากอีกฝ่ายจะแจ้งความว่าถูกทำร้ายเหมือนกันก็เป็นสิทธิ์สามารถแจ้งได้ .-สำนักข่าวไทย